เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 123

สรุปบท บทที่ 123: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

อ่านสรุป บทที่ 123 จาก เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น

บทที่ บทที่ 123 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการโต้แย้ง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จิ่นอวิ๋น อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

สวีซุ่ยหนิงเงยหน้ามองเขาด้วยรอยยิ้ม แต่แววตาของเธอนั้นเศร้าโศกเป็นอย่างมาก: "นายไม่ได้บอกว่า นายเป็นแฟนของฉันหรือไง ดังนั้นฉันก็แค่ขอให้นายยอมเปิดตัวฉันในฐานะแฟน มีปัญหาอะไรเหรอ?"

แววตาของเฉินลู่สั่นไหว แต่เขาหันหน้าหนีไป ไม่มองเธอ เขาเอ่ยขึ้น: "เธอใช้อารมณ์มากไปแล้ว ฉันไม่เคยคิดที่จะซ่อนเธอไว้ แต่อย่างน้อยเธอก็ควรจะดูสถานการณ์"

ในสายตาของเฉินลู่ โจวอี้นั้นเพิ่งจะผ่าตัดเสร็จ ควรจะได้มีเวลาพักผ่อน ไม่ใช่ต้องมาหงุดหงิดเพราะโดนเธอยั่วโมโหและยังไม่ใช่เวลาในการพูดคุยเรื่องชายหญิง

สวีซุ่ยหนิงกลับเอ่ยว่า: "ถ้าเกิดฉันไม่ไป แล้วนายจะอยู่ในห้องพักฟื้นของเธออีกนานแค่ไหน? นายมีแฟนแล้วนะ ไม่รู้ขอบเขตหรือไง?"

เฉินลู่ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์: "อยู่ที่โรงพยาบาล ฉันเองก็เป็นหมอคนหนึ่งเหมือนกัน"

เขาพูดจบก็เดินไปที่ลานจอดรถ คงเพราะไม่มีอารมณ์จะเถียงกับเธอต่อ

สวีซุ่ยหนิงยืนอยู่ที่เดิมอีกพักใหญ่ ถึงแม้ว่าเธอจะเสียใจ แต่เธอก็รู้สึกสะใจมากเหมือนกัน ขอแค่ทำให้โจวอี้โมโหได้ เธอก็สะใจแล้ว

โบราณว่าฆ่าศัตรูได้นับพันแต่ฝ่ายตัวเองก็สูญเสียแปดร้อย ถึงมันจะสูญเสียพอๆ กัน แต่เธอคิดว่ามันก็ไม่ได้แย่อะไร

แต่ว่าวันนี้เธอคิดว่าเธอควรจะรักษาระยะห่างจากเฉินลู่เสียหน่อย เธอควรจะให้เวลาพวกเธอทั้งคู่คิดเรื่องนี้ อย่างไรเสียพวกเธอทั้งคู่ คงไม่มีใครยอมใคร

วันนี้พอกลับไปแล้ว พวกเธอทั้งสองคนก็คงไม่มีใครยอมคุยกัน อาจเป็นอีกครั้งที่พวกเธอต้องมาทะเลาะกันก็เพราะโจวอี้

ทำไมจะต้องกลับไปรับความกดดันแบบนั้นด้วยล่ะ เฉินลู่คิดว่าเธอใช้อารมณ์แบบไม่ดูเวล่ำเวลา เธอคิดว่าเธอทำแบบนี้ผิดยังไง

ดังนั้นก่อนที่รถของเฉินลู่จะขับมา สวีซุ่ยหนิงก็ไปจากตรงนั้นแล้ว

เธอคุ้นชินกับเมืองนี้ แต่ในตอนที่เธอขึ้นไปนั่งบนรถแท็กซี่ เธอกลับไม่รู้ว่าควรจะไปไหนดี

ตอนแรกสวีซุ่ยหนิงตั้งใจว่าจะไปเจอจางอวี้แต่คิดอีกทีก็ไม่เอาดีกว่า ตอนนี้เธอคงกำลังเที่ยวอย่างมีความสุข

สุดท้ายแล้วเธอก็เลือกที่จะไปktv(ที่ร้องคาราโอเกะ) เธออยากร้องเพลงคนเดียวเพื่อระบายอารมณ์ แต่กลายเป็นว่าบังเอิญเจอเซียวหร่านกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นถามเขาว่าภรรยาของเขาเป็นยังไง ภรรยาของเขาหรือเธอดีกว่ากัน?

เซียวหร่านคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตอบออกมาอย่างไม่ใส่ใจ: "เธอเหรอ เธอเป็นผู้หญิงแก่ๆ คนหนึ่ง"

สวีซุ่ยหนิงรู้สึกเศร้าเล็กน้อย ทั้งๆ ที่ซูหว่านจิ้งยังสาวมากแท้ๆ เพียงแต่นัยน์ตาของเธอไม่มีแววตาสดใส เลยทำให้ดูเย็นชา ไม่น่าสนใจ

เซียวหร่านเอ่ย: "ก็จริง ตอนนี้เธอไม่มีสิทธิ์จะมาสะกดรอยตามฉันทุกวินาทีแล้ว"

สวีซุ่ยหนิงขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น: "นายเห็นว่าเธอเป็นใคร?"

เซียวหร่านพูดด้วยใบหน้ากึ่งยิ้ม: "จะเป็นอะไรได้ นอกเสียจากหินรองเท้า"

"เธอเป็นภรรยาของนายนะ"

"งานแต่งงานก็เป็นเธอที่บังคับ" เซียวหร่านเอ่ย "เธอโหดร้ายกว่าที่เธอคิด บังคับให้ฉันแต่งงานกับเธอ ฉันเลยทำได้แค่ใช้ประโยชน์ของเธอให้คุ้มค่า พาให้ตัวเองขยับสูงขึ้น"

ชายโฉดเอ่ย ไม่มีแม้แต่ท่าทีรู้สึกผิด แถมยังคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่สมควรแล้วด้วย

สวีซุ่ยหนิงไม่เข้าใจเขา ในเมื่อความคิดไม่ตรงกันก็ไม่มีเรื่องให้ต้องคุยต่อ ถือเสียว่าเธอได้ร้องเพลงฟรีแล้วกัน ถ้าเกิดใช้บัตรประจำตัวของตัวเอง ไม่แน่ว่าเฉินลู่อาจจะมาหาแล้วก็ได้

ร้องได้ไม่กี่เพลง เฉินลู่ก็โทรมา

สวีซุ่ยหนิงมองสายเรียกเข้า แต่เธอขี้เกียจจะรับสาย เลยกดตัดสายแล้วทำเหมือนมองไม่เห็นว่าเขาโทรมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน