เมื่อสวีซุ่ยหนิงลงจากรถ จึงทำให้เฉินลู่มองเห็นเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เธอมองย้อนกลับไปที่ลั่วจือเห้อและพูดว่า "ฉันลงไปก่อนนะ"
“อืม” เขาพยักหน้า รอเธอลงจากรถแล้วขับออกไป
ลั่วจือเห้อมองไม่เห็นเฉินลู่ ซึ่งนั่นทำให้สวีซุ่ยหนิงโล่งใจมาก เมื่อคิดว่าทำไมตัวเองต้องกลัวลั่วจือเห้อเห็นเฉินลู่ หัวใจของเธอก็จมดิ่งลง
ทำไมผู้หญิงคนหนึ่งถึงห้ามไม่ให้ผู้ชายเจอกับแฟนเก่าของตัวเองล่ะ?
ตามความเข้าใจของเธอ มีเพียงการลอบทำความผิดเท่านั้น อดีตอื่น ๆ ทั้งหมดได้กลายเป็นความแคร์
เมื่อสวีซุ่ยหนิงคิดดังนั้น ความรู้สึกมากมายก็ถามโถมเข้ามา ทำให้จิตใจสับสนวุ่นวาย
“ดึกขนาดนี้แล้วยังคุยงานข้างนอกอีกเหรอ?” เฉินลู่พูดเบาๆ
สวีซุ่ยหนิงที่ยังตกใจไม่หายถูกขัดจังหวะด้วยเสียงของเฉินลู่ เธอเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองไปเขา เธอมีเรื่องมากมายในใจ เห็นได้ชัดว่าไม่มีอารมณ์ที่จะจัดการกับเฉินลู่ในขณะนี้
ดวงตาของเฉินลู่ล้ำลึก เขามองดูเธออย่างเงียบ ๆ
สวีซุ่ยหนิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "เฉินลู่ นายไม่ต้องมาหาฉันแล้วจริงๆ"
เฉินลู่กล่าว "รถคันเมื่อกี้คือรถของลั่วจือเห้อเหรอ?"
สวีซุ่ยหนิงไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกขนหัวลุกเล็กน้อยเมื่อเขาถามแบบนั้น เธอตอบโดยไม่รู้ตัวว่า "ไม่ใช่"
“งั้นเหรอ?” เขาถามเสียงเรียบ
เขาพูดแบบนี้ก็แสดงว่าเขารู้ทันเธอซะแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...