"ปกติแล้วข้ารู้สึกว่าเจ้าทำงานระมัดระวังอยู่เสมอ แต่ทำไมวันนี้เจ้าจึงประมาทเลินเล่อขนาดนี้ เครื่องหอมอะไรนั่น เจ้าทำใส่แค่ตัวยัยเด็กนั่นก็พอ ทำไมถึงทำให้ตัวเจ้าและข้าต้องสัมผัสมันด้วย? ถ้าไม่ใช่ว่าเจ้าทิ้งเข็มนั่นได้อย่างทันท่วงที คงจะถูกตรวจเจอเป็นแน่ ถึงเวลานั้นไม่เพียงแต่ขโมยไก่ไม่ได้แต่ยังต้องเสียข้าวสารอีกหนึ่งกำมือ" หมิงไท่เฟยขมวดพระขนง นัยน์ตาไม่พอพระทัยเล็กน้อย
ยวีมามารีบก้มศีรษะคำนับอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า "เป็นอย่างที่เหนียงเหนียงตรัสเพคะ หม่อมฉันประมาทเกินไป เพียงแต่หม่อมฉันคาดไม่ถึงว่าว่าองค์หญิงหยุนชางถึงกับใช้เหตุผลที่ว่าเป็นห่วงพระวรกายเหนียงเหนียง และให้คนมาตรวจดูเพคะ"
"ฮ่า ยัยเด็กนั่นน่าสนใจเล็กน้อย แกล้งทำเป็นอ่อนแอ แต่บางครั้งนางก็ดูฉลาดมาก แต่ความฉลาดนั้นจงใจเกินไป ทำให้คนอื่นคิดว่าความฉลาดของนางนั่นแหล่ะที่แกล้งทำออกมา" หมิงไท่เฟยโบกมือและตรัสว่า "ช่างเถอะช่างเถอะ มันเป็นอย่างนี้แล้ว หลายปีมานี้ข้าว่างที่สุด อาจเพราะไม่ได้ทำมาหลายปีแล้ว ดูเจ้าสิไม่คุ้นมือแล้ว คราวหน้าระวังหน่อย หญิงในวังนี้ ล้วนไม่ธรรมดา อย่าประมาทศัตรูอีกต่อไป"
ยวีมามารีบตอบ "หม่อมฉันจะจำไว้เพคะ เหนียงเหนียง ดึกแล้ว เข้าบรรทมก่อนดีกว่านะเพคะ"
หมิงไท่เฟยพยักหน้า "อากาศนับวันยิ่งเย็นลง ประเดี๋ยวไฟถ่านในห้องจุดให้แรงขึ้นหน่อย"
"เพคะ" ยวี่มามาตอบรับ ลุกขึ้นยืน ปรนนิบัติหมิงไท่เฟยเปลี่ยนชุด และเอาโถน้ำร้อนใต้ผ้าห่มที่อุ่นผ้าห่มไว้ออกมา ให้หมิงไท่เฟยนอนลงก่อนจะคลุมผ้าห่มให้ หันหลังกลับจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ จากนั้นเดินไปที่เตาเพื่อจุดไฟให้แรงขึ้น ดับไฟในห้อง แล้วเดินไปที่ห้องเล็กด้านนอกเพื่อนอน
หมิงไท่เฟยนอนหลับอย่างสะลึมสะลือ ฝันถึงแมวตัวหนึ่งร้องไห้อย่างเศร้าสร้อย และพุ่งเข้าหาตัวเอง หมิงไท่เฟยลืมตาขึ้นทันที และตื่นขึ้น เพียงพบว่านางแค่ฝันไป เช็ดหน้าผากของนาง เหงื่อที่เย็นเยียบ กำลังจะหลับพระเนตร ก็ได้ยินเสียงแมวร้อง แผ่วๆหลายครั้งมาจากนอกหน้าต่าง เสียงร้องยิ่งโศกเศร้า
แมวมาจากไหน? หมิงไท่เฟยขมวดพระขนง บางทีอาจเป็นเพราะความฝันในเมื่อครู่ รู้สึกตื่นตระหนกในใจ จึงตะโกนว่า "ยวี่มามา…"
เสียงแผ่วเบาดังมาจากห้องข้างๆ ตามด้วยเสียงของยวี่มามาที่ดังขึ้น "หม่อมฉันอยู่เพคะ"
ผ่านไปครู่หนึ่ง ไฟก็สว่างขึ้น และยวี่มามาก็เข้ามาพร้อมกับตะเกียงเคลือบ "เหนียงเหนียง เกิดอะไรขึ้นเพคะ กระหายน้ำหรือเพคะ?"
หมิงไท่เฟยส่ายพระเศียร ฟังอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ยินอะไรเลย จึงถามว่า "มามา เมื่อครู่เจ้าได้ยินเสียงอะไรหรือไม่ อย่างเช่น เสียงแมวร้อง"
ยวี่มามาได้ฟังก็ส่ายหัว "ไม่เพคะ เหนียงเหนียงทรงได้ยินเสียงอะไรรึเพคะ"
หมิงไท่เฟยขมวดพระขนง "เมื่อครู่ข้าได้ยินแมวร้อง"
"แมว?" ยวี่มามางงเล็กน้อย "ไม่มีนะเพคะ ทำไมมีแมวร้องในเวลานี้ได้เพคะ ยามค่ำยามคืนในวัง สัตว์เลี้ยงทั้งหมดมิได้ปล่อยออกจากวังของมันเลยนะเพคะ?"
หมิงไท่เฟยรู้สึกงงงวยเล็กน้อยพลางคิดว่าตนได้ยินผิด จึงโบกมือแล้วตรัสว่า "ช่างเถอะ บางทีข้าอาจได้ยินผิดไป"
ยวี่มามาพยักหน้า กำลังจะทูลลา นางก็เห็นว่าหน้าต่างด้านข้างดูเหมือนจะเปิดออก ยวี่มามาขมวดคิ้ว "หือ ทำไมหน้าต่างนี้เปิดได้ หม่อมฉันจำได้ว่าเมื่อครู่ได้ปิดแล้ว แม้แต่ไฟในเตาถ่านก็ยังเบาลงนิดหน่อย"
เมื่อได้ยินยวี่มามาพูด หมิงไท่เฟยก็รู้สึกว่าหนาวเล็กน้อย "วันนี้หิมะตก บางทีอาจปิดไม่แน่น พอลมพัดก็ถูกเปิดออก"
ยวี่มามาตอบรับด้วยเสียง "อือ" นางวางโคมไฟเคลือบไว้บนโต๊ะด้านข้าง เดินไปทางหน้าต่าง ขณะที่เดิน รู้สึกว่าเท้ากำลังเหยียบอะไรบางอย่างนุ่มๆ แต่ก็เหมือนจะแข็งอยู่บ้าง ขัดเท้าเล็กน้อย ก้มหน้าลงและเห็นว่าเห็นก้อนขนปุยๆ ที่โดนเหยียบด้วยเท้าตัวเอง นางจึงมองเข้าไปใกล้ๆ อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องด้วยความตกใจ "อ๊า..."
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง