อย่างไรก็ตาม วังชีอู๋ค่อย ๆ มีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้างแล้ว สนมนางในวังหลังทั้งหลาย ผู้ที่ฮองเฮาโปรดปรานที่สุดคือหย่าผิน ทุกวันหย่าผินจะต้องมาที่วังชีอู๋เสมอ เสมือนกับเป็นน้องสาวของฮองเฮา ฝูเหม่ยเหรินที่มิได้มาวังชีอู๋นานแล้ว ทำให้หลายคนต่างคาดเดาไปต่างๆนานา
ช่วงเดือนสี่ในปีนี้มวลบุปผาชูช่อบานสะพรั่ง เทศกาลชมบุปผชาติในช่วงฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว.
งานชมบุปผชาติถึงแม้จะเพียงแค่เทศกาลที่จัดขึ้น หากแต่เป็นการแข่งขันการความความงามของดอกไม้ แต่ละเมืองจะเลือกดอกไม้ที่สวยที่สุดมีค่ามากที่สุด และส่งตัวแทนสาวงามมานำเสนอ หลังจากการคัดเลือกรอบแรกและตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ในวันงานชมบุปผชาตินั้นพระราชาจะเป็นผู้เลือก จากการคัดเลือกรอบแรกจนถึงวันงานชมบุปผชาตินั้นกินเวลาไปประมาณแรมเดือนเลยทีเดียว
เนื่องจากงานแข่งขันนี้ ทุกๆวันในพระราชวังล้วนแต่มีเรื่องสนุกเกิดขึ้นมากมาย
"ดูเหมือนว่าปีนี้เมืองหลวงจะเลือกเวินหยูยวี้มานำเสนอดอกไม้ แต่ก็มิรู้ว่าเวินหยุนชิทุ่มเทไปมากเท่าไหร่ ที่สามารถปกปิดเรื่องที่เกิดขึ้นต่อพระชายาซื่อจื่อได้ ไม่รู้ว่าเสียหายไปเท่าไหร่ ที่สามารถทำให้เวินหยูยวี้มีบทบาทที่สำคัญเช่นนี้"จิ้งอ๋องมองดูความวุ่นวายของฝูงชนที่นอกรถม้า ด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
หยุนชางพยักหน้า "เป็นอย่างที่หม่อมฉันคิด นางต้องการที่จะเข้าวัง"
จิ้งอ๋องจ้องมองไปยังใบหน้าที่เฉยเมยของหยุนชาง "ถ้าเจ้าไม่ต้องการให้นางเข้าไปในวัง เจ้าสามารถเปิดเผยเรื่องราวในวันนั้นได้ แต่เกรงว่าตระกูลเหวินจะล้มสลายลงภายในวันนั้น แต่เจ้าก็ไม่ได้ทำ"
หยุนชางยิ้มเล็กน้อย"ทำไมหม่อมฉันจะต้องทำอย่างนั้นด้วย หญิงที่ร้ายกาจอย่างเวินหยูยวี้ เข้าไปในวังหลัง มีแต่จะสร้างสีสันให้วังหลังเสียด้วย"
จิ้งอ๋องอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา "ชางเอ๋อร์. เปิ่นหวางขอเตือนเจ้าสักเรื่อง จักรพรรดิคือพ่อของเจ้า และแม่ของเจ้าก็ยังเป็นสนมในวังหลัง ทำไมเจ้าถึงชอบหาเรื่องอุ่นเตียงให้เสด็จพ่อของเจ้านักเล่า "
หยุนชางเงียบลง อันที่จริงจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่เสด็จแม่พูดจะเป็นจริงอย่างที่นางกล่าวออกมาหรือไม่ ว่านางไม่รู้สึกอะไรกับเสด็จพ่อแล้ว จากสิ่งที่หยุนชางสังเกตมาครึ่งปีนี้. เสด็จพ่อมิได้เป็นบุคคลที่คู่ควรกับเสด็จแม่ "
หยุนชางนึกพลางถอนหายใจ "บนโลกใบนี้ ผู้หญิงส่วนใหญ่ต่างอยากจะมีเพียงคู่ชีวิตไปจนแก่เฒ่ารวมทั้งเสด็จแม่ แต่ทว่าเสด็จพ่อให้นางไม่ได้เท่านั้น หม่อมฉันมิรู้ว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป แต่หม่อมฉันมั่นใจ สิบปีก่อนหน้านี้ เสด็จพ่อมิได้เป็นที่รักต่อเสด็จแม่อีกต่อไป ที่หม่อมฉันต้องทำแบบนี้ ก็เพราะหม่อมฉันต้องการให้คนที่อยู่เคียงข้างมีชีวิตที่สงบสุข อะไรจะเกิดหลังจากนี้หม่อมฉันก็จะไม่กังวลอีกต่อไป ตั้งแต่แรกหม่อมฉันก็รู้สึกได้ว่าผู้หญิงอย่างเสด็จแม่นั้นไม่เหมาะที่จะมาอยู่ในวังหลัง "
เมื่อจิ้งอ๋องได้ยินอย่างนั้นหัวใจเต้นแรง พลางเหลือบมองไปยังด้านข้างของหยุนชางนั้น อยากจะถามนางว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่นางกล่าวถึงนั้นมีนางอยู่ในนั้นหรือไม่ หากนางคาดหวังให้เป็นอย่างนั้นแล้ว หากเขาทำให้ไม่ได้เล่า นางก็จะจากเขาไปโดยไม่ลังเลเลยใช่หรือไม่ ?
นั้นเป็นคำพูดที่ติดอยู่ที่ปาก ทว่าเขากลับกลืนคำพูดนั้นลงไป. เขาไม่กล้ารับปากกับนาง เหมือนอย่างที่นางเอ่ยว่า ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
"ถึงแล้ว" จิ้งอ๋องเพียงเอ่ยขึ้นเบา ๆ พลางเปิดม่านของรถม้าและเดินลงไป. พร้อมกับยื่นมือมาข้างหน้าของหยุนชาง หยุนชางชางจับมือจิ้งอ๋อง พลางก้าวเท้าเดินลงมาจากรถม้า
" จิ้งอ๋อง หยากู๋ของท่าน กระหม่อมจัดเตรียมให้เรียบร้อยแล้วพะยะค่ะ เชิญท่านอ๋องด้านบนเลยพะยะค่ะ." ผู้คนที่ยืนอยู่หน้าร้านมองมาด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น เหลือบมองจิ้งอ๋องแล้ว โค้งตัวย่อกายทักทายด้วยมารายาท
จิ้งอ๋องพยักหน้าลงเล็กน้อย พร้อมกับประคองหยุนชางขึ้นข้างบน หย่ากู๋อยู่บนชั้นสองในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยม เมื่อเปิดหน้าต่าง ก็จะเห็นอ่าวเยว่หยาที่มีชื่อเสียงในพระราชวัง ต้นหลิวใบเขียวที่ริมแม่น้ำ สายลมอ่อนที่พัดผ่านกลิ่นหอมของใบหลิว
จิ้งอ๋องเอ่ยให้หยุนชางสั่งอาหารเพิ่ม หวังซุ่นถือถ้วยชาของจิ้งอ๋องเพื่อจะเดินลงไปต้มชา ทว่าเมื่อเขานำชาขึ้นไปด้านบน. หวางซุ่นลดเสียงลงพร้อมรายงานว่า " ท่านอ๋อง เมื่อครู่หม่อมฉันเห็นอ๋องเจ็ดเซี่ยโหจิ้งแห่งแคว้นเซี่ย. เสมือนว่าเคยพบปะที่งานเลี้ยงเลยพะยะค่ะ ผู้คนรอบกายล้วนแต่เป็นคนที่หม่อมฉันรู้สึกคุ้นเคย อีกทั้งยังมีผู้ติดตาม ฮวากั๋วกง"
จิ้งอ๋องขมวดคิ้วลงเล็กน้อย "โอ้ "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง