บทที่ 3 – ตอนที่ต้องอ่านของ เส้นทางการโต้กลับของยอดหมอหญิงอัปลักษณ์
ตอนนี้ของ เส้นทางการโต้กลับของยอดหมอหญิงอัปลักษณ์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 3 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เฉียวชิงหวั่นสั่งว่า "ซู่อี ไปนำเสื้อคลุมของข้ามา ลวี่จู๋ ให้พ่อบ้านเตรียมรถ ข้าจะออกไปข้างนอกสักหน่อย"
หนานเหลียนรีบก้าวขึ้นมาข้างหน้าทันที "คุณหนู พาข้าน้อยไปด้วยอีกคนเถิด"
“ไม่ต้อง ครั้งนี้ข้าจะพาไปแค่ซู่อีกับลวี่จู๋ เจ้ากับชิวซีอยู่เฝ้าเรือนให้ดี”
หนานเหลียนรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่คุณหนูนอนหลับไปหนึ่งตื่น ไม่เพียงดูเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งยังไม่ยอมให้ได้นางรับใช้ใกล้ชิดอีกเลย!
หรือว่าเป็นเพราะสาวใช้คนอื่นอีกสามคนไปพูดบางอย่างให้คุณหนูฟังลับหลังนาง?
เฉียวชิงหวั่นกลัวว่านางจะเกิดสงสัยขึ้นมา จึงหันกลับมาพูดปลอบโยนนางว่า "ครั้งหน้าข้าค่อยพาเจ้าไปนะ"
หนานเหลียนจึงค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย จึงตอบรับตอบอย่างร่าเริงว่า "ในเมื่อคุณหนูพูดเช่นนี้ ข้าน้อยจะเฝ้าเรือนให้อย่างดีแน่นอนเจ้าค่ะ"
หลังจากที่พวกนางขึ้นมาบนรถม้าแล้ว เฉียวชิงหวั่นก็สั่งว่า "ไปร้านขายยาเหรินอี้"
คนขับรถตอบรับ แล้วจึงเดินทางตรงไปที่ร้านขายยา
แผลเป็นบนใบหน้าของนางต้องใช้ยาในการรักษา และขาของชายคนนั้น...
เฉียวชิงหวั่นนึกย้อนไผถึงชาติที่แล้วของนาง ในขณะที่นางใกล้จะสิ้นลมหายใจ เหล่าคนรับใช้ช่วยกันลากนางออกไปโยนทิ้งที่สุสานศพไร้ญาติ
ในวันนั้นลมหิมะพัดหนักมาก นางที่เหลือเพียงลมหายใจสุดท้ายรู้สึกหนาวมากเป็นพิเศษ
ภายใต้สติที่เลือนลาง นางได้ยินเสียงถอนหายใจเบา ๆ จากนั้นเสื้อคลุมหนาก็คลุมลงมาบนร่างของนาง
“นางก็เป็นผู้หญิงที่น่าสงสารคนหนึ่ง”
“นายท่าน พิษความเย็นในตัวท่าน...”
ในความเลือนลางนางมองเห็นรูปร่างสูงสง่าของชายหนุ่ม
คน ๆ นั้นก็คือมู่ฉางชิง จักรพรรดิองค์ก่อนมีองค์ชายสี่คน นอกจากองค์รัชทายาทแล้ว เขาเป็นคนแรกที่ได้รับราชโองการแต่งตั้งเป็นอ๋อง
เขายังเป็นอุปสรรคคนสำคัญในหนทางการช่วงชิงบัลลังก์ขององค์ชายหก มู่ฉางเหยี่ยน อีกด้วย
เพราะนาง เป็นคนวางแผนทำให้อาการป่วยจากพิษความเย็นของมู่ฉางชิงทรุดหนักลงเรื่อย ๆ จนต้องถอนตัวจากการชิงบัลลังก์ในที่สุด...
นางจำได้แม่นว่า อาการป่วยจากพิษความเย็นของมู่ฉางชิงเริ่มเป็นตั้งแต่ตอนที่เขาไปรักษาชายแดนเมื่อห้าปีที่แล้ว เพราะเขตชายแดนมีสภาพอากาศหนาวเย็นมาก การต่อสู้ในสงครามจึงยากลำบากมาก
ในตอนนั้นถึงกับมีข่าวออกมาว่ามู่ฉางชิงเสียชีวิตในสนามรบ สุดท้ายแคว้นตันชื่อยอมจำนนอย่างไม่มีทางเลือก มู่ฉางชิงเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมชัยชนะจากสงคราม ซึ่งนับเป็นความชอบครั้งยิ่งใหญ่
ทุกครั้งที่นึกถึงชายคนนี้ ทำให้นางรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
นางเคยใช้ยาพิษเพื่อทำให้อาการป่วยของมู่ฉางชิงทรุดหนักลงเรื่อย ๆ แต่กลับเป็นชายคนนี้ที่ให้ความอบอุ่นสุดท้ายกับนางก่อนจะเสียชีวิต
ขณะที่นางกำลังตกอยู่ในภวังค์นั้นเอง ซู่อีถามด้วยความเป็นห่วง "คุณหนูใหญ่ คุณหนูจะไปซื้อยา รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเจ้าคะ?"
เฉียวชิงหวั่น ส่ายหัวและพูดว่า "ข้าแค่อยากซื้อยามาเตรียมไว้เท่านั้น"
ซู่อีและลวี่จู๋ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าแปลกประหลาดนัก คุณหนูเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
แต่พวกนางก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ เพียงแต่เดินตาเฉียวชิงหวั่นไปเงียบ ๆ
ไม่นานรถม้าก็เดินทางมาถึงหน้าร้านขายยา ซู่อีก้าวลงจากรถก่อน "คุณหนู ถึงแล้วเจ้าค่ะ"
นางพูดพลางช่วยพยุงเฉียวชิงวานลงจากรถ
หลังจากที่ทั้งสามคนเข้าไปในร้านขายยา พนักงานก็เข้ามาต้อนรับอย่างอบอุ่น "ทุกท่าน เข้ามาพบท่านหมอหรือซื้อยาขอรับ? แต่ตอนนี้หมอทุกท่านล้วนออกไปตรวจนอกสถานที่กันหมด หากต้องการพบท่านหมอ ต้องรอก่อนนะขอรับ”
เฉียวชิงหวั่นพูดตัดบทว่า "ข้ามาซื้อยา เอาพู่กันกับกระดาษมาให้ข้า ข้าจะเขียนตัวยาและปริมาณยาที่ข้าต้องการซื้อให้"
“ขอรับคุณหนู รอสักครู่นะขอรับ”
พนักงานร้านขายยาหยิบพู่กันและกระดาษออกมา และยื่นให้นาง
เฉียวชิงหวั่นเขียนรายชื่อยาที่ต้องการซื้อลงไปอย่างละเอียด "จัดยาตามใบยานี้"
พนักงานรับใบสั่งยามา รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือนปกติไม่ค่อยมีความรู้เรื่องยา คุณหนูคนนี้ไม่เพียงมีความรู้เรื่องยา ตัวหนังสือที่เขียนยังสวยงามมากอีกด้วย
น่าเสียดายที่นางสวมผ้าคลุมหน้าไว้ตลอด จึงเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน
“ข้าจะไปจัดยาให้คุณหนูเดี๋ยวนี้ รอสักครู่ขอรับ”
ขณะที่คุณหนูและสาวใช้ทั้งสามคนกำลังรอรับยานั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งดังมาจากประตูร้านขายยา ชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งเข้ามาพร้อมเด็กในอ้อมแขน ตะโกนอย่างเร่งร้อน "ท่านหมอ ช่วยข้าด้วย ได้โปรดช่วยลูกชายของข้าด้วย !"
“ทุกท่านช่วยหลีกทางหน่อย ช่วยชีวิตลูกข้าด้วย!”
เฉียวชิงหวั่นหันหน้ากลับมา เห็นว่าเด็กที่ถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขมชายหนุ่ม มีสีหน้าเขียวอมม่วง ดวงตาปิดสนิท ดูเหมือนถูกวางยาพิษ
หากไม่ใช่เพราะหน้าอกของเด็กชายที่ยังกระเพื่อมขึ้นลงอยู่เบา ๆ ก็ยากที่จะบอกว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
“ท่านหมอเมี่ยวอี ได้โปรดช่วยลูกชายข้าด้วย!” ชายหนุ่มร้อนใจจนเหงื่อออกเต็มศีรษะ โดยมีผู้หญิงที่ตาบวมแดงเดินตามอยู่ด้านหลัง
พนักงานร้านขายยาได้ยินเสียง จึงออกมาถามว่า "พวกเจ้าเป็นอะไรหรือ?"
นางก้าวขึ้นไปด้านหน้า สังเกตุดูอาการของเด็กที่ถูกพิษ พลางพูดปลอบโยนว่า "ในเมื่อท่านหมอทุกคนล้วนบอกว่ารักษาไม่ได้ งั้นให้ข้าลองดูเถิด อย่างน้อยเด็กอาจจะยังมีโอกาสรอดชีวิตก็เป็นได้"
ภรรยาสาวถามด้วยความสงสัยว่า “เจ้าเป็นหมองั้นหรือ?”
"ข้าเรียนแพทย์มาหลายปี" เฉียวชิงหวั่นไม่ได้โกหก ตั้งแต่แม่ของนางเสียชีวิตในชาติที่แล้ว นางก็เรียนวิชาแพทย์กับอาจารย์นอกจวนมาตลอด
ชายหนุ่มมองดูเด็กชายในอ้อมแขนที่เหลืออยู่เพียงลมหายใจสุดท้าย พยักหน้าพลางพูดว่า "ได้ ข้าจะให้เจ้าลองดู!"
ภรรยาสาวดึงแขนเสื้อของเขาเบา ๆ เห็นได้ชัดว่าไม่เต็มใจนัก
"เฮ้อ อาการของลูกจะรอช้าไม่ได้ ให้แม่หญิงคนนี้ลองดูเถิด!" ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
คู่สามีภรรยาพยักหน้า เฉียวชิงหวั่นจึงหันไปถามกับพนักงานว่า "ข้าขอยืมเตียงทของร้านหมอสักพักได้หรือไม่"
พนักงานพาชายหนุ่มเดินไปยังเตียงผ้าสีสีขาวสะอาด
เฉียวชิงหวั่นเขียนใบยา และสั่งกับพนักงานว่า “จัดยาตามใบยานี้ ต้มให้เรียบร้อย และนำเข็มทองของทางร้านมาให้ข้า ข้าจะต้องใช้"
พนักงานรับใบยามาเก็บให้ดี แล้วจึงไปหยิบเข็มทองมาอย่างคล่องแคล่วว่องไว
เฉียวชิงหวั่นหยิบเข็มทองขึ้นมาดู แม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับเข็มของนางในชาติที่แล้ว แต่ก็ยังดีที่พอจะใช้ได้
ซู่อีทร่อยู่ด้านข้างเอ่ยปากห้ามว่า "คุณหนู ท่าน..."
คุณหนูจะเอาเข็มไปจิ้มลูกของคนอื่นมั่วซั่วไม่ได้ หากลูกเขาเป็นอะไรไป คุณหนูคงต้องเจอปัญหาใหญ่แน่!
เฉียวชิงหวั่นเข้าใจว่านางอยากจะสื่ออะไร จึงปลอบนางอย่างใจเย็นว่า "ไม่ต้องกังวล ข้ารู้ว่าข้ากำลังทำอะไร"
เมื่อเห็นว่าตนไม่สามารถห้ามคุณหนูได้ ซู่อีไม่มีทางเลือกจึงได้แต่ยอมจำนน
ในขณะที่สาวใช้ทั้งสองยืนมองเฉียวชิงหวั่นฝังเข็มให้เด็กชายกับตาตัวเอง พวกนางก็อดไม่ได้ที่จะแอบปาดเหงื่อแทนนางอยู่ในใจ
จนกระทั่งฝังเข็มเสร็จ เฉียวชิงว่านจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก "รออีกหนึ่งก้านธูป จึงค่อยถอนเข็มออกมา"
ภรรยาสาวมองไปที่ลูกชาย "รักษาเสร็จแล้วหรือ?"
"ขั้นแรกเป็นการกดฤทธิ์ของพิษลงเพื่อหยุดการแพร่กระจาย ตอนนี้เป็นการขับพิษ"
ระหว่างสนทนา พนักงานร้านขายยาก็นำยามาให้ เฉียวชิงหวั่นรับยามาและป้อนยาให้เด็ก
หลังจากที่เด็กชายคนนั้นกินยาเข้าไป จู่ ๆ ก็เริ่มชักกระตุกไปทั้งตัว ต่อมาก็อาเจียนอย่างรุนแรง...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เส้นทางการโต้กลับของยอดหมอหญิงอัปลักษณ์
รอตอนต่อไปค่าาาา...
เรื่องนี้ลงให้จบน้าค้าาา...