เธอมุดศีรษะไว้ที่อกของเขาแล้วร้องไห้ออกมา "ถ้าตอนที่ประสบอุบัติเหตุนั้นเป็นแค่ฉันคนเดียวคงดี”
เฉินลู่ขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “อย่าพูดโง่ๆ”
ไม่กี่นาทีต่อมา เขาเดินอุ้มสวีซุ่ยหนิงออกมาจากบาร์
สวีซุ่ยหนิงยังคงพึมพำกับตัวเอง "ฉันสมควรตายจริงๆ สมควรตาย ฉันทำร้ายคนทั้งชีวิต"
เมื่อเฉินลู่ส่งเธอเข้าไปในที่นั่งข้างคนขับ รู้สึกว่าเธอเสียงดัง และเมื่อเธอพูดเรื่องไร้สาระต่อ ก็ล้มเลิกความคิดที่จะสตาร์ทรถ และหันไปหาเธอ
เมื่ออยู่ห่างกับเธอแค่ปลายจมูก เฉินลู่ได้ลังเลเล็กน้อย การทำสิ่งนี้ในตอนนี้ เป็นการเอาฉวยโอกาสตอนที่คนอื่นลำบาก
และสวีซุ่ยหนิงได้รับผลกระทบจากลมหายใจอุ่นๆ จึงหลบเล็กน้อย แต่หลบแล้วรู้สึกไม่สบาย และก็ปรับกลับมาอีกครั้ง แต่การกระทำนี้ กลับทำให้ริมฝีปากไปชนกับริมฝีปากล่างของเฉินลู่
เธอได้เลียมันอย่างสงสัย
เฉินลู่หันหน้าหลบ และหายใจเข้าลึก ๆ
เมื่อเขาหันกลับมามองเธออีกครั้ง มือซ้ายได้จับคางของเธอไว้แล้ว แล้วก็จูบเธอเข้าไป
เมื่อถูกยั่วยวนเช่นนี้ จะมีกี่คนที่สามารถควบคุมตนเองได้
คราวนี้เฉินลู่และสวีซุ่ยหนิงถูกแยกจากกันเป็นเวลานานมาก และเป็นเวลานานจนไม่ได้มีการกระทำที่ใกล้ชิดเช่นนี้แล้ว
เช่นเดียวกับความแห้งแล้งอันยาวนานพบกับสายฝน เขาก็หุนหันพลันแล่นเล็กน้อย รู้สึกว่ายอดหัวใจได้สั่นสะท้าน
จนกระทั่งสวีซุ่ยหนิงขมวดคิ้วอย่างไม่สบายใจแล้วหันศีรษะออกไป เขาถึงถอยกลับ แล้วหันกลับไปสตาร์ทรถ
เดิมทีเขาวางแผนจะส่งสวีซุ่ยหนิงกลับบ้าน แต่เธอพักอยู่ไกลมาก และกลัวว่าจะจะมีเรื่องอะไรเกินขึ้นกับเธอในกลางดึก ถึงอย่างไรสภาพสวีซุ่ยหนิงตอนนี้คือเมามาก ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขาแล้ว
มันเหมือนกับระเบิดเวลา ที่สามารถทำอะไรที่ไร้สาระได้ตลอดเวลา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...