ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 193

ทุกคนน้อมกายกายทำความเคารพ

เมื่อหัวจิ้งได้ยินดังนั้น ความเกลียดชังผ่านวาบในดวงตาชั่วครู่ ถึงกับขบฟันด้วยความโกธรแค้นพร้อมทั้งหันมาหาจักรพรรดิหนิงแล้วย่อกายทำความเคารพ "ขอบพระทัยเสด็จพ่อ ลูกจะตั้งใจเรียนมิทำให้เสด็จพ่อผิดหวัง "

หยุนชางพลางลอบสำรวจหัวจิ้งดูแล้วรู้สึกโล่งใจ นึกว่าหัวจิ้งได้รับบาดเจ็บมาหรือไม่ ถึงเรียนรู้ที่จะว่าทำตัวว่านอนสอนง่ายขึ้นมาบ้างแล้ว แต่เดิมแค่เห็นหน้าก็พร้อมที่จะฆ่าฟัน

จักรพรรดิหนิงขึ้นไปนั่งบนสูงสุดพร้อมพยักหน้าตอบรับเล็กน้อย "พวกเจ้าลุกขึ้นเถอะ"ถึงได้สามารถลอบสังเกตหัวจิ้งอย่างละเอียด เมื่อเห็นลักษณะท่าทางที่นิ่งเฉยของนางแล้ว ก็ได้พูดต่อว่า "เจ้าสูบผอมลงไปเยอะเชียว. ซ้ายขวาของวังชีอู๋ล้วนมีห้องครัวอยู่ เมื่อเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว ให้บ่าวไพร่ทำอะไรที่เจ้าชอบให้ทานเสียเถิด จะได้อยู่เป็นเพื่อนกับฮองเฮา"

ผู้พูดมิได้ตั้งใจสื่อ แต่ผู้ฟังกลับจริงจังกับคำพูดนั้น เสียงพูดคุยชะงักไปสักพัก ฮองเฮากับหัวจิ้งมีสีหน้าตกตะลึงเพียงเล็กน้อย ฮองเฮาสามารถปรับเปลี่ยนสีหน้ากลับมานิ่งเฉยเป็นอย่างเดิมได้ แต่ทว่าหัวจิ้งนั้นสายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจที่พร้อมจะแผดเผาจักรพรรดิหนิงได้ทุกเมื่อ เนื่องจากจักรพรรดิหนิงมิได้มีความโปรดปรานและห่วงใยให้อีกแล้วทำให้นางมิอาจโต้แย้งอะไรได้

ในใจแอบเย้ยหยันเพียงเล็กน้อยพร้อมทั้งยิ้มอย่างเย็น ๆ ออกมา มิเพียงแต่จะให้หัวจิ้งแต่งออกไปเพียงเท่านั้น แต่ทว่ายังสื่อให้หัวจิ้ง ดูแลฮองเฮาให้นาน ๆ เพื่อที่ตบแต่งออกไปแล้ว จะมิได้มีโอกาสได้เจอหน้ากันอีก

เมื่อพูดถึงตรงนี้แล้ว นั้นทำให้เรื่องนี้กลับหน้าเศร้าลงไปอีก เมื่อเหม่อมองไปยังหยุนชาง ดูเหมือนนางจะมิได้เกี่ยวข้องอันใดกับเรื่องนี้ แต่ทว่านั้นทำให้ความเกลียดชังของหัวจิ้ง เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จะมิให้นางมิโกธรเคืองได้อันใดทั้งหมดเป็นเพราะนาง หนิงหยุนชาง!อย่าคิดว่าหากข้าออกไปจากที่นี่ได้ เจ้าจะสามารถอยู่ได้อย่างสบายใจ ก่อนข้าจะได้แต่งออกไป ข้าจะใช้โอกาสนั้นขอแก้แค้นเจ้าเสียก่อน

หยุนชางรู้สึกได้ถึงรังสีความเกลียดชังจากหัวจิ้ง ทว่าสีหน้ายังเป็นปกติ พลางเอ่ยกับจักรพรรดิหนิงว่า "เสด็จพ่อช่างลำเอียงยิ่งนัก วันนั้นชางเอ๋อร์ไปที่ตำหนักฉินเจิ้งเห็นขนมกุ้ยฮวาของเส็จพ่อ ข้าหิวมาก ๆ เสด็จพ่อยังมิให้ข้ากิน"

จักรพรรดิหนิงได้ยินดังนั้น จึงเหลือบมองไปยังหยุนชางที่นั่งอยู่ สายตาพลันเจือจางไปด้วยความอบอุ่นเล็กน้อย "เจ้าสมกับเป็นลูกสาวเจิ้นจริง ๆ เป้าหมายของเจ้าคืออะไรคิดว่าเจิ้นมิรู้หรือ ทุกสองถึงสามวันจิ้งอ๋องจะส่งขนมกุ้ยฮวาที่หอยวี่หมานมาให้เจ้าที่วัง คิดว่าเจิ้นมิรู้หรือ เจ้าแค่เห็นเป็นขนมกุ้ยฮวาที่หย่าผินทำแค่นั้น เจ้าเลยนำเรื่องนี้มาหยอกล้อเจิ้น เจ้าชักจะเหิมเกริมขึ้นทุกวันแล้ว"

หยุนชางหัวเราะอย่างคึกคัก หันกลับไปหาหยวนเจินฮองเฮาพร้อมทั้งควงแขน "เสด็จแม่ ท่านดูสิ เสด็จพ่อดูแลหย่าผินเหนียงเหนียงดีเช่นนี้ ชางเอ๋อร์รู้สึกอิจฉายิ่งนัก"

สีหน้าของหย่าผินมิสู้ดี แต่ทว่ามิอาจเข้าไปสอดระหว่างหยุนชางกับฮองเฮาได้ จึงได้แต่ก้มหัวมิเอ่ยกล่าวอันใด

ฮองเฮาขบริมฝีปากแน่นพลางหัวเราะออกมาด้วยท่าทีสง่างาม "โตกันจนป่านนี้แล้ว ต่อหน้าจักรพรรดิเจ้ายังทำตัวเป็นเด็กอยู่ได้ เจ้ามิกลัวผู้อื่นพากันหัวเราเยาะเจ้าหรอกหรือ หากเจ้าชอบขนมกุ้ยฮวาถึงเพียงนั้น เปิ่นกงจะให้ในครัวทำแล้วส่งไปให้เจ้า หากแต่เจ้าชอบที่หย่าผินทำ บอกกล่าวกับนางเถิด นางมิใช่คนที่ขี้เหนียว"

อย่าผินร้อนรนตอบ "เพคะ"พร้อมด้วมอารมณ์ที่หวาดระแวง

หยุนชางเงียบลงพร้อมทั้งหัวเราะออกมา "ยังเป็นเสด็จแม่ที่ห่วงใยข้า"

จักรพรรดิหนิงได้ยินพลางส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ "เจ้าช่างรู้จักหาที่พึ่งให้ตัวเองเสียจริง ใช่แล้ว เมื่อวานเจิ้นได้รับจดหมายจากท่านเจ้าอาวาสอู๋น่า ถามถึงร่างกายของเจ้าว่าเป็นเช่นไรบ้าง อีกทั้งยังดูฤกษ์งานแต่งให้เจ้าแล้วด้วย และยังฝากเจิ้นแสดงความยินดีกับเจ้า"

หยุนชางได้ยินดังนั้น พลันใบหน้ามีรอยแดงก่ำเล็กน้อยพร้อมก้มหน้าพูดตอบว่า "เจ้าอาวาสอู๋น่าให้ยามารักษาชางเอ๋อร์ตั้งมากมาย ชางเอ๋อร์ดื่มยานั้นทุกวัน ถึงแม้ร่างกายจะยังอ่อนแอยิ่งนัก แต่ทว่าก็มิได้กลับไปเจ็บป่วยเหมือนเช่นเคยอีก ชางเอ๋อร์มิได้กลับไปวิหารแคว้นหนิงนานแล้ว ท่านเจ้าอาวาสมีบุญคุณต่อชางเอ๋อร์มาก ชางเอ๋อร์มิอาจลืมบุญคุณนี้ได้ เมื่องานชมบุปผชาติสิ้นสุดลง ชางเอ๋อร์จะกลับไปเยี่ยมเยียนวิหารแคว้นหนิงชั่วครู่ และจะแวะเยี่ยมเยียนเสด็จแม่ที่วังเฟิ่งไหลสักวัน เสด็จแม่ใกล้จะคลอดแล้ว ชางเอ๋อร์อยากจะเป็นคนแรกที่ได้เห็นหน้าน้องสาวและน้องชาย"

จักรพรรดิหนิงได้ยิน พลันนึกถึงจิ่นเฟยขึ้นมาได้สีหน้ามีความกังวลเล็กน้อย "บุญคุณของเจ้าอาวาสอู๋น่าเท่าภูเขา เจ้าคควรไปเยี่ยมท่านบ่อย ๆ เจ้าเป็นคนรู้จักกตัญญูรู้คุณ พ่อภูมิใจในตัวเจ้ามาก แต่เจ้ามิจำเป็นจะต้องเห็นหน้าน้องชายน้องสาวเป็นคนแรก รอจนกว่าคณะทูตกลับไป เจิ้นจะรีบไปเฝ้าวังด้วยเหมือนกัน ลูกของเจิ้นย่อมเป็นเจิ้นที่ได้เห็นหน้าเป็นคนแรก "

หยุนชางได้ยินคำพูดเสมือนเด็กของจักรพรรดิหนิงดังนั้น อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา สายตาที่มองดูผู้คนอยู่นั้น มุมปากของฮองเฮากดลึกลงมาพร้อมรอยยิ้มที่ลุ่มลึก ราวกับมิได้รู้สึกโกธรอันใด หัวจิ้งที่ก้มหัวอยู่นั้น กำปั้นในมือนั้นกดอย่างหนักแน่น เมื่อมองไปยังที่นั่งของเหล่านางสนมทั้งหลายนั้น ต่างอยู่ในท่าทางทีแตกต่างกันไป

หยุนชางกล่าวลาฮองเฮาและจักรพรรดิหนิงเรียบร้อยแล้ว พลางพาเฉี่ยนอินกลับตำหนักชิงซิน เมื่อเฉี่ยนอินถึงตำหนักแล้วนั้นรีบร้อนเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวังชีอู๋ให้ฉินยีฟังด้วยอารมณ์สนุกสนาน "พี่สาว ท่านไม่เห็นตอนที่ฮองเฮาและหัวจิ้งแสดงสีหน้านั้น ยอดเยี่ยมมาก ทว่าหัวจิ้งยังสงบเสงี่ยมลง ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ดูไม่ฉลาดเอาเสียเลย"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง