หยุนชางอมยิ้ม รอยยิ้มของนางเย็นชาเล็กน้อย "ชางเอ๋อร์ทรงม้าไม่ค่อยถนัดนัก แต่ชางเอ๋อร์ไม่ทราบว่า เหตุใดเสด็จพี่จึงอยู่หลังชางเอ๋อร์เสียอีกเพคะ? ชางเอ๋อร์ได้ยินมาว่าท่านมหาเสนาบดีหลี่เป็นคนสอนทักษะการทรงม้าให้เสด็จพี่โดยตนเองมิใช่หรือเพคะ......"
หัวจิ้งตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ นางรู้สึกรำคาญหยุนชางอย่างมาก แต่ก็ทราบดีว่าหากตนสร้างความขัดแย้งกับนางในตอนนี้ สุดท้ายแล้วก็เป็นตนที่ต้องลำบาก นางจึงขมวดคิ้วและกล่าวว่า "วันนี้ข้าไม่ค่อยสบายนัก ม้าวิ่งขึ้นมาข้าก็ปวดหัวทันที ม้าที่ชางเอ๋อร์ทรงนั้นคือท่าหยุนของจิ้งอ๋องใช่หรือไม่? หากว่าเจ้าแพ้ขึ้นมาก็คงไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่นัก"
"หึหึ เสด็จพี่ก็ทราบดีมิใช่หรือว่าหยุนชางไม่เก่งด้านการทรงม้า เมื่อสักครู่นี้เป็นเพราะม้าตัวนี้เป็นม้าดี ม้าวิ่งด้วยตัวเองมาเรื่อยๆ แต่เมื่อเข้ามาในป่านี้ทึบนี้แล้ว ม้าก็ไม่ฟังข้า และหยุดอยู่ตรงนี้ไม่ยอมขยับไปไหน และนี่ก็เป็นม้าชั้นยอดของเสด็จอา ชางเอ๋อร์ไม่สามารถตีหรือดุได้ ดังนั้นจึงทำได้แค่รออยู่ที่นี่ให้มันเดินเองเพียงเท่านั้น " หยุนชางขมวดคิ้วและตบม้าเบา ๆ ท่าหยุนก็ยังไม่ขยับไปไหน และม้าก็เงยหน้าขึ้นดูเหมือนดื้อรั้นเล็กน้อย
หัวจิ้งมองไปที่หยุนชางด้วยความเยาะเย้ยเล็กน้อย และกล่าวว่านางอยู่ภายในว่า "คนไม่เอาไหน"
แต่ใบหน้าของนางก็แสร้งทำเป็นเห็นอกเห็นใจมากและพูดด้วยรอยยิ้มว่า " ถ้าอย่างนั้นชางเอ๋อร์ก็พักผ่อนอยู่ที่นี่สักครู่แล้วกันนะ พี่ขอตัวลาไปก่อน"
หยุนชางพยักหน้า "เสด็จพี่ไปเถิดเพคะ หากว่าเสด็จพี่ชนะ เสด็จแม่และท่านตาคงจะดีใจอย่างมากเพคะ"
หัวจิ้งหรี่ตาลง นางรู้ดีว่าผลการแข่งในวันนี้ของนางอาจไม่ดีนัก อาจทำให้เสด็จแม่และท่านตาต้องเสียหน้า แต่ทว่า.........หัวจิ้งถอนหายใจหนักๆ แล้วทรงม้าตรงไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
หลังจากที่เงาร่างของหัวจิ้งค่อยๆ หายจากสายตาไปแล้ว ผู้หญิงชุดดำก็ปรากฏตัวขึ้นอยู่หน้าหยุนชาง "นายหญิงเจ้าคะ เตรียมการเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ"
ความเย็นชาปรากฏขึ้นในดวงตาของหยุนชาง นางยิ้มและกล่าวว่า " ดีมาก แล้วชางยางอวี้เอ๋อร์และจิ่งเหวินซีอยู่ที่ใด"
หญิงชุดดำกล่าวด้วยความไม่สบอารมณ์ "ไอ้สารเลวสองคนนั้น คิดอยากจะวางกับดักไว้ระหว่างทางที่นายหญิงต้องเดินทางผ่าน อีกทั้งยังโปรยถั่วดำของโปรดของม้าเหงื่อโลหิตไว้ในป่าอีกด้วย ในถั่วดำนั้นมีปริมาณของยาสลบอยู่ไม่น้อย ข้าน้อยดูทรงแล้ว เหมือนว่าพวกเขายังมีแผนอื่นๆอีก แต่ด้วยเหตุที่คุณหญิงหวังตามพวกนางทัน แล้วอยู่ข้างๆพวกนางโดยตลอด จับตามองพวกนางเป็นอย่างดี พวกนางจึงไม่มีโอกาสได้ลงมือเจ้าค่ะ"
"โอ้?" หยุนชางยิ้มเล็กน้อย "ไม่คาดคิดว่าพวกนางจะคาดการณ์ได้ว่าจิ้งอ๋องจะนำท่าหยุนของท่านมาให้ข้า"
หญิงชุดดำพยักหน้าและกล่าวว่า "สองสามวันก่อนนี้ ท่านจิ้งอ๋องได้รวบรวมรายชื่อของคุณหญิงที่ทรงม้าเป็น และม้าที่เตรียมไว้ก็เตรียมเท่าจำนวนรายชื่อ พวกนางคงจะคาดการณ์จากจุดนี้ จึงคิดว่าถ้าหากพวกนางกล่อมองค์หญิงให้เข้าร่วมการแข่งขันนี้ได้ ท่านจิ้งอ๋องก็จำเป็นต้องนำเอาม้าของท่านมาให้องค์หญิงใช้เจ้าค่ะ"
หยุนชางพยักหน้า "จิ้งอ๋องทรงโปรดปรานม้าตัวนี้เปรียบเสมือนชีวิตของตน หากว่าท่านทราบว่ามีคนคิดอยากจะลงมือกับม้าของท่าน ท่านคงพิโรธอย่างมาก ไปกันเถิด พาท่าหยุนไปกินของอร่อยกันเถอะ"
เมื่อหญิงชุดดำได้ยินเช่นนี้ มุมปากของนางก็กระตุก และเดินตรงไปข้างหน้าพร้อมหยุนชาง
มีเสียงดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบาอยู่ข้างหน้า หญิงชุดดำสั่นสะท้าน แล้วหันหน้าไปมองหยุนชางพร้อมกล่าว "นายหญิงเจ้าคะ มาแล้วเจ้าค่ะ"
"โอ้?" หยุนชางส่งเสียง ท่าหยุนก็เร่งวิ่งตรงไปข้างหน้า หัวจิ้งทรงม้าขาวของตนและวิ่งอยู่ข้างหน้า สีขาวเป็นสีที่สว่างที่สุดในป่าทึบนี้
มีเสียงแปลก ๆ ดังมาจากระยะไกลๆ เมื่ออยู่ในป่าทึบเช่นนี้ หากมิใช่คนที่อยู่ในป่าทึบมาเป็นเวลานานหรือว่ามีศิลปะการต่อสู้ระดับสูง ก็ยากที่จะสัมผัสมันได้ หยุนชางหรี่ตาลง มองไปที่หญิงสาวขี่ม้าที่สวมเสื้อสีม่วงอยู่บนตรงหน้า แล้วแววตาแห่งการสังหารก็วิ่งผ่านดวงตาของนา
"หัวจิ้ง คราวนี้แหละ ข้าจะทำให้เจ้าเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง