เฉี่ยนอินตัวสั่น "สตรีในวังหลวงนี่น่ากลัวจริงๆเลยเพคะ ขนาดเป็นพี่น้องกันแท้ๆ ยังทำกันได้ลงคอ แก่งแย่งชิงดีกันชนิดที่ว่าคนหนึ่งอยู่อีกคนหนึ่งต้องตาย"
หยุนชางยิ้มเล็กน้อย แล้วจู่ๆนางก็ทำหน้าเศร้า "ก็คงจะรู้สึกเดียวดายกันทั้งนั้น นอกจากการชิงดีชิงเด่นก็ไม่มีกิจกรรมอื่นให้ทำฆ่าเวลาแล้ว"
ผ่านไปสองวัน หมิงไท่เฟยรู้สึกตัวแล้ว แต่พระวรกายกลับไม่ปกติ จากเดิมที่เป็นเจ้าจอมผู้ทรงพระสิริโฉมงดงามดูน่าเกรงขาม บัดนี้ กลับกลายมาเป็นสตรีปากเบี้ยวพูดจาไม่รู้ความ
เมื่อหมิงไท่เฟยเป็นเช่นนี้แล้ว วังหลังก็ไร้ผู้ดูแล ผู้ที่มีอำนาจดูแลปกครองวังหลังได้นั้น จะต้องมีฐานันดรศักดิ์เป็นพระสนมขึ้นไปเท่านั้น ด้านฮองเฮานั้นยังคงถูกกักบริเวณอยู่ นอกเหนือจากนี้แล้ว ก็เห็นจะมีแต่จิ่นเฟยที่เหมาะสม ทว่าในตอนนี้นั้น จิ่นเฟยกำลังรอประสูติอยู่ที่เมืองเฟิ่งไหล ไม่สามารถเสด็จกลับวังในตอนนี้ได้ จึงไม่อาจขึ้นเป็นผู้นำวังหลังได้ในเวลานี้
"องค์หญิงเพคะ พระองค์ทรงลงมือจัดการหมิงไท่เฟยรวดเร็วเช่นนี้ ต่อจากนี้จะเอาอย่างไรต่อไปเพคะ จิ่นเฟยเหนียงเหนียงก็มิได้ประทับอยู่ที่นี่ เกรงว่าฮ่องเต้จะสั่งปล่อยตัวและให้ฮองเฮาออกมาควบคุมวังหลังแทน เมื่อถึงตอนนั้น ฮองเฮาคงจะทรงวางอำนาจใหญ่โตไปทั่ว" เฉี่ยนอินรู้สึกกังวล แม้ว่าวังหลังจะเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ แต่นางก็เห็นแล้วว่าเบื้องลึกนั้นกลับมีความปั่นป่วนวุ่นวายซ่อนอยู่ "เมื่อวานนี้ หม่อมฉันเห็นมีนางสนมและนางในจำนวนหนึ่งไปถวายพระพรต่อฮองเฮาด้วยเพคะ"
หยุนชางยิ้มอย่างใจเย็น สายตาจ้องมองไปที่โคมไฟแปดเหลี่ยมที่ห้อยระย้า "จะต้องให้นางกลับมาดูแลวังหลัง หากว่านางยังคงอยู่แต่ภายในวังชีอู๋ แล้วข้าจะลงมือได้อย่างไรกันล่ะ?"
เฉี่ยนอินรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าใดนัก แต่ไหนแต่ไรนางก็เป็นคนแสดงออกตรงไปตรงมา แม้ว่าหลายปีมานี้ หนิงเชียนจะฝึกให้นางควบคุมอารมณ์มาบ้างแล้ว แต่ทว่านางก็ไม่อาจสลัดความเป็นเด็กออกไปได้ทั้งหมด
"หม่อมฉันอยากจะไปฆ่านางให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย" เฉี่ยนอินพูดเบาๆ หยุนชางเมื่อได้ยินก็ถึงกับเลิกคิ้ว "โอ้โห ไม่รู้มาก่อนเลยว่าเฉี่ยนอินของพวกเราจะเป็นคนอารมณ์ร้ายเช่นนี้ หากเจ้าสังหารนางแล้ว ก็คงสาแก่ใจเจ้าเพียงแค่ชั่วประเดี๋ยว แต่สิ่งที่จะตามมาภายหลังล่ะ?" ฮองเฮาแห่งแผ่นดินเสด็จสวรรคตโดยไม่มีสาเหตุ และยังเสด็จสวรรคตที่วังหลังซึ่งมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ถึงตอนนั้น เมื่อตระกูลหลี่เอาเรื่องเอาราวขึ้นมา ก็จะเป็นปัญหาใหญ่ให้กับเสด็จพ่อเสด็จแม่"
เฉี่ยนอินได้ฟังแล้วก็คอตก นางอิงกายไปกับผนัง ถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนแรง "เฮ่อ ยุ่งยากจริง"
หยุนชางอดหัวเราะไม่ได้ นางส่ายหน้า "ช่วงนี้ที่ข้าบอกให้เจ้าพยายามนำข่าวคราวเกี่ยวกับตัวข้าไปเปิดเผยให้ฮองเฮาทรงทราบ เรื่องเป็นอย่างไรบ้าง?"
เฉี่ยนอินได้ยินเช่นนี้อารมณ์ค่อยดีขึ้นมาหน่อย "ช่วงนี้ฮองเฮาทรงเริ่มยอมฟังสิ่งที่หม่อมฉันกราบทูลแล้วเพคะ วันก่อนหม่อมฉันไปเข้าเฝ้า กราบทูลว่าองค์หญิงทรงนำตัวคนของหมิ่นไท่เฟยทั้งสองส่งไปให้จิ้งอ๋องสอบสวน และยังให้จิ้งอ๋องสอบสวนไปถึงเรื่องราวต่างๆในอดีตที่เคยเกิดขึ้นในวังหลวง เมื่อกราบทูลเช่นนี้ออกไป หม่อมฉันก็สังเกตเห็นว่าสายพระเนตรของฮองเฮาดูแปลกไป ดูคล้ายกับว่าอยากจะฆ่าใครสักคน เมื่อฮองเฮาได้ฟังเรื่องที่หมิงไท่เฟยเป็นผู้ปองร้ายหมิ่นกุ้ยเฟยจากหม่อมฉันแล้ว พระนางทรงกำพระหัตถ์แน่น จากนั้นก็ทรงถามหม่อมฉันว่ายังมีเรื่องอื่นอีกหรือไม่ หม่อมฉันจึงกราบทูลว่าไม่มีแล้ว หรืออาจจะมี แต่ว่าองค์หญิงยังไม่ได้เปิดเผยเพคะ"
หยุนชางชักเริ่มสนใจ "นางก็คงอยากจะฆ่าใครสักคนจริงๆนั่นแหละ ในเมื่อนางเคยก่อเรื่องไม่ดีเอาไว้ในอดีต ว่าแต่ช่วงนี้น้องสาวของนางยังอยู่ในวังหรือไม่ล่ะ? ฝูเหม่ยเหริน ส่วนเกินของนางนั่นน่ะ"
เนื่องจากถูกมหาเสนาบดีหลี่บีบบังคับ หลี่ฝูยีจึงต้องเข้าวังมา น่ากลัวว่าจะกลายมาเป็นเข็มคอยทิ่มแทงใจหยวนเจินฮองเฮา มาวันนี้ หลี่ฝูยีหามีหมิงไท่เฟยคอยหนุนหลังแล้ว จำต้องมาพึ่งบารมีฮองเฮา แต่ฮองเฮานั้นหาได้ไว้ใจนางไม่ หนทางชีวิตของนางดูท่าจะไม่สวยงามเท่าใดนัก ตระกูลหลี่รู้แต่เพียงว่า ในวังจะต้องมีลูกหลานตระกูลหลี่ได้เข้าไปยืนยึดครองอำนาจอย่างมั่นคง ในอนาคตพวกนางจะส่งเสริมกันและกันเพื่อหนุนนำความเจริญมาสู่วงศ์ตระกูล แต่กลับไม่รู้เลยว่า ในสถานที่อย่างเช่นวังหลังนี้ สามารถเปลี่ยนแปลงคนคนหนึ่งได้อย่างสิ้นเชิง ทำให้ด้านมืดของคนเรานั้นปรากฏออกมาได้อย่างง่ายดาย
ในเมื่อบรรดาสตรีชั้นสูงในวังต่างพากันไปเข้าเฝ้าฮองเฮา และฮองเฮาก็ทรงยอมให้เข้าเฝ้าโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นก็แสดงว่า ที่ประทับฮองเฮานั้นเริ่มมีการคลายมาตรการลงบ้างแล้ว ในฐานะที่เป็นพระธิดาในนาม เห็นทีว่าหยุนชางจะต้องไปเข้าเฝ้าฮองเฮาบ้างแล้วล่ะ
"เสด็จแม่ดูซูบผอมลงไปนะเพคะ พวกนางกำนัลดูแลท่านไม่ดีหรือ?" หยุนชางมองไปยังสตรีผู้สูงศักดิ์ พระนางยังคงทรงพระสิริโฉมงดงามและดูสูงส่ง ทว่าสายพระเนตรในเวลานี้กลับดูเหมือนบ่อน้ำรกร้างที่ปราศจากคลื่น
หยวนเจินฮองเฮาแย้มพระสรวลเล็กน้อย "มิใช่หรอก เพียงแต่ช่วงนี้อากาศอุ่นขึ้นก็เลยรู้สึกอบอ้าว ทำให้ไม่ค่อยอยากกินอะไรเท่าไร ก็เลยผอมลง รอให้ฤดูร้อนผ่านไปก็คงจะดีขึ้นเอง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง