แต่พอคิดถึงสายตาที่ใกล้จะฆ่าคนของฟู่ซือหานเมื่อครู่นี้ เธอต้องอดทนอดกลั้นที่จะยื่นมือออกไปเกาหลัง จึงวางมือทั้งสองข้างไว้หน้าตัก พลันกัดริมฝีปากล่างเพื่ออดทนอยู่ตลอดเวลา
และก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหนแล้ว จนกู้ชิงเกอรู้สึกว่าอดทนต่อไม่ไหวจริงๆ พลันมีเสียงโทรศัพท์อันไพเราะเสนาะหูดังขึ้นมาสักพัก
เสียงโทรศัพท์เรียกเข้านี้มันโดดเด่นมากในที่แคบๆ กู้ชิงเกอตัวแข็งทื่อ ดูเหมือนว่าเป็นเสียงเพลงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ตนเอง
ฟู่ซือหานลืมตา กู้ชิงเกอรู้สึกว่าอุณหภูมิรอบตัวลดระดับลงฮวบ ไร้การเตรียมตัวอย่างคาดไม่ถึง
เขาตื่นแล้ว...
กู้ชิงเกอตัวแข็งทื่อไม่กล้ากระดุกกระดิก ทั้งสองคนตัวแข็งทื่อใส่กันแบบนี้อยู่นาน ฟู่ซือหานหันหน้ามามองเธอ
“รับโทรศัพท์!”
เมื่อกู้ชิงเกอได้ยิน จึงได้สติกลับมา ส่งเสียงตอบรับอื้อออกไป จากนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองหน้าจอ นัยน์ตาขรึมลง แต่ไม่ยอมกดรับแถมยังตัดสายทิ้งอีกต่างหาก
จากนั้นก็เปลี่ยนโหมดโทรศัพท์เป็นการปิดเสียงไปเลย
การกระทำเหล่านี้อยู่ในสายตาของฟู่ซือหานทั้งหมด แต่ทำให้เขายกมุมปากพลันพูดถากถามทันที “ไม่รับล่ะ?”
กู้ชิงเกอเอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากลับคืน พลันพยักหน้า “อืม คุณจะนอนไม่ใช่เหรอ? ฉันกลัวรบกวนคุณไง”
“ชิ” ฟู่ซือหานกลับหัวเราะอย่างดูแคลน “กลัวปลุกฉัน หรือว่าสำนึกผิดกันแน่?”
เมื่อกู้ชิงเกอได้ยิน พลันรู้สึกคำพูดประโยคนี้ของเขาไม่มีต้นสายปลายเหตุ “สำนึกผิดอะไรล่ะ?”
ก็เธอไม่เข้าใจนี่!
นัยน์ตาฟู่ซือหานฉายอาการเยาะเย้ยออกมาแวบหนึ่ง “ไม่กล้ารับโทรศัพท์ต่อหน้าฉัน เพราะชู้โทรมาใช่มั้ย?”
เขาจำได้ เธอไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์
กู้ชิงเกอหน้าถอดสีทันที ในที่สุดก็เข้าใจได้แล้วที่เขาพูดว่าตนเองรู้สึกสำนึกผิดเป็นเพราะอะไร คิ้วงามย่นเข้าหากัน เธอจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูด
“ฉันก็แค่เห็นว่าคุณนอนหลับอยู่และไม่ชอบให้มีเสียงแม้แต่น้อย ดังนั้นเลยไม่ได้กดรับโทรศัพท์เท่านั้นเอง”
พูดจบ กู้ชิงเกอก็เห็นว่าเขายังคงเอียงคอมาหาเขา ขนาดขี้เกียจลืมตาด้วยซ้ำ เธอโกรธจัดบ่นออกไป
“อุตส่าห์ช่วย แต่ดันมาโดนแว้งกัด”
ทันใดนั้น ฟู่ซือหานที่หลับตาสนิทก็เบิกตาโตขึ้นมาทันที พลันใช้สายตารัศมีหนาวเหน็บเพ่งมาที่เธอ “ถ้ากล้าดี ก็พูดอีกครั้งสิ”
เขาพูดอย่างเรียบเฉียบ เสียงไม่ดัง แต่กลับมีรัศมีความโหดเหี้ยมไร้เหตุผลพุ่งออกมา ความโกรธเคืองมีอานุภาพสูง จนทำให้กู้ชิงเกอห่อไหล่ลงด้วยความหวาดกลัว
กู้ชิงเกอเม้มริมฝีปากล่างเล็กน้อย ในใจพลันรู้สึกว่าตนเองขี้ขลาดมาก แต่การเผชิญหน้ากับรัศมีการถูกครอบงำเอาเอาแต่ใจแบบนี้ของเขาแล้ว ให้เธอพูดซ้ำอีก เธอก็ไม่มีความบ้าบิ่นนั่นอีกแล้ว
เธอโมโหมาก!
หวังจริงๆ ให้อาการป่วยของคุณย่าตระกูลฟู่รีบหายเร็วๆ สักทีเถอะ ถ้าเป็นแบบนี้เธอก็สามารถหลุดพ้นจากผู้ชายเลวทรามคนนี้ได้สักที เพื่อเป็นการประหยัดเวลาที่ต้องมานั่งเจอหน้าคนไม่ถูกชะตากัน
หลังจากปิดเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์แล้ว กู้ชิงเกอจึงไม่รับรู้ว่าโทรศัพท์จะดังขึ้นมาอีกหรือไม่ ทั้งสองคนมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลโดยไม่มีการสื่อสารใดๆ ตลอดทาง
หลังจากลงจากรถ กู้ชิงเกอเตรียมวิ่งไปให้ไกลหน่อยเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรกลับ แต่เพิ่งเดินได้สองก้าวพลันโดนคนคว้าคอเสื้อทางด้านหลังเอาไว้
“กลับมานี่”
“ปล่อยฉันนะ” กู้ชิงเกอพยายามดิ้นรน “ฉันจะไปโทรศัพท์”
“จะโทรไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น? หรือว่ารู้สึกผิด? โทรหาชู้เหรอ?”
นัยน์ตาฟู่ซือหานเย็นเฉียบ พลางแย่งโทรศัพท์ในมือเธอออกมาทันที กู้ชิงเกอหน้าถอดสี พลันหมุนตัวเพื่ออยากจะแย่งคืน
“เอาคืนมา”
กู้ชิงเกอสูงแค่ร้อยหกสิบเซนฯ ส่วนฟู่ซือหานสูงร้อยแปดสิบสามเซนฯ พอเขายกมือขึ้น กู้ชิงเกอกระโดดยังไงก็ไม่ถึงโทรศัพท์เครื่องนั้นอยู่ดี
“เอาคืนฉันมานะ!”
กู้ชิงเกอหยิบโทรศัพท์ไม่ได้ ได้แต่กระโดดโลดโผนไปทางด้านหน้าเขาอยู่ตลอดเวลา และไม่สามารถแย่งกลับมาได้ในทุกครั้ง
เหมือนกับตัวโจ๊กเกอร์ที่น่าสงสาร
ฟู่ซือหานเงยหน้ามองโทรศัพท์แวบหนึ่ง เป็นแบรนด์โทรศัพท์รุ่นเก่ามาก ขอบโทรศัพท์ถูกถูจนมีรอยถลอกเล็กน้อย
ฟู่ซือหานขมวดคิ้วทันที
“รีบคืนโทรศัพท์ให้ฉันเดี๋ยวนี้!” กู้ชิงเกอยังคงกระโดดคว้าต่อหน้าเขาอย่างไม่ลดละ เขาก้มหน้าลง เมื่อเห็นเบ้าตาเริ่มแดงเพราะอาการร้อนใจ นัยน์ตาใสซื่อราวกับเริ่มหมอกจางๆ ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ
เชี่ย!
แค่นี้ก็จะร้องแล้วเหรอวะ?
ฟู่ซือหานทำหน้าตาขึงขังพลันนำโทรศัพท์มาใส่กระเป๋าเสื้อของตนเอง “ก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาล ฉันจะดูแลโทรศัพท์เธอเอง”
เมื่อกู้ชิงเกอได้ยิน หน้าถอดสีทันที “มีสิทธิ์อะไร?”
“มีสิทธิ์อะไร? หึ ดูเหมือนตอนนี้เธอยังไม่เข้าใจในสถานการณ์อย่างชัดเจนสินะ”
“ทำไมฉันจะไม่เข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจนล่ะ โทรศัพท์มันเป็นของฉัน”
ฟู่ซือหานตีหน้าขึงขัง พลันเดินมุ่งหน้าเข้าโรงพยาบาลโดยอย่างเงียบเชียบ กู้ชิงเกอเห็นสถานการณ์แล้ว จึงรีบวิ่งไล่ตามเพื่อไปดักหน้าเขาทันที และคอยวิ่งพร้อมทั้งซักถามไปด้วย “ตกลงว่าคุณจะเอาโทรศัพท์ฉันไปทำไม? ฉันแค่อยากจะโทรศัพท์หาน้องสาวฉันก็แค่นั้นเอง”
อย่างไรก็ตามฟู่ซือหานแทบไม่สนใจเธอเลย ขาสูงยาวจึงก้าวเท้าได้กว้างของเขา กู้ชิงเกอวิ่งเหยาะๆ ตามหลังเขาด้วยความลำบากเล็กน้อย
ทันใดนั้นฟู่ซือหานก็หยุดฝีเท้าลงทันควัน
กู้ชิงเกอรีบหยุดฝีเท้าตามทันที จนเกือบจะชนแผ่นหลังเขาอยู่แล้ว
“เดี๋ยวหลังจากเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยแล้ว รู้ใช่มั้ยว่าควรทำยังไง?”
เมื่อกู้ชิงเกอได้ยันพลันเงยหน้าอย่างตกตะลึง “อะไรล่ะ?”
ฟู่ซือหานก้มหน้ากวาดตามองเธอ จู่ๆ ก็ยกแขนขึ้นมาข้างหนึ่ง
กู้ชิงเกอเผยสีหน้าที่ไม่เข้าใจ พลันมองแขนข้างหนึ่งที่วางพาดอยู่ด้านหน้าตนเอง “ทำไมเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผด็จรัก หัวใจซาตาน