ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 188

หยุนชางนั่งนิ่งอยู่ชั่วครู่ หมิ่นกุ้ยเฟย? หยุนชางไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย

ฉินยีเห็นดังนั้นก็รู้ว่าหยุนชางกำลังคิดอะไรอยู่ จึงพูดต่อไปว่า "หมิ่นกุ้ยเฟยสิ้นพระชนม์ตั้งแต่พระชนมายุยังไม่มากนัก องค์หญิงไม่รู้จักก็เป็นเรื่องธรรมดาเพคะ หมิ่นกุ้ยเฟยเป็นพี่น้องแท้ๆกับหมิงไท่เฟย หมิ่นกุ้ยเฟยเข้ามาถวายงานกับฮ่องเต้องค์ก่อนตั้งแต่สมัยที่พระองค์ยังเป็นองค์รัชทายาท ตอนนั้นพระนางเป็นพระชายารอง แต่ทว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมานางก็ยังไม่สามารถมีโอรสหรือธิดาถวายแด่ฮ่องเต้ได้ ดังนั้น เมื่อฮ่องเต้พระองค์ก่อนขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน ตระกูลหลี่ก็ได้ส่งหมิงไท่เฟยเข้ามาในวัง หลังจากนั้น หมิงไท่เฟยก็ทรงครรภ์ แต่ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น หมิ่นกุ้ยเฟยจู่ๆก็ล้มป่วยลง ตอนที่พระนางสิ้นพระชนม์ทรงมีพระชนมายุเพียง 25 พรรษาเท่านั้น หมิงไท่เฟยทรงตรอมพระทัยอยู่พักใหญ่ เด็กในพระครรภ์ก็ไม่อาจรักษาเอาไว้ได้ ผู้คนในสมัยนั้นล้วนพากันยกย่องสายใยรักของสองพี่น้องคู่นี้มากเพคะ"

หยุนชางเบ้ปาก "สายใยรักสองพี่น้อง วังหลังแห่งนี้ยังจะมีพี่มีน้องอยู่อีกหรือ?" หยุนชางเอนตัวลงบนเบาะ ครุ่นคิดเรื่องที่ผ่านมา ตอนนั้นเกิดเหตุอันใดขึ้นต่อหน้าคนสองคนนั้น มาวันนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานมัดตัวคนใจร้าย แต่ว่า มันกลับชัดเจนขึ้นมาว่า มีคนตั้งใจส่งผู้ติดตามที่เป็นคนเก่าคนแก่ของหมิ่นกุ้ยเฟยมาไว้ข้างกายตน แล้วก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า ที่ผ่านมาตนนั้นไม่ค่อยได้สังเกตเหล่านางกำนัลอาวุโสเลย จึงไม่ค่อยรู้เรื่องอันใดมาก แล้วก็ไม่เคยสงสัยคนพวกนี้มาก่อน

นางนิ่งเงียบไปสักพักหนึ่งแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมาถาม "นางกำนัลสองคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ที่ใด?"

ฉินยีก้มหน้ารายงาน "สองคนนั้นอายุมากจนสมควรให้ออกไปพักผ่อนที่นอกวังได้แล้ว แต่เพราะพวกนางอยู่ในวังมานาน เข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติในวังเป็นอย่างดี จึงถูกส่งให้ไปอยู่สถานฝึกนางในเพคะ"

"งั้นหรือ?" หยุนชางหรี่ตา นี่ใช้แรงงานผู้อาวุโสกันแบบนี้เลยหรือนี่

"องค์หญิง กับสองคนนั้นจะจัดการอย่างไรดีเพคะ?" ฉินยีกระซิบถาม หยุนชางรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ คนในตำหนักชิงซินนี้ส่วนใหญ่แล้วนางเป็นคนดูแลจัดการด้วยตัวเองมาตลอด นางโทษตัวเองที่ไม่ได้ดูคนให้ถี่ถ้วน ปล่อยให้นางกำนัลสองคนนั้นแฝงตัวเข้ามาอยู่ในนี้เป็นเวลานาน เกือบจะต้องกลายเป็นความผิดอันใหญ่หลวง หากจะให้นางเป็นผู้ตัดสินใจล่ะก็ นางก็อยากจะให้สองคนนั้นตายๆไปซะแล้วก็ไม่ต้องหาที่ฝังศพให้ด้วย

หยุนชางก้มหน้าครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แล้วก็หัวเราะ "ในเมื่อเป็นนางกำนัลเก่าแก่ของวังหลวง และยังเป็นคนของหมิ่นกุ้ยเฟย ก็คงจะรู้อะไรดีๆอีกหลายอย่างเป็นแน่ พวกนางคงจะเก่งไม่น้อย มิเช่นนั้นก็คงไม่ได้รับความไว้วางใจจากคนตระกูลหลี่ เฉี่ยนอินไปนำตัวสองคนนั้นมา แล้วมอบให้หนิงเชียนเป็นผู้ดูแล หนิงเชียนเองก็กำลังศึกษาเรื่องการสอบปากคำอยู่พอดี ไม่รู้ว่าศึกษาเป็นอย่างไรบ้าง ลองให้สองคนนี้มาเป็นบททดสอบให้หน่อยก็แล้วกัน"

เมื่อเฉี่ยนอินได้ฟัง นัยน์ตาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที "แบบนี้ไม่เลวเลยเพคะ หนิงเชียนกำลังกลัดกลุ้มเรื่องที่ไม่มีคนที่เหมาะสมไปให้เขาทำการทดสอบ มามาจากในวัง คงจะมีคนหนึ่งที่ปากแข็ง มิเช่นนั้นคงอยู่ไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ ช่างเป็นเรื่องที่เหมาะเจาะจริงๆเลยเพคะ"

"ถ้าเช่นนั้น เจ้าก็ไปจัดการได้เลย" หยุนชางเห็นท่าทางที่แทบจะรอไม่ไหวของนางก็อดหัวเราะไม่ได้ หยุนชางหัวเราะนางเบาๆ

รอจนเฉี่ยนอินออกไปจนพ้นประตูแล้ว หยุนชางมองมาที่ฉินยี "ฉินยี เจ้าลองไปสืบข่าว ดูว่าหลี่ฝูยีช่วงนี้กำลังทำอะไร......"

ฉินยีไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดหยุนชางจึงให้ตนไปทำเช่นนั้น แต่ตนก็ไม่ได้เอ่ยถามแต่อย่างใด ได้แต่เพียงพยักหน้าและทูลลาออกไปด้านนอก

หยุนชางเม้มปาก พลันนึกขึ้นมาได้ว่าหลี่ฝูยีนั้นเป็นน้องสาวของฮองเฮา ก็ไม่รู้ว่า สองคนนี้จะมีสายใยรักสองพี่น้องอันแน่นแฟ้นต่อกันด้วยหรือไม่

หลี่ฝูยีช่วงนี้กำลังติดตามหมิงไท่เฟยอยู่ ตลอดวันนางจะช่วยหมิงไท่เฟยคัดบนกลอน สวดมนต์นั่งสมาธิ หยุนชางได้ฟังเฉี่ยนอินรายงาน นางอดแสยะยิ้มออกมาไม่ได้ สตรีตระกูลหลี่ไม่มีผู้ใดถือศีลกินเจกันสักคน หลี่ฝูยีก็ช่างรู้จักคิดเสียจริง พาตัวเองหลบหนีจากความวุ่นวายไปได้ แต่เกรงว่าในใจนั้นจะไม่อาจหนีจากความวุ่นวายได้จริงๆน่ะสิ หมิงไท่เฟยประทับอยู่ในวังมานานกว่าฮองเฮา พระนางคงรู้อะไรมากมาย เมื่อหลี่ฝูยีคอยเฝ้าติดตามพระนาง ก็คงจะได้เรียนรู้อะไรดีๆจากพระนางมามากเลยทีเดียว

หยุนชางถอนหายใจ "เดือนนี้ เสด็จพ่อได้เสด็จไปค้างคืนกับสนมองค์ใดบ้าง แต่ละตำหนักเสด็จไปกี่ครั้ง?"

หยุนชางนิ่งเงียบเพื่อใช้ความคิด พลันมีเสียงเสียงหนึ่งพูดตัดบทขึ้นมาว่า "องค์หญิง ท่านยังไม่เคยออกเรือนมาก่อน จะให้ไปสืบเรื่องแบบนี้ หม่อมฉันว่า......คงไม่ดีเท่าไรมั้งเพคะ"

หยุนชางเลิกคิ้วมองไปที่ฉินยี "ข้าต้องเอาการข้อมูลไปทำอย่างอื่น เจ้าไม่ต้องคิดมากไปหรอก"

ฉินยีไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว ได้แต่ไปสืบเสาะข้อมูลตามคำสั่งของนาง "เดือนนี้ส่วนใหญ่ฮ่องเต้จะบรรทมอยู่ที่ตำหนักฉินเจิ้งเพียงลำพังเพคะ ส่วนเรื่องค้างคืนกับนางสนมนั้น หย่าผิน 3 วัน เมิ่งเจี๋ยยวี๋ 1 วัน ฝูเหม่ยเหริน 1 วัน นอกนั้นก็ไม่มีแล้วเพคะ"

หยุนชางพยักหน้า ดูสิ แม้ว่าหลี่ฝูยีจะอยู่กับหมิงไท่เฟย แต่ทว่าในหนึ่งสัปดาห์ก็ยังได้รับโอกาส 1 วันให้ได้ใกล้ชิดกับเสด็จพ่อ เช่นนี้แล้ว นางก็คงไม่ลำบากอะไร

หยุนชางคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วให้ฉินยีช่วยนางแต่งกายด้วยชุดสีขาว มุ่งหน้าไปที่ตำหนักฉางชุน

หลี่ฝูยีอยู่ที่ตำหนักฉางชุนตามที่หยุนชางคาดไว้ เมื่อหยุนชางไปถึง ก็พบว่าหลี่ฝูยีเองก็สวมใส่อาภรณ์ที่งดงามไม่แพ้กัน บนศีรษะประดับด้วยปิ่นเงิน นางกำลังคัดบทสวดมนต์อย่างตั้งใจ หมิงไท่เฟยประทับอยู่ข้างๆ พระนางหลับตาเจริญกรรมฐาน ภายในตำหนักมีกลิ่นกำยานหอมอบอวล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง