"ไหนบอกไม่เจ็บร้องโอ๊ยทำไม" เขาเผลอลงแรงเกินไป เพราะเคยทำแต่กับลูกน้องในค่าย
"คุณจะหักขาฉันหรือไง โอ๊ยยย"
"เดี๋ยวไปหายามาทาให้"
"ไม่ต้องมายุ่ง ไม่มีงานมีการทำหรือไง" คนยิ่งไม่อยากเข้าใกล้อยู่ ว่าแล้วเมขลาก็ยันตัวลงมาจากเคาน์เตอร์ "..โอ๊ยยย"
บ่ายโมงวันเดียวกัน..
"ไปทำท่าไหนทำไมขาถึงช้ำขนาดนี้" พุดตาลให้คนหาที่ประคบมาเตรียมไว้ เมื่อได้รับโทรศัพท์จากลูกชาย ว่ากำลังให้คนขับรถกลับมาส่งน้องที่บ้าน เพราะเจ็บขา
"เกิดอุบัติเหตุตอนทำงานนิดหน่อยค่ะ" หญิงสาวขยับขาออกจากมือของท่าน เพราะมันไม่สมควรที่จะให้ท่านมาจับแบบนี้
"เดี๋ยวแม่ทำให้"
"เมย์ทำเองดีกว่าค่ะ"
"เราจะทำเองได้ยังไง"
"ให้อิฉันทำให้ไหมคะ" แม่บ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็คิดว่ามันไม่เหมาะสมเหมือนกันที่จะให้ท่านเป็นคนประคบให้
"ไม่หรอกเดี๋ยวฉันจะทำเอง" ว่าแล้วนางก็นั่งลงข้างๆ ให้เมขลายื่นขามาเพื่อที่จะได้ประคบ "เอาขามาวางตรงนี้ ไม่เจ็บหรอก แต่ก่อนรุ่นปู่ย่าก็รักษาลูกหลานแบบนี้แหละ" พุดตาลเห็นว่าเธอไม่กล้ายกเท้าขึ้นมา ก็เลยพูดถึงสรรพคุณของลูกประคบ
แต่ถึงยังไงเมขลาก็ไม่กล้ายกเท้าขึ้นมาอยู่ดี
"ให้เอ๋ช่วยดีกว่าค่ะ" แม่บ้านที่อายุไม่ห่างจากเมขลามากนักก็เลยอาสา เธอถึงยอม เพราะดีกว่าให้ท่านเป็นคนประคบให้
เย็นวันเดียวกัน..
"เป็นยังไงบ้างครับแม่" ออกจากบริษัทรามสูรก็ตรงมาที่บ้านเพื่อดูก่อนว่าน้องเป็นยังไง
"พรุ่งนี้แม่ไม่ให้น้องไปทำงานนะ ไปทำงานแค่สองวันเจ็บตัวกลับมา"
"ให้พักจนกว่าจะหายค่อยไปทำงานครับ" เขาก็ไม่คิดว่าจะเอางานกับน้องอยู่แล้ว ที่ให้เป็นผู้ช่วยเลขาเพราะอยากให้อยู่ใกล้หูใกล้ตา
ดึกๆ คืนเดียวกัน..
"ถ้าเราขอไปทำงานกับพี่อีกคนจะได้ไหม" เมขลาหมายถึงทศกัณฐ์พี่ชายคนรอง เพราะถ้ายังทำงานที่บริษัทพี่ชายคนโตอยู่ ต้องเจอกับอีตาบ้านั่นแน่ คนบ้าอะไรมีแฟนอยู่แล้วยังมาทำตัวกะล่อนใส่เธออีก "โอ๊ยย คิดแล้วอยากจะบ้า"
ขณะที่กำลังคิดว่าจะหลบหน้าเขายังไงดี แต่อีกความรู้สึกหนึ่งก็ผุดขึ้นมา ตอนที่เขาค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้
แกจะบ้าแล้วเหรอเมขลา ผู้ชายคนนั้นมีแฟนแล้วนะ คิดแล้วก็เสียดาย วันนั้นไม่น่าทำแค่เอาเหล้าราดศีรษะเขาเลย น่าจะเอาขวดเหล้าทุบหัวให้แตก เคยได้ยินแต่พวกพี่ๆ ที่นั่งดริ้งค์ พูดถึงเรื่องลูกค้าชอบมือไวล้วงเข้ามาใต้กางเกงชั้นใน แต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเองแถมไม่ใช่แค่นิ้ว...
เช้าวันต่อมา
"มันจะไปไหนแต่เช้าวะนั่น" วันนี้ทศกัณฐ์ไม่ออกไปไหน เพลิงก็เลยขอออกไปข้างนอก ครั้นจะถามลูกน้องว่าจะไปไหนก็ไม่ทัน เพราะตอนนี้เห็นแต่หลังรถไวๆ
"เห็นผู้กองบอกว่าจะไปทำงานให้ท่านครับ"
"แน่ใจนะว่ามันรีบไปทำงานให้กู เหมือนรีบไปหาสาวมากกว่า"
"ผมก็คิดแบบนั้นแหละครับ หรือติดใจ.." ทั้งสองคิดว่าเพลิงสนใจเกวลิน ก็เลยหาเรื่องไปหาอยู่บ่อยๆ
"ปล่อยมันไปเถอะ จะได้รู้"
"รู้อะไรครับ"
"รู้อะไรก็เรื่องของกูแล้วมึงจะถามทำไม" ทศกัณฐ์หมายถึงจะได้รู้ว่าการมีเมียเป็นยังไง
"เอ้าา.. ก็ตัวเองเป็นคนมาพูดให้เราอยากรู้เองทำไม" ประโยคนี้ชาติไม่กล้าพูดให้ท่านผู้พันได้ยินหรอก ถ้าไม่งั้นคงได้วิดพื้นแน่
"ไปทำไมก็ในเมื่อพี่ชายอยู่บริษัท" แต่เพลิงก็ไม่ได้สนใจ เพราะยังไงชาติก็ไปด้วย
วันต่อมา..ที่บริษัท
"วันนี้ก็ไม่มาเหรอครับ" กว่าจะขอท่านผู้พันออกมาได้ เพราะภรรยาของท่านไม่ได้เข้าบริษัท
"เห็นบอกว่ายังไม่หายดีค่ะ คุณเพลิงมีธุระอะไรกับน้องเมย์หรือเปล่าคะ" เกวลินก็ชวนคุยไปอย่างนั้นแหละ ซึ่งแตกต่างจากทุกครั้งที่เพลิงมาแล้วชอบชวนเธอคุยมากกว่า แล้วก็จบลงด้วยกันยัดเยียดเงินล้านให้กับเธอ ตั้งแต่เมขลาเข้ามาทำงาน ก็ไม่ได้ยินเพลิงพูดเรื่องเงินจำนวนนั้นอีกเลย
"คุณเกวลินรู้ไหมว่าเธอพักอยู่ที่ไหนครับ"
"ฉันไม่รู้หรอกค่ะ ถ้าคุณอยากรู้ทำไมไม่ถามบอสดูล่ะคะ"
"คุณรามสูรรู้เหรอครับว่าเธอพักอยู่ที่ไหน"
"ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ แต่ท่านเป็นคนพามาฝากงานเอง"
"อะไรนะครับ?" มันทำให้เพลิงคิดดีไม่ได้เลย เพราะเมขลาเคยทำงานในที่แบบนั้น ถ้าเขาจะถามว่าภรรยาของรามสูรรู้เรื่องนี้ด้วยไหม มันก็จะเป็นการละลาบละล้วงมากเกินไป
เช้าวันต่อมา..ที่ลานจอดรถของบริษัท
วันนี้ยังไงเพลิงต้องรู้ให้ได้ว่าสิ่งที่เขาสงสัยอยู่มันใช่หรือไม่
พอมาถึงเพลิงยังคงนั่งอยู่หน้ารถ..
อีกสถานที่หนึ่งในเวลาเดียวกันนั้น..
"น่าจะหยุดพักอีกสักวันสองวัน"
"ไม่เอาค่ะอยู่บ้านก็มีแต่นอนกับนอน จะเป็นหมูอยู่แล้วเนี่ย" เมขลาพูดพร้อมกับดึง Safety Belt มาล็อกไว้ เพราะวันนี้รามสูรแวะมาดูอาการน้องสาว เมขลาก็เลยขอติดรถไปที่ทำงานด้วยเลย..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพลิงร้ายซ่อนรัก