วันที่สิบห้าเดือนสามเป็นวันดี ดอกไม้ผลิบานในฤดูใบไม้ผลิอันอบอุ่น วันนี้เป็นวันจัดงานเฉลิมฉลองที่แคว้นหนิงจัดขึ้นสำหรับการมาเยือนของแคว้นเซี่ยและแคว้นเย้หลาง หยุนชางนั่งอยู่บนรถม้าในขบวนเสด็จตามจักรพรรดิหนิงและฮองเฮาไปยังเขตล่าสัตว์ในเขตชานเมืองด้านตะวันออก นอกป่าเป็นพื้นที่โล่งที่ถูกจัดวางอัฒจันทร์ไว้ หยุนชางจึงเดินไปนั่งลงบนอัฒจันทร์
ฮองเฮามองดูหยุนชางและตรัสด้วยรอยยิ้มว่า "เหล่าบุตรีของข้าราชบริพารหลายคนในเมืองหลวงต่างก็มากันแล้ว ชางเอ๋อร์จะไม่ไปสนทนากับพวกนางหน่อยหรือ?"
หยุนชางจ้องมองเหล่าสตรีที่กระซิบกระซาบกันอยู่ในลานและส่ายหัว "ก่อนหน้านี้ชางเอ๋อร์เคยได้พบกับพวกนางที่งานเลี้ยงวันเกิดของพระชายาซุ่นชิ่งอ๋อง พวกนางรวมตัวกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ชางเอ๋อร์ไม่ค่อยออกไปไหนและไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้มากนัก ดังนั้นพวกนางพูดอะไรชางเอ๋อร์ก็ไม่ค่อยเข้าใจ นอกจากนี้หากชางเอ๋อร์เข้าไป พวกนางก็มักจะเกรงฐานะของชางเอ๋อร์จึงคุยกันไม่สนุก ชางเอ๋อร์จะไปขัดความสุขของพวกนางได้อย่างไร?
เมื่อฮองเฮาทรงได้ยินเช่นนั้นก็ดูเหมือนจะอึ้งไป นางยิ้มและยื่นมือออกมาแตะมือของหยุนชางเบาๆ "เด็กดี แต่หากเจ้าเป็นเช่นนี้ ต่อไปแต่งงานกับจิ้งอ๋องแล้วจะทำอย่างไร? แม้ว่าหลายปีมานี้จวนจิ้งอ๋องจะไม่ได้ไปมาหาสู่กับผู้คนมากมาย แต่ก็เป็นเพราะในจวนไม่มีสตรีคอยกำกับดูแล หากเจ้าแต่งงานกับเขาแล้วเจ้าก็จะเป็นชายาของจิ้งอ๋อง โดยธรรมชาติแล้วเจ้าต้องคอยสร้างสัมพันธ์อันดีกับตระกูลขุนนางอื่นๆ แม้ว่าเหล่าหญิงสาวพวกนี้จะดูไม่สำคัญอะไรในตอนนี้ แต่ภูมิหลังของพวกนางก็ไม่เลวเลย ในอนาคตพวกนางจะแต่งงานเข้าตระกูลดังไปเป็นฮูหยินเอก หากเจ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกนางอย่างไรก็ไม่เลวเลย อย่าได้ดูถูกผู้หญิง มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เพียงลมปากของฮูหยินเอกสองสามคำก็ทำให้เรื่องเปลี่ยนไปได้อย่างเงียบๆ"
ร่างกายของหยุนชางเกร็งขึ้นเล็กน้อย สิ่งที่ฮองเฮาพูดนั้นสมเหตุสมผลมาก แต่เพราะมันสมเหตุสมผลเกินไปจึงทำให้หยุนชางรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย หากเป็นเมื่อก่อน ฮองเฮาก็น่าจะหวังว่านางจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย หลังจากแต่งงานออกไปกับใครสักคน นางก็จะทำให้จวนวุ่นวายกลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่ เช่นนั้นย่อมตรงใจนางที่สุด แต่จู่ๆ นางกลับพูดเรื่องเช่นนี้กับตัวเอง
"แต่ชางเอ๋อร์ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าพวกนางกำลังคุยอะไร..." หยุนชางก้มศีรษะลง ท่าทางน้อยอกน้อยใจ
หยวนเจินฮองเฮาหรี่ตาลง สายตาของนางแฝงไปด้วยรอยยิ้ม "เดิมทีข้าอยากให้เจ้าเรียนรู้จากจิ้งเอ๋อร์สักหน่อย แต่เกรงว่าจิ้งเอ๋อร์เองก็รับมือได้ค่อยดีนัก นางทำเรื่องราวเช่นนั้นออกมาก็เป็นเพราะแม่อย่างข้าอบรมสั่งสอนไม่ดีเอง แม้เจ้าจะไม่ใช่ลูกแท้ๆของข้า แต่เจ้าก็ถูกเลี้ยงดูมาโดยข้า พี่สาวของเจ้าเป็นอย่างนั้นไปเสียแล้ว แม่หวังว่าเจ้าจะสามารถเป็นพระชายาของจิ้งเอ๋อร์ได้อย่างราบรื่น อีกเดี๋ยวแม่จะส่งมามาสองคนไปอยู่ข้างเจ้าเพื่อสอนเรื่องที่ชายาเอกต้องรู้ก็แล้วกัน แต่แม่จะไม่บังคับเจ้า หากเจ้าคิดว่าสิ่งที่พวกเขาพูดมีเหตุผลก็จงฟังเถิด แต่ถ้าคิดว่าสิ่งที่พวกเขาพูดนั้นไม่สมเหตุสมผลเลย เจ้าก็ลืมมันไปเสีย"
หยุนชางได้ยินดังนั้น ในใจของนางจึงตระหนักได้ถึงความจริง ฮองเฮาทำร้ายนางทั้งทางตรงและทางอ้อม นางจึงยังคงรู้สึกไม่ชินเล็กน้อย เมื่อนางได้ยินอย่างนี้นางจึงค่อยโล่งใจ ยังดีที่เพียงแค่ให้มามาสองคนมาอยู่ข้างกายนางเท่านั้น นอกจากนี้นางก็ต้องเรียนรู้เรื่องเหล่านี้จริงๆ คำสอนของท่านตาก่อนหน้านี้ทำให้นางได้เรียนรู้วิชาดนตรี หมากรุก อักษร การวาดภาพ และแม้กระทั่งศิลปะการต่อสู้ มีเพียงเรื่องที่หญิงสาวควรเรียนรู้ที่นางกลับไม่ค่อยเข้าใจนัก
"ถ้าเช่นนั้นก็ขอบพระทัยเพคะ เสด็จแม่" หยุนชางยิ้มตาหยี
ฮองเฮาพยักหน้าและพูดอย่างนุ่มนวลว่า "ข้ารู้ว่าตอนนี้เจ้าอาจจะยังระแวงข้าอยู่อย่างมาก แต่ก็ไม่เป็นไร ข้าเชื่อว่าตอนนี้เจ้าโตแล้ว ย่อมรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาสอนเจ้านั้นมีประโยชน์หรือไม่ เจ้าก็อายุไม่น้อยแล้ว อีกไม่นานก็จะแต่งงาน พอเจ้าแต่งงานออกไปแล้ว เจ้าก็จะไม่ได้อยู่ในวังอีกและไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อข้า แล้วข้าจะเอาเรื่องเจ้าไปมากมายทำไม?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง