เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 20

โจวอี้ยิ้มเล็กน้อยและเอ่ย "หึงอีกแล้วเหรอ?"

เฉินลู่เอียงศีรษะและชำเลืองมองเธอ เขาไม่พูดอะไร

"ฉันไม่เคยชอบเขา แค่นัดเขาไปเที่ยวสองครั้งก็เท่านั้น" ขาของโจวอี้พาดบนร่างกายของเขาอย่างเกียจคร้าน "เฉินลู่ ฉันไม่ชอบเขา ฉันชอบแค่นายเท่านั้น หลายครั้งที่ฉันจงใจยั่วให้นายโกรธ เหมือนที่นายเข้าใกล้สวีซุ่ยหนิงและยั่วให้ฉันโกรธ"

เฉินลู่นิ่งเงียบไม่ปริปากเอ่ยสิ่งใด

"ครั้งนี้ที่ฉันกลับมา ฉันมีจุดประสงค์หนึ่งอย่าง" เธอเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ "เฉินลู่ นายยินดีจะแต่งงานกับฉันไหม?"

.........

หลังจากผลอัลตราซาวด์ของสวีซุ่ยหนิงออกมาแล้ว เยื่อบุช่องท้องของเธอฟกช้ำและมีอาการบวมเล็กน้อย ไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงอะไร

แต่เธอเจ็บปวดมาก ลั่วจือเห้อดูอาการแล้ว เขาตัดสินใจให้เธอพักดูอาการที่โรงพยาบาลเป็นเวลาสองวัน

แพทย์เปิดช่วงหน้าท้องให้เธอดู เสื้อผ้าของเธอถูกยกสูงขึ้น รูปร่างของสวีซุ่ยหนิงดีมาก ท้องขาวนวลราวกับหิมะ เธอขยับท้องขึ้นลงด้วยความเจ็บปวด เสื้อที่เปิดขึ้นเผยให้เห็นส่วนที่บอบบางของส่วนบน

สายตาของลั่วจือเห้อเห็นจุดที่มองไม่เห็น เขาละสายตากลับมา

เมื่อสวีซุ่ยหนิงได้รับยา ใบหน้าของเธอซีดเผือด ลั่วจือเห้อก้าวไปด้านหน้าและให้เธอจับมือเขาไว้

"คุณมาดูนี่หน่อย ครั้งหน้าให้ยานี้กับเธอ"

แพทย์พูดถึงวิธีการใช้ยา แต่ประโยคนี้คลุมเครือเกินไป ใบหน้าของสวีซุ่ยหนิงแดงระเรื่ออย่างอดไม่ได้

เมื่อลั่วจือเห้อเห็นการเปลี่ยนแปลงกะทันหันของเธอเขาตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็ว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขัน

เมื่อหมอจากไปแล้ว เขาเอ่ยอย่างเชื่องช้า “สาวน้อยหน้าอกใหญ่ เธอคิดอกุศลเกินไปแล้ว”

ใบหน้าของสวีซุ่ยหนิงแดงก่ำยิ่งกว่าเก่า เธอไม่กล้ามองเขาและกล่าวขอโทษ "ขอโทษด้วย"

"แพทย์ต้องการให้ฉันให้ยาแก่เธอ" ท่าทีของเขาดูลำบากใจ "ฉันต้องปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์ใช่หรือเปล่า จะเชื่อฟังแต่โดยดีไหม?"

"ลั่วจือเห้อ ฉัน...."

"แต่สำหรับร่างกายของเธอ หากต้องการให้ฉันเชื่อฟัง เธอก็อย่าได้ขัดขืน ฉันคิดว่ามันคงรู้สึกดีไม่น้อย สู้ให้ฉันจัดการเธอเลยดีกว่า"

สวีซุ่ยหนิง : “........”

เธอฝังใบหน้าของเธอลงบนหมอน

ดวงตาของลั่วจือเห้อโค้งงอและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงที่น่าแกล้งขนาดนี้มาก่อน เห็นอยู่ว่าตัวเองนั้นความคิดไม่สะอาด หากคนอื่นเปิดโปง เขาก็คงอับอาย

หลังจากนั้นไม่กี่นาที เขาหยิบหมอนออกจากใบหน้าของสวีซุ่ยหนิง "ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?"

เจ็บ แต่ทว่าเธอกลับส่ายหน้า "ดีขึ้นแล้ว"

"นิสัยย่ำแย่เมาแล้วลงไม้ลงมือของเจียงเจ๋อยังไม่เปลี่ยนไปสักที" ลั่วจือเห้อเอ่ย "เธอเลิกกับเขาก็ทำถูกต้องแล้ว เขาเป็นพวกหัวรุนแรง เธอเปลี่ยนที่อยู่คงดีกว่า"

เมื่อเอ่ยถึงเจียงเจ๋อ สีหน้าท่าทางของสวีซุ่ยหนิงเปลี่ยนไปทันใด เธอยังคงหวาดผวากับเรื่องดังกล่าว

ลั่วจือเห้อกล่าว "วันนี้เธอคงเหนื่อยมากแล้ว พักผ่อนเถอะ ฉันจะไม่ไปไหน"

สวีซุ่ยหนิงเอนกายนอนลงบนเตียงอย่างเชื่อฟัง อากาศค่อนข้างร้อน ขาเรียวยาวของเธอโผล่ออกมาจากผ้าห่ม เธอผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว

ใกล้รุ่งสาง สวีซุ่ยหนิงยังอยู่ในอาการสะลึมสะลือ เธอได้ยินเสียงลั่วจือเห้อรับสายโทรศัพท์ เมื่อได้ยินเขาพูดว่า‘ไปไม่ได้’ เธอก็ตื่นขึ้นในทันที

"ลั่วจือเห้อ นายไปเถอะ ฟ้าใกล้สว่างแล้ว ฉันไม่ได้กลัวมากขนาดนั้นแล้ว" ในความเป็นจริงเธอเกรงใจไม่อยากรบกวนเวลางานของเขา

"ไม่เป็นไร" เขากล่าว "เธอเป็นผู้หญิง ฉันไม่อาจทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียวได้หรอก"

"เพิ่มเพื่อนวีแชทกัน หากฉันต้องการอะไรก็ค่อยติดต่อนายไป" เมื่อเอ่ยจบ เธอตระหนักได้ว่าเฉินลู่ไม่ชอบเพิ่มเพื่อนในวีแชท เพื่อนกลุ่มเดียวกันกับเขาก็คงจะเป็นเหมือนกัน จากนั้นเธอจึงเปลี่ยนคำพูด "ทิ้งเบอร์ไว้ก็ได้"

ลั่วจือเห้อเอ่ย "วีแชทก็ได้ ไม่เป็นไร"

เมื่อเขาจากไป เขากำชับให้พยาบาลช่วยดูแลเธอให้มากหน่อย

สวีซุ่ยหนิงไม่ได้ผล็อยหลับอีกเลย จิตใจของเธอยังคงหดหู่อยู่เล็กน้อย วันถัดมาเธอกินอะไรไม่ลงเลย เธออยากจะลงไปเดินเล่นด้านล่าง เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว เธอเห็นเจียงเจ๋อกำลังเดินมาทางเธอ

ที่จริงเมื่อวานนี้เธออยากบอกลั่วจือเห้อว่าอย่าส่งเธอมาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ สำหรับโรงพยาบาลแห่งนี้เธอไม่มีความประทับใจเท่าไรนัก ทว่าเธอเอ่ยปากไม่ทันกาล

สวีซุ่ยหนิงไม่สนใจสิ่งใดอีก เธอรีบซ่อนตัวในห้องพักผู้ป่วยด้านข้าง

เฉินลู่หันกลับมาและเห็นเธอ เขาชะงักไปชั่วขณะ รีบละสายตากลับมาและสอบถามอาการของผู้ป่วย

สวีซุ่ยหนิงออกแรงเพียงเล็กน้อย ท้องของเธอก็มีอาการกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง เธอไม่อาจต้านทานได้และนั่งยองๆลงกับพื้น เมื่อเธอได้ยินเสียงของเฉินลู่ เธอนั่งหลบมุมอยู่อย่างนั้นและไม่ขยับไปไหน

เธอไม่อยากเจอเฉินลู่

ในตอนนี้สวีซุ่ยหนิงรู้สึกขยะแขยงในตัวเขา เป็นสังคมชนชั้นผู้ดี ผู้ที่โดดเด่นแห่งวงการแพทย์ เพื่อแฟนสาวของเขาแล้ว เขาเป็นเพียงแค่คนที่ทำตามคำพูดไม่ได้ก็เท่านั้นแหละ

เธอคิดว่าเฉินลู่คงไม่สังเกตเห็นเธอ ด้านนอกมีเจียงเจ๋อ เธอจึงนั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน

สวีซุ่ยหนิงกุมช่วงท้องของเธอและก้มศีรษะลงมองพื้น

จากนั้นไม่กี่นาที เธอเห็นรองเท้าหนังคู่หนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ

"เธอมาซ่อนแอบอะไรตรงนี้?" เฉินลู่ก้มมองเธอ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ "ปวดท้องเหรอ?"

"ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย" เธอเอ่ยตอบด้วยสีหน้าเย็นชา

เฉินลู่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขานั่งยองๆและเหยียดมือออกไปสัมผัสท้องของเธอ เนื่องจากสวีซุ่ยหนิงกำลังนั่งยอง มือของเขาจึงแตะหน้าอกของเธอเพียงเสี้ยววินาที เขาชะงัก จากนั้นเลื่อนมาสัมผัสท้องของเธอ

"นายจะทำอะไร?"

“ฉันเป็นหมอ เธออยู่โรงพยาบาล ฉันก็ต้องดูแลเธอ ไม่งั้นเธอคิดเหรอว่าคนอย่างฉันจะสิ้นเปลืองเวลามาสนใจคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานของฉัน?” เฉินลู่เอ่ย "เมื่อวานหมอที่ตรวจเขาว่าไงบ้าง?"

"ยังไม่ตายก็พอแล้ว" สวีซุ่ยหนิงกล่าว "เมื่อวานนายไม่คิดจะยื่นมือมาช่วย การช่วยเหลือที่สายไปของนายมันไร้ประโยชน์ ตอนนี้จะมาทำแบบนี้มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรแล้ว มันไม่จำเป็นแล้ว"

เรื่องของเจียงเจ๋อเขาก็ไม่ได้ช่วยเหลือเธอ ตอนนี้เธอไม่จำเป็นจะต้องไว้หน้าเขา

เฉินลู่แกว่งเท้าหาเสี้ยน[1] เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่มองเธออีก เขาพูดคุยกับผู้ป่วยและเพิกเฉยต่อเธอ

ผู้ป่วยเอ่ย "หมอเฉิน เมื่อกี้ฉันได้ยินพยาบาลพูดกันว่าคุณกำลังจะแต่งงานแล้วอย่างนั้นหรือ?"

เฉินลู่หยุดชะงัก สายตาชำเลืองมองสวีซุ่ยหนิงที่อยู่บริเวณมุมห้อง เขาตอบรับเพียงคำว่า 'อืม'

แกว่งเท้าหาเสี้ยน[1] หมายถึง อยู่ดีไม่ว่าดี ไปหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน