เผด็จรัก หัวใจซาตาน นิยาย บท 8

ทันใดนั้นฝีเท้าฟู่ซือหานชะงักทันที กู้ชิงเกอรั้งไว้ไม่ทันจึงชนแผ่นหลังกำยำของเขาทันควัน จมูกกู้ชิงเกอกระแทกจนแดงขึ้นมา

“จำไว้ให้ดี ต่อหน้าสาธารณชนเธอคือภรรยาของฉัน ลับหลังเธอไม่ใช่อะไรทั้งนั้น พรุ่งนี้ต้องไปโรงพยาบาล อย่าได้แพร่งพรายเรื่องสัญญาออกไปเป็นอันขาด”

กู้ชิงเกอยังคงยืนกรานกับความเชื่อมั่นของตนเอง “แต่คุณยังไม่ตอบตกลงกับเงื่อนไขที่ฉันเอ่ยถึงเมื่อกี้นี้เลย”

เมื่อฟู่ซือหานได้ยินจึงขมวดคิ้วไว้แน่น เส้นขมับข้างหน้าผากเต้นเล็กน้อย ยัยเด็กบ้าคนนี้... ยังไม่จบไม่สิ้นจริงๆ สินะ

เขาหันตัวกลับมาทันที พร้อมทั้งตรึงร่างกายอ้อนแอ้นของเธอ พลางดันให้ติดกับกำแพงเย็นเฉียบ

“ว๊าย—"

กู้ชิงเกอกรีดร้องเสียงหลง ยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง ก็มองเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของฟู่ซือหานเขยิบแนบชิดมายังตนเอง เธอตกใจจนหลับตาปี๋ พลางยื่นมือผลักเขา

ฟู่ซือหานหรี่ตา พร้อมทั้งจ้องมองสาวน้อยที่ถูกตนเองดันให้ติดกำแพงที่กำลังทำหน้าตาหวาดวิตกจนไม่รู้จะทำยังไงดี ความรู้สึกที่แสดงออกทางสีหน้าของเธอรวมถึงความตื่นตระหนกจากดวงตามันไม่ใช่การแสดง แต่มันเป็นความจริงทั้งหมด

หรือว่า ...เธอไม่อยากให้ตนเองแตะต้องเธอจริงๆ?

“เชอะ~” จู่ๆ ฟู่ซือหานก็หัวเราะออกมา นิ้วมือหยาบกร้านที่คีบใบหน้าเล็กๆ ของเธอเอาไว้ “ไม่จำเป็นต้องมาเล่นละครตบตาให้ฉันดูหรอก เพราะว่าจะยังไงก็ตาม ต่อจากนี้ฉันจะไม่แตะต้องตัวเธออีก เข้าใจยัง?”

กู้ชิงเกอเงยหน้าอย่างรีบร้อน ดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์คู่นั้นสบตากับดวงตาอันเย็นชาไร้ความรู้สึกอย่างเปิดเผย

การต่อสู้กับผู้ชายคนหนึ่ง ยังไงก็ตามพละกำลังของเธอก็สู้เขาไม่ชนะอยู่ดี กู้ชิงเกอทำได้แต่กัดริมฝีปากล่างของตนเองต่อหน้าเขา เพื่อกดเสียงให้ต่ำลงไปอีก

“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ...”

ท่าทางน่าเวทนาจับใจ เพราะว่าเพิ่งจะมีปากเสียงกับเขาเมื่อครู่นี้จนเบ้าตาแดง ช่างเหมือนกับกระต่ายตัวน้อยที่ถูกรังแกมา จนทำให้รู้สึกสงสาร

สงสารเหรอ?

ฟู่ซือหานชะงักทันที พลันดึงมือของตนเองกลับพร้อมกัน

น่าขบขันถึงที่สุดจริงๆ แล้วทำไมเขาต้องเกิดความรู้สึกสงสารกับผู้หญิงแบบนี้ด้วยล่ะ?

ฟู่ซือหานถอยหลังไปหลายก้าว พลางใช้สายตาเย็นเฉียบกวาดตามองเธอ พลันเม้มริมฝีปากและเดินจากไป

กู้ชิงเกอยืนชิดกำแพงอยู่สักพัก ร่างกายอ้อนแอ้นนั่งยองๆ ลงเพื่อปรับสภาพอยู่สักพัก จึงได้ย่ำเท้าเดินกลับไปยังโซฟาในสถานที่ที่เป็นของเธอ

หลังจากเอนหลังนอนแล้ว ด้านนอกก็ไร้เสียง กู้ชิงเกอหันหลังให้เตียงใหญ่ เมื่อดึงผ้าห่มคลุมโปงพลันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ท้องฟ้าของเธอเป็นสีฟ้าคราม ทุกอย่างสวยงามสมบูรณ์แบบ แต่ตั้งแต่ที่เธอตกปากรับคำแต่งงานเข้าตระกูลนี้แล้ว เหมือนวงจรโชคชะตาหักเหไปมาก

ท้องฟ้าสีฟ้าอันบริสุทธิ์ที่เป็นของเธอกู้ชิงเกอก็ไม่มีอีกแล้ว โลกเดิมของเธอพังพินาศหมดสิ้น เธอในเวลานี้ ...เหมือน ...จะ ....ไม่หลงเหลืออะไรจริงๆ ...

ไม่หลงเหลืออะไรเลย...

กู้ชิงเกอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตนเองผล็อยหลับไปตอนไหน รู้แค่เพียงเช้าวันรุ่งขึ้นเธอถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงกุกกักที่ดังอยู่สักพัก

เมื่อเธอลืมตาที่มีแต่ความงัวเงีย พอหันหน้าจึงมองเห็นฟู่ซือหานกำลังยืนเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ข้างเตียง เขาเปลือยร่างกายอันกำยำท่อนบนของเขา จากนั้นกู้ชิงเกอจึงสังเกตเห็นกล้ามหน้าท้องของเขา ถัดจากนั้นจึงแอบนับอยู่เงียบ ซิกแพคเลยนะ

“มองจุใจหรือยัง?” เสียงเย็นชาไร้ซึ่งความอบอุ่นดังขึ้นมา

กู้ชิงเกอได้สติทันควัน จึงค้นพบฟู่ซือหานรับรู้ว่าเธอตื่นแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ พลันใช้สายตาจ้องมองตนเองอย่างเย็นชา

เธอตะลึงอยู่ประมาณชั่วพริบตา จากนั้นพลันเบนสายตาหนีอย่างรวดเร็ว และพลิกตัวหันหลังให้เขาทันที

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมองคุณเลย ใครใช้ให้คุณมาเปลี่ยนเสื้อผ้าตรงนี้ล่ะ?”

เมื่อฟู่ซือหานได้ยิน พลันหัวเราะออกมาทันที

“ตรงนี้ มันคือห้องฉัน”

กู้ชิงเกอพูดไม่ออกในเวลานั้น

ก็ใช่นะ นี่มันเป็นห้องของเขา เขาอยากจะทำอะไรอยู่ที่นี่ก็สามารถทำได้ตามสะดวก ทำไมต้องมาไตร่ตรองว่าเธอจะคิดยังไงด้วยล่ะ?

เธอไม่ได้มีเงินมากมายก่ายกอง ไม่สามารถนำเงินที่เก็บหอมรอมริบจากความยากลำบากอย่างยาวนานเพื่อเอาไปซื้อเสื้อผ้ามาหนึ่งตัวและไม่สนใจต่อสิ่งใด

เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ ได้แต่ก้มหน้าและเดินตามหลังเขาออกไป ในใจครุ่นคิดหลายตลบ

ฝีเท้าฟู่ซือหานหยุดกะทันหัน จนทำให้กู้ชิงเกอเดินชนเขาอย่างไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อนอย่างรุนแรง เธอกุมหน้าผากและถอยหลังไปหลายก้าว เมื่อเงยหน้าจึงมองเห็นนัยน์ตาไม่พอใจของฟู่ซือหานที่จ้องตาเธอเขม็ง

“ขอโทษที ...ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

ฟู่ซือหานถอนสายตากลับ พลันขึ้นรถด้วยกลิ่นอายความเย็นเฉียบ กู้ชิงเกอจึงก้าวเท้าขึ้นไปนั่งตามหลัง

เบาะหลังมีแค่พวกเขาสองคน หลังจากสอดตัวเข้าไปแล้ว ฟู่ซือหานหลับตาลง พูดโทนเสียงเย็นจัด “ออกรถ”

รถยนต์เริ่มออกตัว กู้ชิงเกอที่นั่งอยู่ในรถเหมือนกับนั่งไม่ติด เพราะว่าลมหายใจฟู่ซือหานที่นั่งอยู่ซ้ายมือเย็นมาก อีกอย่างความหนาวในนั้นยังมีความแกร่งกล้า บวกกับเขาหลับตาเหมือนพักผ่อนอยู่ จนทำให้เธอไม่กล้าขยับเขยื้อนสักคืบ

เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดเสียงจนปลุกให้เขาตื่น จากนั้นเขาก็จะใช้สายตาอันเย็นเฉียบคู่นั้นกวาดตามองตนเองอีก

น่าจะเป็นเพราะความตื่นเต้นเกินเหตุ กู้ชิงเกอรู้สึกเกิดอาการคันตรงแผ่นหลัง เธอจึงเริ่มขยับตัว เพื่อเกาแผ่นหลัง

ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวแค่เล็กน้อยมาก ปรากฏว่าฟู่ซือหานลืมตา และหันมามองเธอทันที

กู้ชิงเกอหยุดความเคลื่อนไหวทันที พลันตัวแข็งทื่อ

เธอเหล่ตามองเขา จนเห็นความเย็นชาจากสายตาของเขา ราวกับน้ำแข็งเกาะ

เธอรีบเอามือออก ไม่กล้าขยับอีก

ดังนั้นฟู่ซือหานหลับตาลงอย่างรวดเร็ว แต่ไม่นานนัก กู้ชิงเกอก็รู้สึกไม่สบายตัวตรงแผ่นหลังอีกครั้ง

เธอเริ่มอาย ทำไมวันนี้แผ่นหลังถึงได้รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวอยู่ตลอด หรือว่าจะมีเส้นผมร่วงหล่นลงไปเหรอ?

ผิวของกู้ชิงเกอแพ้ง่ายมาก แค่ผมเส้นเดียวก็สามารถทำให้เธอไม่สบายตัวอยู่นาน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน