ตอนที่ 4 พันธะโลหิต – ตอนที่ต้องอ่านของ เทพโอสถผงาดโลกา
ตอนนี้ของ เทพโอสถผงาดโลกา โดย สุวรรณภูมิ พันธุ์สุวรรณ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายแฟนตาซีทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 4 พันธะโลหิต จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
สตรีพราวเสน่ห์ขยิบตาให้เสิ่นเสียง ท่าทางมีเสน่ห์ยั่วยวนของนางทำให้เสิ่นเสียงหัวใจสั่นไหว และคำพูดของนางยังทำให้เขาตะลึง ขณะเดียวกันเขายังสับสนเล็กน้อย เขาดูออกว่าสตรีสองนางนี้แข็งแกร่งมาก เพียงแค่ตอนนี้ได้รับบาดเจ็บจึงไม่สามารถขยับตัว แล้วเขาจะช่วยอะไรพวกนางได้อีก?
สตรีเย็นชาดวงตาเป็นประกาย นางกล่าวอย่างเยือกเย็น "เจ้าหนุ่ม ข้ามอบเส้นชีพจรจื้อหยินให้เจ้าและถ่ายทอดวิชามารที่ข้าฝึกฝนให้ด้วย รับรองว่าวิชามารของข้าไม่ด้อยไปกว่าวิชาเทพของศิษย์น้องข้า พวกเราไม่ผิดคำพูดแน่"
เสิ่นเสียงตะลึง เส้นชีพจรวิญญาณชั้นสูงก็นับเป็นอัจฉริยะแล้ว และเหนือเส้นชีพจรวิญญาณยังมีเส้นชีพจรลี้ลับซึ่งพบเห็นยาก เหนือเส้นชีพจรลี้ลับยังมีเส้นชีพจรสวรรค์ และเหนือเส้นชีพจรสวรรค์ก็คือเส้นชีพจรเทพในตำนาน
หากมีเส้นชีพจรเทพหนึ่งเส้น ก็นับว่าเหนือชั้นมากแล้ว!
"พวกท่านตกลงมาจากด้านบนจนสมองกระทบกระเทือนหรือไม่ อย่ามาล้อข้าเล่นเลย ข้าไม่มีเวลามาเล่นไร้สาระกับพวกท่านอยู่ที่นี่หรอกนะ" แม้ว่าเมื่อครู่เสิ่นเสียงจะตะลึงไป แต่เขาก็ยังไม่ปักใจเชื่อ
"หากเจ้าได้มันไป การกลายเป็นนักยุทธผู้แข็งแกร่งมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่ถึงตอนนั้นเจ้าจะต้องช่วยพวกเราฟื้นฟูพลัง" สตรีพราวเสน่ห์กล่าวอย่างเย้ายวน น้ำเสียงของนางทำให้เสิ่นเสียงรู้สึกกระดูกไร้กำลังวังชา
สตรีเย็นชากล่าวขึ้น "พวกเราถูกศัตรูทำให้ติดอยู่ที่นี่ ร่างกายบาดเจ็บสาหัส ไม่อาจขยับตัวได้ และที่นี่ยังมีสัตว์อสูรที่ร้ายกาจแฝงตัวอยู่ พวกเราต้องไปจากที่นี่โดยเร็ว"
ตอนนี้พวกนางไม่สามารถขยับได้ เส้นชีพจร กระดูก ตันเถียน และอวัยวะภายในล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส อาจกล่าวได้ว่าถูกทำลายจนใช้งานไม่ได้ ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่ทั้งสองได้ต่อสู้กับศัตรู และทำให้เกิดแผ่นดินสั่นสะเทือนจนเสิ่นเสียงตกลงมา
การปรากฏตัวของเสิ่นเสียงชายหนุ่มผู้ใจดี นับเป็นโอกาสดีของพวกนางที่จะฟื้นตัว จะต้องรู้ว่าที่นี่มีสัตว์อสูรปรากฏตัวอยู่บ่อย ๆ พวกนางไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน มีแต่จะกลายเป็นอาหารของสัตว์อสูร
"ตอนนี้เจ้าต้องเชื่อพวกเรา มิเช่นนั้นชีวิตนี้เจ้าอย่าคิดออกไปจากที่นี่ได้เลย" สตรีพราวเสน่ห์กล่าวอย่างจริงจัง
เสิ่นเสียงยากที่จะยอมรับการประทานเส้นชีพจรเทพให้ผู้อื่นอย่างง่ายดายของสตรีทั้งสอง แถมพวกนางยังมีวิชามารกับวิชาเทพอีกด้วย แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงเลือกที่จะเชื่อเท่านั้น
เสิ่นเสียงถอนใจอย่างขมขื่น แล้วกล่าว "ข้าน้อยนามว่าเสิ่นเสียง หวังว่าพวกท่านจะไม่ปั่นหัวข้าเล่น"
การทำพันธะโลหิตนั้นง่ายมาก ก่อนอื่นต้องนำหนังสัตว์แผ่นหนึ่งลงไปแช่ในเลือดของทั้งสาม จากนั้นวาดเส้นลายพันธะโลหิตลงไป แล้วเขียนเนื้อหาสัญญาลงบนพันธะโลหิต จากนั้นทั้งสามคนก็หยดเลือดลงบนพันธสัญญา เมื่อพันธสัญญาเสร็จสมบูรณ์ก็จะเกิดการเชื่อมต่อระหว่างจิตวิญญาณของพวกเขา ทำให้สัมผัสถึงเนื้อหาของพันธสัญญาได้อย่างชัดเจน
หลังจากเสิ่นเสียงทำพันธสัญญาสำเร็จ เขาก็รู้สึกตะลึงกับความมหัศจรรย์ของเวทมนตร์ชนิดนี้อย่างยิ่ง ตอนนี้เขาเชื่อแล้วว่าสิ่งที่สตรีทั้งสองกล่าวนั้นเป็นความจริง ภายในใจตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ได้ เขารู้ว่าหลังจากนี้ตนเองต้องใช้ชีวิตกับพวกนางเป็นเวลานาน และปลาเค็มอย่างเขาไม่เพียงสามารถพลิกตัว แถมยังแหวกว่ายไปถึงภูเขาแห่งสวรรค์ได้อีกด้วย
เสิ่นเสียงกับสตรีโฉมสะคราญดั่งนางสวรรค์ได้ทำพันธสัญญากันสำเร็จ
"พี่สาวทั้งสอง ที่พวกท่านขยับไม่ได้เพราะกระดูกและเส้นชีพจรได้รับความเสียหายอย่างหนักหรือ" เสิ่นเสียงถาม เมื่อครู่เขาเก็บเห็ดหลินจือนรกมาได้ มันสามารถช่วยให้คนตายฟื้นคืนชีพ ซึ่งเหมาะแก่การรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้มาก
ไป๋โยวโยวพยักหน้าพลางกล่าว "ศัตรูของเราแข็งแกร่งมาก แต่คนสารเลวนั่นไม่อาจสังหารพวกเราด้วยมือตนเองเพราะพันธะโลหิต ดังนั้นจึงทำให้พวกเราบาดเจ็บสาหัสแล้วปล่อยให้นั่งรอความตายที่นี่"
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการปรากฏตัวของเสิ่นเสียงได้ช่วยพวกนางเอาไว้ ดังนั้นพวกนางจึงเต็มใจมอบชีพจรเทพซึ่งคิดว่าเป็นส่วนเกินให้เสิ่นเสียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพโอสถผงาดโลกา
อัพต่อหน่อยครับ...
บทอ่านน้อยไปครับ...
ยอดดเยี่ยม...
ไม่ลงให้อ่านสักกะทีรอยุ...
รออ่านอยู่นะครับ...