แม้ว่าฉินยีและเฉี่ยนอินจะไม่เต็มใจ แต่ว่าหยุนชางเป็นนายหญิงของตน จึงต้องกล่าวว่า " ท่านอ๋องเพคะ ท่านว่า... "
จิ้งอ๋องยิ้มเล็กน้อยและกล่าวเบา ๆ " ในเมื่อชางเอ๋อร์ไม่ต้อนรับข้าเช่นนี้ ข้าก็กลับไปก่อนจะดีกว่า แต่ว่าอีกไม่กี่วันก็ต้องไปไหว้พระที่วิหารแคว้นหนิงแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นข้ายังต้องคุ้มกันจิ่นเฟยไปที่ วังเฟิ่งไหล แล้วจะได้พบชางเอ๋อร์อีกครั้งอย่างแน่นอน"
หยุนชางตกตะลึง ปากที่เพิ่งยิ้มเพราะจิ้งอ๋องกล่าวว่ากำลังจะกลับไปนั้นก็แข็งทื่อขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังข่มขู่ตน แต่ตนนั้นกลับไม่มีทางโต้ตอบจริงๆ จึงได้กัดฟันและกล่าวอย่างเย็นชาว่า "เสด็จอากล่าวราวกับว่าหม่อมฉันไล่เสด็จอากลับไปเลยเพคะ หากว่าท่านเต็มใจที่จะอยู่ที่นี่ ก็อยู่ต่อเถิดเพคะ" กล่าวจบนางก็เพิกเฉยต่อเขา แล้วหันหลังเข้าไปในห้องโถงชั้นใน
จิ้งอ๋องเห็นว่านางโกรธเคืองเล็กน้อย จึงอดไม่ได้ที่จะขบขัน แบบนี้สิถึงจะถูกต้อง เหมือนเด็กอายุ15มากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย แม้ว่าความสุขุมของนางจะดูดี แต่ก็ขาดความสดใสไป ภาพที่นางโกรธในตอนนี้ ค่อยดูสบายตาขึ้นมาหน่อย
เมื่อ ฉินยีและเฉี่ยนอินเห็นเช่นนี้ พวกนางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตะลึง ตนติดตามองค์หญิงมานาน ไม่เคยพบองค์หญิงเป็นเช่นนี้เลย
ฉินยีคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงระลึกเมื่อตอนตนยังเด็ก ตอนนั้นจิ่นเฟนเหนียงเหนียงและฮ่องเต้ยังคงหวานชื่นอย่างมาก จิ่นเฟยเหนียงเหนียงก็มักจะโกรธเคืองฮ่องเต้เช่นนี้เหมือนกัน เมื่อเห็นกิริยาที่แตกต่างไปจากปกติของหยุนชาง นางก็รู้สึกแอบมีความสุขในใจ แม้ว่าองค์หญิงจะไม่ค่อยสนใจจิ้งอ๋องนัก แต่ทว่าในใจขององค์หญิงนั้น จิ้งอ๋องก็คงจะแตกต่างจากคนอื่นๆไปบ้าง
เมื่อคิดเช่นนี้ ฉินยีก็ก้มศีรษะลงและยิ้มให้จิ้งอ๋องพร้อมกล่าว " ตอนนี้อากาศเย็นเพคะ ท่านอ๋องเข้าไปด้านในให้ร่างกายอุ่นก่อนแล้วค่อยเสด็จกลับดีหรือไม่เพคะ? หม่อมฉันจะไปเตรียมชาให้ท่านอ๋องเพคะ ท่านอ๋องเสวยชาอะไรหรือเพคะ ?"
จิ้งอ๋องเลิกคิ้วและมองไปที่ฉินยี จากนั้นก็พยักหน้า " ก็ดีเช่นกัน วันนี้อากาศค่อนข้างเย็นเสียจริง เจ้าไปเตรียมชาลิ้นนกกระจอกมาแล้วกัน"
ฉินยียิ้มและตอบรับ แล้วดึงเฉี่ยนอินออกมาด้วยเช่นกัน เฉี่ยนอินเกือบจะล้มลงเพราะฉินยีลากตนไป แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าศิลปะการต่อสู้ของจิ้งอ๋องนั้นยอดเยี่ยมเช่นนี้ ท่านจะรู้สึกหนาวได้อย่างไร?
หยุนชางเข้าไปในห้องโถงชั้นใน หยิบหนังสือขึ้นมานอนอ่านบนเบาะ หลังจากอ่านไปครู่หนึ่ง ก็ยื่นมือไปบนเก้าอี้ข้างๆ ด้วยความเคยชิน แต่ไม่พบแก้วชา นางจึงผงะ และนึกขึ้นได้ว่าเมื่อสักครู่ที่ตนเข้ามานั้น ดูเหมือนว่าฉินยีและเฉี่ยนอินยังไม่ได้เข้ามาเลย หยุนชางขมวดคิ้ว หรือว่าจิ้งอ๋องยังอยู่ที่ตำหนักมิยอมกลับไป? นางคิดในใจ แล้วลุกขึ้นเดินออกไปด้านนอกตำหนัก ทันทีที่เดินออกจากตำหนักชั้นในมา นางก็พบว่ามีคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ หยุนชางหรี่ตาลง และเกิดความรำคาญขึ้นในใจ เหตุใดเขาจึงดื้อรั้นเช่นนี้? ตนก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนขนาดนี้ เขายังไม่กลับไปอีกหรือ?
หยุนชางเห็นว่ามีแก้วชาร้อนๆวางอยู่ข้างๆ นางได้กลิ่นหอม นั่นเป็นชาปากนกกระจอกชั้นดีที่เสด็จพ่อทรงมอบให้ตน จึงรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นไปอีก และหันหลังกลับไปด้วยความโกรธเคือง และตะโกนอย่างเสียงดังว่า "ฉินยี เฉี่ยนอิน!"
ไม่นาน ฉินยีและเฉี่ยนอินก็เดินเข้ามา ฉินยีถือชาไว้ในมือหนึ่งแก้ว หยุนชางเห็นเช่นนั้นจึงทำเสียง ไม่พอใจ " ผ่านไปนานเช่นนี้แล้ว เหตุใดจึงไม่นำชามาให้ข้า? ข้าคอแห้ง....."
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง