เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 274

สรุปบท บทที่274 ต่อไป: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

สรุปตอน บทที่274 ต่อไป – จากเรื่อง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น

ตอน บทที่274 ต่อไป ของนิยายการโต้แย้งเรื่องดัง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดยนักเขียน จิ่นอวิ๋น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เฉินลู่กับฉันเฉินเหลียนสองพี่น้อง ได้เผชิญหน้ากันครู่หนึ่ง

สวีซุ่ยหนิงไม่สนิทกับเฉินเหลียน ดังนั้นถึงไม่รู้ว่าการแสดงออกของเขาในตอนนี้คืออะไร แต่จากมุมปากของเฉินลู่ที่แบนจนไม่อาจจะแบนได้อีกในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจมาก

สายตาของเฉินลู่ย้ายไปที่สวีซุ่ยหนิงอีกครั้ง และน้ำเสียงที่สงบว่า "มานี่สิ"

ตอนนี้สวีซุ่ยหนิงถูกเฉินเหลียนดึงอยู่ ไม่ใช่ว่าบอกให้มาก็จะสามารถมาได้ เห็นได้ชัดว่าเฉินลู่ไม่ทราบเรื่องนี้ ดังนั้นคำพูดของเขา จะต้องไม่ใช่พูดกับเธอ แต่เป็นการเตือนเฉินเหลียน

จะต้องบอกว่า วิธีแก้ปัญหานี้ค่อนข้างแยบยลมาก ท้ายที่สุดมันก็ทำให้เฉินเหลียนปล่อยลง

แต่กลับทำให้เฉินเหลียนยิ้ม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ "นายเคยคิดบ้างไหมว่าตอนนี้โจวอี้เจ็บปวดเพียงใด?”

เฉินลู่พูดอย่างใจเย็น "ทำไมฉันต้องคิดถึงโจวอี้ด้วย ตอนนี้เธอเป็นแบบนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่เธอทำมันขึ้นมาเองเหรอ?”

“ดังนั้นนายเลยอยากปกป้องเธอ?” เฉินเหลียนดึงสวีซุ่ยหนิง ซึ่งแสดงสีหน้าเจ็บปวด

“แน่นอน” การแสดงออกของเฉินลู่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และมองไปที่มือที่ถูกดึงของสวีซุ่ยหนิง แค่ที่ดวงตาแอบซ่อนการหมดความอดทนไว้ “เฉินเหลียน ปล่อย”

เฉินเหลียนนิ่งไป พูดว่า “นายไปหาโจวอี้เถอะ”

“เธอไม่ใช่ได้รับการดูแลจากนายเป็นอย่างดีเหรอ มีอะไรต้องดู” เมื่อเห็นว่าเขาไม่ขยับ เฉินลู่ก็ขึ้นมาดึงเฉินเหลียนออกไป

แต่คนด้านหลังเห็นได้ชัดว่าบ้ากว่าเมื่อครู่ เขาปล่อยสวีซุ่ยหนิง และคว้าคอเสื้อของเฉินลู่ด้วยมือทั้งสองข้าง

เฉินลู่ไม่สนใจ ปล่อยให้เขาดึกแบบนั้น แล้วจับแขนของสวีซุ่ยหนิงมาตรวจอย่างใจเย็น และพบว่าแขนของเธอเป็นสีแดงจนม่วงแล้ว จากนั้นเดินขึ้นไปด้วยความโกรธ ใบหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แล้วหันไปมองเฉินเหลียน พูดทื่อๆ ว่า "นายบ้าไปแล้วเหรอ?”

สวีซุ่ยหนิงตกใจ ทั้งตัวสั่นไปหมด

การด่าว่าส่วนใหญ่ของเฉินลู่นั้นล้วนแล้วแต่กลับตาลปัตร ดังนั้นพูดอย่างชัดเจน มีไม่มากนัก

เฉินเหลียนยิ้มอย่างเย็นชา และกล่าวว่า “ก็แค่บาดเจ็บเล็กน้อย ก็ปวดใจแล้ว?”

เฉินลู่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เพียงจับแขนของสวีซุ่ยหนิงตรวจสอบดู "ไปโรงพยาบาลกันเถอะ"

สวีซุ่ยหนิงมองดู เม้มริมฝีปาก และหลับตาลง ราวกับว่ายังโกรธอยู่

“เดี๋ยวฉันไปเองก็ได้"

เฉินลู่ไม่ปล่อยเธอไป บอกว่า “ฉันจะไปกับเธอ”

ยิ่งเขาปฏิบัติกับสวีซุ่ยหนิงดีมากเท่าไหร่ เฉินเหลียนก็ยิ่งมองไม่พอใจมากขึ้นเท่านั้น เขาเอื้อมมือออกไปพยายามลากสวีซุ่ยหนิงอีกครั้ง แต่การกระทำนี้ ทำให้สีหน้าของเฉินลู่จมลงสู่ก้นบึ้ง

เขาผลักเธอกลับเบาๆ

สวีซุ่ยหนิงเห็นเฉินลู่ปลดกระดุมเสื้อ และพับแขนเสื้อขึ้น เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ สุดท้ายในเวลาต่อมา เฉินลู่ได้หันกลับไปต่อยเฉินเหลียน

หมัดหนักๆ ได้ลงไปบนใบหน้าของเฉินเหลียน

สวีซุ่ยหนิงตกตะลึงเล็กน้อย

แต่เห็นว่าวันนี้เฉินเหลียนก็โกรธมากพอกัน เขาจะสู้กลับอย่างแน่นอน

หลังจากที่เฉินลู่ถูกเขาต่อยกลับมาหนึ่งหมัด เขามองไปที่สวีซุ่ยหนิง และขมวดคิ้วอย่างดุเดือด "ถอยออกไปยื่นข้างๆ!"

สวีซุ่ยหนิงกำลังก้าวถอยหลัง ทั้งสองคนก็ได้ทะเลาะกันต่อหน้าเธอ

สักพัก ยังไม่มีใครกล้าขึ้นไปห้าม และแน่นอนว่าจะต้องมีคนชมการแสดงดีๆ อยู่มากมาย ล้วนบอกว่าตระกูลเฉิน เด็กชายทั้งสองเป็นชนชั้นนำในสังคม การต่อสู้ครั้งนี้ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยเห็นมากก่อน

การเผือกเป็นแก่นแท้ของมนุษย์

สวีซุ่ยหนิงดูดีในตอนแรก แต่หลังจากที่เฉินลู่ล้มลง เธอก็ไม่สามารถยืนได้แล้ว อย่างน้อยก็สักพัก เธอกับเฉินลู่ก็จะอยู่ทีมเดียวกัน

เธอมองไปรอบๆ จากนั้นไปหยิบขวดเบียร์หนึ่งขวดแล้วเดินไปหาเฉินเหลียน

เป็นเพียงอาการบาดเจ็บที่ใบหน้าของเขา และดูเหมือนว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หากเทียบกันจริงๆ อาการบาดเจ็บของเฉินเหลียนหนักกว่าเขามาก

นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ท่าทีของสวีซุ่ยหนิง ยังคงทำให้เฉินลู่รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เมื่ออยากจะเอ่ยถึง ทำให้รู้สึกว่ามันดูเหมือนคิดเล็กคิดน้อยจนเกินไป

ในท้ายที่สุด เฉินลู่ก็ไม่ได้พูดอะไร

เมื่อเขามาถึงโรงพยาบาลจัดการกับบาดแผลที่ใบหน้า เขาจับมือสวีซุ่ยหนิง เธอดิ้นอยู่ครู่หนึ่ง เฉินลู่เห็นแบบนี้ ได้เม้มริมฝีปาก พยายามทำให้ตัวเองน่าสงสารที่สุด ปล่อยลมหายใจช้าๆ และพูดอย่างจริงใจว่า "ซุ่ยซุ่ย”

แค่เรียกชื่อ ในท่าทางที่อยากจะพูด แต่การแสดงออกไม่ได้น่าสงสารมากนัก แต่น้ำเสียงได้ทำให้คนก็แสดงถึงการได้รับความประทับใจจริงๆ

สวีซุ่ยหนิงลังเลอยู่หลายครั้ง โดยคิดว่าเป็นเพราะเธอเขาถึงได้รับบาดเจ็บ เธอจึงไม่ได้ดึงมือกลับ

พูดตามตรง สวีซุ่ยหนิงคิดไม่ถึงเลยจริงๆ เฉินลู่จะเริ่มทะเลาะก่อน ยังเป็นการต่อสู้ที่ระอุ ควบคุมไม่ได้ และทั้งยังเป็นคนในครอบครัวตัวเองอีกด้วย

ในความประทับใจของสวีซุ่ยหนิง เฉินลู่ถือว่าครอบครัวตระกูลเฉิน มีความสำคัญมาก

แต่เมื่อรอจนให้ยาหมด เธอถึงได้เอามือกลับ

เธอก็ลืมไปว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ แต่กันเฉินลู่ได้เริ่มที่จะขอให้หมอรักษาบาดแผลให้กับเธอก่อน

ขณะที่ทั้งสองกำลังจะออกไป เฉินเหลียนก็เดินผ่านไปเช่นกัน

สีหน้าของเฉินลู่ผ่อนคลายลงแล้ว แต่หลังจากที่เห็นพี่ชายตัวเองอยู่ข้างหน้า สีหน้าได้เย็นชาลงอีกครั้ง และก่อนที่เขาจะเดินเข้ามา เขาก็เอาตัวสวีซุ่ยหนิงซ่อนไว้ด้านหลัง

สวีซุ่ยหนิงบอกว่าเขาคงจะไม่ลงมืออีกแล้ว แต่เฉินลู่กลับพูดเยาะเย้ยว่า “เธอยังคิดว่าเขาจะเป็นประเภทที่ทะนุถนอมสตรี?”

สวีซุ่ยหนิงเงียบลง โดยไม่คิดว่าเขาจะอธิบายถึงพี่ชายของตัวเองเช่นนี้

เฉินเหลียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังขอโทษ “ฉันหุนหันพลันแล่นแล้ว ขอโทษด้วย”

“คนที่นายควรจะขอโทษไม่ใช่ฉัน” เฉินลู่พูดเบา ๆ "ทางที่ดีอย่าทำอีกนะ ไม่เช่นนั้นฉันจะไม่ไว้หน้าแน่ ต่อไปพี่น้องก็ไม่ต้องเป็นแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน