จิ่งเหวินซีได้ยินเช่นนั้นก็ดูตกใจเล็กน้อย นางอ้าปากค้างอยู่นานแล้วจึงพูดว่า "อ้อ ซีเอ๋อร์ไม่รู้ว่าองค์หญิงขี่ม้าไม่ได้ เพียงแต่ชางยางอวี้เอ๋อร์ชนะไป หากนางใช้โอกาสนั้นขอให้ฮ่องเต้พระราชทานงานสมรสให้อีก พอถึงเวลานั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคน องค์หญิงก็คงจะเป็นผู้เจ็บใจเสียเอง น่าเสียดายจริงที่องค์หญิงขี่ม้าไม่เป็น..."
ชิชะ ถอยเพื่อรุกงั้นหรือ หยุนชางสงสัยเล็กน้อย ผู้วางแผนที่อยู่เบื้องหลังจิ่งเหวินซีและสั่งให้นางพูดจาเช่นนี้คือใครกัน...
ชางยางอวี้เอ๋อร์ที่อยู่อีกด้าน ได้ยินเรื่องนี้เข้าก็หัวเราะออก "องค์หญิงฮุ่ยกั๋วขี่ม้าไม่เป็นแล้วอวี้เอ๋อร์จะไปฝืนใจได้อย่างไร อวี้เอ๋อร์จะไม่รังแกองค์หญิงเช่นนี้หรอก หากได้จิ้งอ๋องมาเช่นนี้ก็นับว่าชนะอย่างไม่เป็นธรรม แม้ว่าอวี้เอ๋อร์จะเป็นบุตรสาวผู้ต่ำต้อยของราชครูแห่งแคว้นเย้หลาง แต่ก็รู้ว่าองค์หญิงแห่งแคว้นหนิงสูงศักดิ์เพียงใด แม้ว่าจะไม่มีความสามารถอันใดเลย อย่างไรจักรพรรดิก็ย่อมเต็มไปเสาะหาคู่แต่งงานที่เพียบพร้อมให้อย่างแน่นอน แม้อวี้เอ๋อร์จะอิจฉาองค์หญิงเล็กน้อย แต่ก็คงไม่ได้ไม่รู้จักดีชั่วถึงเพียงนั้น"
หยุนชางเลิกคิ้วขึ้น ความหมายของชางยางอวี้เอ๋อร์ก็คือ... นางไม่มีความสามารถใดๆ เลย แต่ด้วยฐานะอันสูงส่งขององค์หญิงแห่งแคว้นหนิง นางจึงคว้าจิ้งอ๋องไว้ไม่ยอมปล่อย? เมื่อหยุนชางกำลังจะพูด กลับเห็นหวังจินเหยียนหรี่ตาลงเล็กน้อยและดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจ นางยกมือแล้วเอ่ยกับหยุนชางว่า "องค์หญิงวางใจเถอะ หม่อมฉันมั่นใจว่าจะชนะการประลองนี้ได้และ จะไม่มีวันให้แคว้นหนิงเสียหน้าอย่างเด็ดขาด"
เมื่อหยุนชางได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มของนางก็กว้างขึ้น นางพูดอย่างนุ่มนวลว่า "ชางเอ๋อร์เชื่อในตัวแม่นางหวังอยู่แล้ว เพียงแต่สิ่งที่แม่นางจิ่งและแม่นางชางยางกล่าวก็ไม่ผิดเลย ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ชางเอ๋อร์เป็นถึงองค์หญิงแห่งแคว้นหนิงก็ควรจะแสดงความเป็นองค์หญิงออกมาให้เห็น แม้ว่าข้าจะขี่ม้าไม่เป็นก็ไม่กลัว ในเมื่อวันนี้ทุกคนดูจะสนอกสนใจมาก ข้าก็จะเล่นสนุกไปกับพวกเจ้าก็แล้วกัน ถึงจะแพ้ก็แพ้ไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยสักนิด" ดวงตาของชางยางอวี้เอ๋อร์และจิ่งเหวินซีฉายแววลำพอง หวังจินเหยียนหรี่ตาลงเล็กน้อยและไม่ได้พูดอะไร จิ้งอ๋องผู้ซึ่งดูเหมือนจะว่างลงในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นและมองหยุนชาง "ชางเอ๋อร์ก็จะเข้าร่วมหรือ?"
หยุนชางยิ้มพลางกล่าวว่า "เพียงแต่เห็นว่าทุกคนดูสนุกสนานจึงอยากจะสนุกกับทุกคนด้วยเพคะ"
จิ้งอ๋องแอบครุ่นคิดกับตัวเองครู่หนึ่งแล้วจึงยิ้มและกล่าวว่า "ดี ในเมื่อชางเอ๋อร์อยากสนุกก็สนุกเถอะ"
จักรพรรดิหนิงมองความโหมกระหน่ำของคลื่นใต้น้ำของคนเหล่านี้อย่างเงียบๆ มาตลอด ยามนี้จึงค่อยเอ่ยปากขึ้นอย่างสบายๆ "ชางเอ๋อร์ไม่เคยขี่ม้า จิ้งอ๋อง เจ้าส่งคนตามนางไว้ อย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับชางเอ๋อร์"
จิ้งอ๋องพยักหน้า "เช่นนั้นชางเอ๋อร์ก็ขี่ท่าหยุนของข้าเถอะ"
เมื่อคำพูดนี้ออกมาจากปากจิ้งอ๋อง จิ่งเหวินซีที่อยู่ด้านข้างก็กะพริบตาเล็กน้อย "ท่านอ๋องปกป้องเช่นนี้ออกจะไม่ยุติธรรมเลยนะเพคะ ใครๆ ก็รู้ว่าท่าหยุนเป็นม้าเหงื่อโลหิตที่ยอดเยี่ยม ม้าธรรมดาจะวิ่งเร็วกว่าท่าหยุนได้อย่างไร?"
จิ้งอ๋องดูไม่พอใจเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วมุ่นมองจิ่งเหวินซี "ไม่ยุติธรรม? แม่นางชางยางโตขึ้นในแคว้นเย้หลาง ผู้คนที่นั่นใช้ชีวิตเร่ร่อนและต่างเติบโตมาบนหลังม้า หญิงสาวคนอื่นๆ ที่มาลงชื่อประลองก็ฝึกขี่ม้าตั้งแต่ยังเด็ก แม้แต่แม่นางจิ่งเอง ครอบครัวก็ยังเชิญปรมาจารย์การต่อสู้มาสอนให้ขี่ม้า แต่ชางเอ๋อร์ไม่เคยขี่ม้ามาก่อน หากเป็นม้าธรรมดา เกรงว่าจะขึ้นไม่ได้ด้วยซ้ำ แม่นางจิ่งว่าข้าไม่ยุติธรรมหรือ?"
จิ่งเหวินซีตกใจกับสีหน้าของจิ้งอ๋อง จึงก้มหน้าลงและพูดเสียงเบา "ไม่เพคะ..." น้ำเสียงของนางตะกุกตะกักเล็กน้อย
หยุนชางเลิกคิ้วอีกครั้ง จิ่งเหวินซีผู้นี้ก็เล่นละครเก่งไม่เบา
"ท่านอ๋อง กลุ่มผู้ประลองฝ่ายชายทั้งหมดเตรียมตัวพร้อมแล้ว สามารถเริ่มได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ" ข้ารับใช้ผู้หนึ่งเดินเข้ามารายงานเสียงดัง
จิ้งอ๋องพยักหน้าและรับท่อนไม้มาจากข้ารับใช้ แล้วตีฆ้องที่อยู่ด้านข้าง เสียง "ผ่าง... " ดังพร้อมกับเสียงประกาศ "เริ่มได้" ของจิ้งอ๋อง ทันใดนั้นก็มองเห็นเพียงฝุ่นฟุ้งกระจาย เสียงกีบเท้าม้าเริ่มห่างไกลออกไป กลุ่มคนและม้าหายเข้าไปในป่าทึบ
จักรพรรดิหนิงยิ้มและจิ้งอ๋อง "เจ้าจะไม่ไปร่วมสนุกหน่อยหรือ?"
เมื่อฮองเฮาได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหัว "ฝ่าบาท หากจิ้งอ๋องเข้าร่วมประลองด้วยล่ะก็ เห็นจะไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันแล้วเพคะ"
เมื่อจักรพรรดิหนิงได้ยินเช่นนั้นก็อดหัวเราะเสียงดังไม่ได้ "ฮองเฮากล่าวถูกต้องแล้ว ฝีมือของจิ้งอ๋องนั้นยอดเยี่ยมเป็นที่สุด ในเมื่อจิ้งอ๋องไม่ไปก็ขึ้นมาดูเหล่าหญิงสาวแข่งขันด้วยกันบนอัฒจันทร์เถอะ"
จิ้งอ๋องพยักหน้า กวักมือเรียกหยุนชาง หยุนชางจึงลุกขึ้นยืน ลงจากอัฒจันทร์และเดินไปหาเขา ข้ารับใช้จูงม้าสีแดงเข้ามา มันมีเพียงกีบเท้าเท่านั้นที่เป็นสีขาวราวหิมะ หยุนชางยกมือของนางขึ้นลูบหัวม้าแล้วยิ้มบางๆ "เสด็จอาจะให้ชางเอ๋อร์ขี่ท่าหยุนร่วมประลองจริงหรือ?"
จิ้งอ๋องย่อมรู้ว่าที่นางบอกว่านางขี่ม้าไม่เป็นนั้นเป็นเรื่องโกหก แต่เขาก็ยังช่วยนางเล่นละครต่อจนจบ "แน่นอน ท่าหยุนจำเจ้าได้ มันจะฟังเจ้า... " เขาหยุดชั่วครู่ นัยน์ตาเปล่งประกาย "ระวังตัวด้วย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง