ไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหนแล้ว ฟู่ซือหานถอนตัวออกและลุกขึ้นจากเตียง เพื่อจัดระเบียบเสื้อผ้าของตนเองพร้อมทั้งใช้ดวงตาเชือดเฉือนจ้องมองเธอตาเขม็ง
“ผู้หญิงโสโครกเงินแก่เงิน คืนนี้เธอก็เฝ้าห้องหออันว่างเปล่าไปคนเดียวเถอะ”
ฟู่ซือหานพูดประโยคนี้ทิ้งท้ายเอาไว้ จากนั้นก็หันหลังและเดินออกไปอย่างไร้เยื่อใย
กู้ชิงเกอหดตัวซุกอยู่ในผ้าห่ม เธอที่ผ่านการถูกหยามหมิ่นอย่างน่าเวทนาเวลานี้ก็เหมือนกับดอกไม้อันแสนบอบช้ำจากการโดนพายุพัดโหมกระหน่ำมา ร่างกายสั่นเทาที่กำลังซุกซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม
ผู้ชายโหดร้ายคนนั้นเดินออกไปแล้ว แต่หัวใจของกู้ชิงเกอกลับเจ็บทุรนทุรายจนหายใจไม่ออก
เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเขาจะกลับมา อีกทั้งหลังจากกลับมาก็ยังข่มเหงเธอ แต่ว่าความบริสุทธิ์ของเธอถูกผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งตักตวงไปหมดสิ้นก่อนหน้านี้แล้ว รวมถึงสร้อยคอเส้นนั้นด้วย
กระทั่งเวลานี้เธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าผู้ชายคนนั้นชื่ออะไร...
เธอสิ้นหวังมาก วันเวลาในภายภาคหน้าเธอควรจะทำอย่างไรดี?
บนหมอนมีน้ำตาเปียกชุ่ม กู้ชิงเกอหลับตาลง
คุณแม่ คุณแม่ต้องการให้หนูแต่งงานกับคนนั้นเหรอคะ หนูทำความฝันคุณแม่สำเร็จแล้วนะ แต่ความฝันของหนู่ล่ะ ... ใครจะเป็นคนทำความฝันของหนูให้มันเป็นจริงได้ล่ะ?
*
เช้าวันรุ่งขึ้น
น้าซูมาเคาะประตูห้องเพื่อให้เธอไปกินข้าวเช้า
จังหวะที่กู้ชิงเกอลงจากเตียงเกือบลื่นล้มหน้าคะมำ เพราะหลังจากเมื่อคืนโดนฟู่ซือหานปู้ยี่ปู้ยำ ตอนนี้สภาพร่างกายของเธอเจ็บปวดจวนจะทนไม่ไหวซึ่งราวกับโดนรถไฟบดขยี้เช่นนั้น
เธออดกลั้นกับความเจ็บปวดตรงหว่างขาเมื่อล้างหน้าล้างตาเสร็จจึงลงไปชั้นล่าง แววตาคุณหญิงฟู่จ้องมองเธอแปลกพิกล “เมื่อคืนซือหานกลับมาด้วยเหรอ?”
เมื่อกู้ชิงเกอได้ยิน พลันชะงักเล็กน้อย จากนั้นจึงพยักหน้าทันที
ดังนั้นคุณหญิงฟู่จึงเข้าใจว่าทำไมเธอถึงเดินทุลักทุเลอยู่สักพัก เธอยกมือขึ้นเพื่อรวบผมที่คลอเคลียอยู่ข้างแก้มไปไว้ทางด้านหลัง
“ดีมาก วันเวลาจากนี้เธอต้องขยันไว้เยอะๆ ความหมายของคุณย่าซือหานก็คือ อยากจะอุ้มเหลนไวๆ เธอเข้าใจความหมายของฉันใช่มั้ย?”
กู้ชิงเกอผงะเล็กน้อย จากนั้นพลันเม้มปากและพยักหน้าตามหลัง “หนูเข้าใจค่ะ”
“เข้าใจก็ดี” ระหว่างที่คุณหญิงฟู่กำลังพูดอยู่นั้นจู่ๆ ก็หยิบบัตรเอทีเอ็มขึ้นมาหนึ่งใบและวางด้านหน้าเธอ “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอก็คือคนในตระกูลฟู่ของเรา อีกสักพักก็ออกไปซื้อเสื้อผ้าที่ดูมีหน้ามีตาหน่อยเถอะ อย่าใส่เสื้อผ้าเสียภาพพจน์จนทำให้อับอายขายขี้หน้าแบบนี้ออกไปเลย”
กู้ชิงเกอจ้องมองการ์ดใบนั้นอย่างไม่ได้แตะต้อง “ขอบคุณค่ะคุณแม่ แต่หนูมีเงินอยู่ค่ะ”
“ให้เธอนี่แหละ เธอเอาเก็บไว้เถอะ” คุณหญิงฟู่วางช้อนในมือลง เครื่องเซรามิกกระทบกันจนเกิดเสียงดังชัดเจน
“คุณนายน้อย คุณเก็บไว้เถอะค่ะ” น้าซูที่อยู่ทางด้านข้างรีบพูดเกลี้ยกล่อมอย่างรวบรัด กู้ชิงเกอหมดความอดทน จึงยื่นมือออกมารับการ์ดเอาไว้
คุณหญิงฟู่ถือน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพที่อยู่ด้านข้างแก้วหนึ่งพลันดื่มหนึ่งอึก “กินข้าวเถอะ กินข้าวเช้าเสร็จให้น้าซูพาเธอไป”
“ค่ะ”
เธอแทบไม่มีตำแหน่งใดๆ ในตระกูลฟู่ เพราะกู้ชิงเกอรู้แจ้งอยู่แก่ใจ แทนที่จะบอกว่าตนเองแต่งเข้ามา สู้พูดว่าตระกูลฟู่ใช้เงินสิบล้านเพื่อซื้อเธอมาเสียดีกว่า
เงินสิบล้าน...
คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าในชีวิตนี้ ปรากฏว่าเธอมีราคาค่าตัวถึงราคานี้เลย เธอไม่รู้ว่าควรจะร้องไห้หรือว่าควรรู้สึกเป็นเกียรติดี
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ตอนที่กู้ชิงเกอเก็บเรียบร้อยเพื่อเตรียมตัวออกจากบ้านไปพร้อมกับน้าซูและคนขับรถ ก็ได้เจอฟู่ซือหานที่กำลังเดินลงชั้นล่างพอดี
เสื้อเชิ้ตสีขาวไร้รอยยับย่น รองเท้าหนังมันวาวคู่หนึ่งที่อยู่ใต้กางกางยาว เขาเพิ่งลงมาจากชั้นบน ด้วยท่าทางเย่อหยิ่งสันโดษแต่เพียงผู้เดียว
“มานี่”
โทนเสียงของเขาเย็นเฉียบไร้ความรู้สึก ไม่รู้ว่ากำลังกล่าวกับใคร
กู้ชิงเกอย่อมไม่คิดทึกทักเข้าข้างตัวเองว่าเขากำลังเรียกตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่สนใจเขา กระทั่งน้าซูผลักเธอเล็กน้อย พลันกระซิบพูด “คุณนายน้อย คุณชายกำลังเรียกคุณอยู่นะ”
เมื่อกู้ชิงเกอได้ยิน จึงได้สติกลับมาทันที ฟู่ซือหานเขากำลังเรียกตนเองอยู่เหรอ?
กู้ชิงเกอมองมาทางเขา จังหวะที่สบตากับดวงตาดั่งพญาเหยี่ยวของเขาคู่นั้น จึงหวนคิดถึงความโหดเหี้ยมและทารุณของเขาเมื่อคืนนี้ขึ้นมา ใบหน้าขาวหมดจดเห่อแดงทันที
“หูตึงหรือว่าเดินไม่เป็น?” จู่ๆ เขาก็ตำหนิอย่างเย็นชาสวนกลับมาประโยคหนึ่ง ต่อหน้าบ่าวไพร่อีกด้วย
กู้ชิงเกอกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น มือเล็กๆ กำหมัดและเดินมุ่งหน้าไปทางเขา
“มี ธุระอะไร?”
เมื่อกู้ชิงเกอเดินมาอยู่หน้าเขา จึงเอ่ยถาม
ฟู่ซือหานยื่นมือออกไป พลันคว้าเธอเพื่อดึงเข้าอ้อมกอดของตนเอง กู้ชิงเกอตกใจจนยกมือขึ้นมาป้องบริเวณด้านหน้าของตนเอง พลันใช่สีหน้าหวาดหวั่นจ้องมองเขา
ถึงแม้จะพูดว่าผู้ชายคนนี้ที่อยู่ด้านหน้าเป็นคนที่เธอจดทะเบียนสมรสแล้วก็ตาม แต่ยังน่าสยดสยองกว่าปีศาจซาตานตั้งเยอะ
“เรื่องเมื่อคืน...” ฟู่ซือหานเอ่ยปากเสียงเย็นชา
กู้ชิงเกอหน้าถอดสีทันที ฟู่ซือหานหรี่ตาพลางเขยิบเข้าใกล้ ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดลงบนใบหน้าของเธอ เธอตกใจจนหลับตาปี๋ พยายามใช้เรี่ยวแรงผลักเขาออก
“ยัยนี่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่?”
เมื่อกู้ชิงเกอได้ยิน จึงเบิกตาโพล่ง จนเห็นใบหน้าหล่อเหลาของฟู่ซือหานอยู่ใกล้แค่คืบ ลมหายใจอันอบอุ่นที่เขาพ่นออกมา แต่บรรยากาศที่อยู่รอบกายกลับเย็นเฉียบ
ระยะห่างใกล้เพียงนี้ ฟู่ซือหานจ้องมองดวงตาอันบริสุทธิ์คู่นั้นของเธอ และใบหน้าหวาดกลัวที่คอยจ้องมองตนเองได้อย่างชัดเจน
ยัยผู้หญิงบ้าบอคนนี้ ทำไมถึงได้มีดวงตาอันใสบริสุทธิ์แบบนี้ได้นะ?
ทันใดนั้นเขาก็บีบปลายคางของเธอ พลันกัดฟันพูด “เธออาศัยดวงตาคู่นี้เพื่อเรียกความสนใจจากผู้ชายจำนวนไม่น้อยเลยใช่มั้ย?”
อะไรนะ?
กู้ชิงเกอย่นคิ้วงามเข้าหากัน พลันผลักเขาออก “ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูดอยู่”
“ไม่เข้าใจ? หึ งั้นก็เงี่ยหูฟังดีๆ จำไว้ด้วยอีกสักพักตอนออกไปก็ไปซื้อยาที่ร้านขายยาด้วย ได้ยินชัดมั้ย?”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เอาสองชุดนี้แล้วกัน”
เธอหยิบกระโปรงสีอ่อนมาสองชุดอย่างไม่ตั้งใจ น้าซูที่อยู่ด้านข้างพยักหน้าอย่างพอใจ “คุณนายน้อย ไม่เลือกแบบอื่นอีกเหรอคะ?”
“ตอนนี้ยังก่อนค่ะ” กู้ชิงเกอส่ายหน้า
กระโปรงตัวเดียวราคาปาเข้าไปเกือบแสนแล้ว สองตัวก็เหยียบสองถึงสามแสน นี่เธอ....เอาตัวเองไปขายยังจ่ายไม่ไหวเลย
เส้นทางขากลับต้องผ่านร้านขายยา กู้ชิงเกอคิดถึงคำพูดของฟู่ซือหานที่พูดกับเธอเมื่อเช้า เธอจึงให้คนขับจอดรถ
“คุณนายน้อยมีอะไรที่ต้องซื้ออีกคะ?”
“ฉะ ฉันขอซื้อของนิดหน่อย พวกคุณไม่ต้องตามฉันมาหรอกค่ะ”
พูดจบ เธอผลักประตูรถและลงจากรถอย่างตื่นตระหนก หลังจากเข้าร้านขายยา กู้ชิงเกอบอกพนักงานขายยาว่าต้องการซื้อยาคุมกำเนิด และก็ไม่รู้ว่าสภาพจิตใจของตัวเธอเองหรือว่าอะไรกันแน่ มักรู้สึกว่าพนักงานในร้านและพวกลูกค้าต่างจ้องมองเธอด้วยสายตาดูแคลน
หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อย กู้ชิงเกอนำขวดยายัดใส่กระเป๋าทันที จากนั้นก็รีบออกจากร้านขายยา
น้าซูที่อยู่ทางด้านข้างเห็นเธอเดินออก และเดินเข้าอย่างรีบร้อน จนรู้สึกแปลกใจอย่างไม่รู้ตัว
“คุณนายน้อย คุณไปซื้ออะไรมาคะ? ให้น้าช่วยมั้ย?”
เมื่อกู้ชิงเกอได้ยิน พลันหลบตาเล็กน้อย และส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกค่ะน้าซู ฉันซื้อมาเรียบร้อยแล้ว”
“คุณนายน้อยซื้ออะไรมาคะ?” น้าซูเห็นว่ามือว่างเปล่า จึงเกิดความสงสัยขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
กู้ชิงเกออ้างเหตุผลขึ้นมาทันที “เปล่าค่ะ ฉันแค่ซื้อพวกวิตามิน แต่ในร้านนี้ไม่มียี่ห้อที่ฉันต้องการค่ะ”
“อ้อ แบบนี้เอง? คุณนายน้อยต้องการยี่ห้อไหน บอกน้าซูเอาไว้ น้าซูจะให้คนไปซื้อมาให้คุณค่ะ”
กู้ชิงเกอพูดไม่ออกเวลานั้น จึงพูดยี่ห้อของวิตามินออกไปตามน้ำ น้าซูยิ้มและเดินเข้าไปเพื่อประคองเธอ “อีกสักพักจะให้คนไปซื้อมาให้ เรากลับกันเถอะค่ะ”
“ค่ะ”
……
ตกกลางคืน กู้ชิงเกอนั่งอยู่ข้างเตียงอย่างใจจดใจจ่อเพราะไม่สบายใจ หัวใจร้อนรุ่ม
คำพูดที่ฟู่ซือหานพูดกับเธอ เธอไม่มีวันลืม แต่เธอได้ยินมาว่ายาจำพวกนั้นมันทำร้ายร่างกายของผู้หญิงอย่างมาก อีกอย่างคุณแม่ก็พูดว่าให้เธอพยายามมีลูกให้ได้
แต่ฟู่ซือหานก็พูดว่าเธอไม่คู่ควรที่จะมีลูก
ดังนั้นยานี้เธอควรจะกินหรือไม่กินดีล่ะ?
จังหวะที่กู้ชิงเกอกำลังคิดไม่ตกนั้น บานประตูก็ส่งเสียงดังขึ้น กู้ชิงเกอที่นั่งไม่ติดตกใจจนตัวสั่นเทาทันที
จากนั้นหัวใจทั้งดวงพลันเต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่ง สำหรับเธอแล้วฟู่ซือหานในเวลานี้เหมือนกับปีศาจร้ายที่มีตัวตนอยู่เช่นนั้น
เพราะว่าเธอแทบไม่รู้เลยว่าคืนนี้เขาจะทำพฤติกรรมอันชั่วร้ายโดยการต่อยอดจากเมื่อคืนหรือไม่ และคำพูดที่เขาพูดตอนกลางวันด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน