จากเมืองหลวงไปยังถึงเขากิเลนหากเดินทางโดยรถม้าต้องใช้เวลาเดินทางร่วมครึ่งเดือน แต่หยุนชางมิอาจรอนานเช่นนั้นได้ เหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือน ก็จะถึงวันอภิเษกของนางกับจิ้งอ๋องแล้ว หากถึงเวลานั้นแล้ว นางและจิ้งอ๋องมิอาจปรากฏตัวในงาน ก็จะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน
หยุนชางตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไม่นั่งรถม้า นางควบม้าเหงื่อโลหิตที่จิ้งอ๋องหามาให้ มุ่งหน้าไปเขากิเลนทั้งวันทั้งคืนโดยไม่หยุดพัก ใช้เวลาเพียง 5 วันก็ไปถึงหมู่บ้านเล็กๆที่ตีนเขากิเลนแล้ว
หมู่บ้านเล็กๆนี้เป็นเพียงหมู่บ้านที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่เพียงไม่กี่ร้อยคน มีชื่อว่าหมู่บ้านเถาซี ชาวบ้านในหมู่บ้านค่อนข้างตรงไปตรงมา เมื่อเห็นหยุนชางและจิ้งอ๋อง สายตาก็มีท่าทีหวาดระแวง
"หมู่บ้านเรามีคนแปลกหน้าเข้ามาอีกแล้ว นี่เป็นรายที่ 12 ของเดือนนี้แล้วนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันล่ะนี่?" หยุนชางได้ยินชาวบ้านเพ่งเล็งมาที่ตนและจิ้งอ๋อง พร้อมซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา หยุนชางและจิ้งอ๋องที่ล้วนเป็นจอมยุทธ ก็ตั้งใจฟังสิ่งที่ชาวบ้านกำลังพูดกัน
แต่หยุนชางก็อดสงสัยไม่ได้ หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ เมื่อมีคนต่างถิ่นเข้ามาก็กลายเป็นเรื่องแปลกประหลาดของคนที่นี่ แล้วกองกำลังทหาร 1 แสนนาย จะมาตั้งถื่นฐานที่เขากิเลนเป็นเวลานานได้อย่างไร จะไม่ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นหรอกหรือนี่? อีกอย่าง ดูจากสถานการณ์แล้ว เกรงว่าจะมีคนล่วงรู้ว่าพวกทหารมากันแล้วก่อนที่พวกทหารจะมาถึงเขากิเลนเสียอีก หนึ่งในนั้นก็คือเซี่ยโหจิ้งและพรรคพวก
หยุนชางเงยหน้าสบตาจิ้งอ๋อง สายตาของทั้งคู่ดูมีความเคร่งขรึมเช่นเดียวกัน หยุนชางนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะเดินเข้าไปหาหญิงวัยกลางคน "ท่านป้าคะ ข้าและสามีเดินทางมาจากเมืองซีอีเพื่อมาพบญาติ พี่ชายของข้าบอกว่าเขาอาศัยอยู่บริเวณเขากิเลน แต่บริเวณเขากิเลน ข้าก็พบเพียงแค่หมู่บ้านแห่งนี้เท่านั้น ข้าจึงคิดว่าพี่ชายของข้าคงไม่ได้อยู่ที่นี่ ขอถามท่านป้าหน่อยว่า บริเวณเขากิเลนนี้ยังมีเมืองอื่นที่ใหญ่กว่าเมืองนี้อีกไหมคะ?"
หญิงวัยกลางคนนางนั้นเห็นว่าหยุนชางและจิ้งอ๋องรูปร่างหน้าตาผิวพรรณดีเกินกว่าชาวบ้านธรรมดาทั่วไป ในใจก็มองด้วยความเคารพยกย่อง แต่เมื่อพิจารณาว่าสองคนนี้ขี่ม้ามาก็รู้สึกแปลกๆ ผู้ใดกันที่ขี่ม้ามาพบญาติ? อีกอย่างก็เป็นผัวเมียที่ดูอายุน้อยเหลือเกิน แต่เมื่อได้ยินหยุนชางพูดว่ามาจากเมืองซีอี ก็เข้าใจสองคนนี้มากขึ้น เมืองซีอีเป็นเมืองที่อยู่ชายแดน ได้ยินว่าผู้คนที่นั่นห้าวหาญเก่งกล้า ทุกคนสามารถขี่ม้าและยิงธนูได้
"ที่ตีนเขากิเลนนี่ไม่มีเมืองอื่นอีกแล้วแม่หนู......" หญิงวัยกลางคนตอบ
หยุนชางขมวดคิ้วและกล่าวขอบคุณ นางหันมามองจิ้งอ๋อง จิ้งอ๋องแน่นิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดว่า "ในเมื่อพี่ใหญ่ไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกเราก็ออกไปจากที่นี่ก่อน แล้วค่อยส่งคนออกไปเลาะถามก็แล้วกัน"
หยุนชางพยักหน้า ดันตัวควบม้า ออกไปจากหมู่บ้านพร้อมกับจิ้งอ๋อง
"หากเป็นดังเช่นเสด็จตาเคยว่าไว้ คน 1 แสน หากไม่มีพื้นที่กว้างใหญ่ จะเลี้ยงดูไพร่พลได้อย่างไร?" หยุนชางขมวดคิ้ว นางคิดว่าในคำกล่าวนี้มีหลายจุดที่น่าสงสัย
หยุนชางทำสัญลักษณ์ลับขึ้นมาโดยปราศจากเสียง อึดใจเดียว เมื่อหยุนชางและจิ้งอ๋องเดินมาถึงมุมที่ลับตาผู้คนแล้ว ก็ปรากฏร่างชายชุดดำคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า "องค์หญิง"
หยุนชางพยักหน้า "หมู่บ้านเถาซีแห่งนี้ไม่ค่อยจะยอมรับคนต่างถิ่น หลายวันมานี้ท่านไปพักที่ไหนหรือ? มีคนพบเจอท่านหรือไม่? ท่านบอกว่าตอนนี้เซี่ยโหจิ้งใกล้จะมาถึงแล้ว ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?"
"ช่วงนี้หม่อมฉันพักอาศัยอยู่ในป่าทึบหลังหมู่บ้านเถาซีพ่ะย่ะค่ะ หมู่บ้านเถาซีแห่งนี้มีขนาดค่อนข้างเล็ก เมื่อมีคนต่างถิ่นแวะเวียนมาจึงกลายเป็นจุดสนใจ หม่อมฉันมิได้เข้าไปในเขตหมู่บ้าน หามีผู้ใดพบเห็นหม่อมฉันไม่พ่ะย่ะค่ะ ส่วนท่านอ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ยพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเถาซี ตอนที่เขามาถึง เขาป่วยหนักอยู่ที่ริมแม่น้ำ มีหญิงใบ้และหูหนวกนางหนึ่งช่วยเขาเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ"
"ฮะ? เป็นใบ้และหูหนวกงั้นหรือ?" หยุนชางขมวดคิ้ว มันจะบังเอิญขนาดนั้นเลยหรือนี่? แต่ว่าเซี่ยโหจิ้งจะทำเช่นนั้นไปเพื่ออะไรกันล่ะ? "ช่วงนี้ เซี่ยโหจิ้งกำลังทำสิ่งใดอยู่?"
ชายชุดดำรีบรายงาน "ตอนกลางวัน หญิงใบ้และหูหนวกนางนั้นจะอยู่บ้าน เขาก็แสร้งทำเป็นป่วย ตกดึกก็อาศัยช่วงที่หญิงใบ้และหูหนวกกำลังหลับ แอบไปพบผู้นำหมู่บ้านเถาซี บางครั้งก็ไปที่เขากิเลน แต่ที่เขากิเลนนั้นมีสภาพอากาศร้อนชื้นอันตรายมาก หม่อมฉันไม่กล้าเข้าไปพ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางพยักหน้า "แล้วยังรู้อะไรมาอีกหรือไม่?"
"หม่อมฉันค้นพบว่า ที่เขากิเลนมีแร่เหล็กพ่ะย่ะค่ะ......" ชายชุดดำนิ่งเงียบไปสักพักแล้วจึงพูดต่อ "อีกเรื่องหนึ่ง หม่อมฉันรู้มาว่า เมื่อ 10 ปีก่อน ที่นี่ยังไม่ได้เป็นหมู่บ้านเถาซี มีคนกลุ่มหนึ่งย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากที่นี่เมื่อ 8 ปีก่อน ผู้ดูแลท้องถิ่นได้ลงบันทึกว่าผู้อพยพทุกคนอพยพมาเพราะต้องการหนีจากความทุกข์ยาก เมื่อ 8 ปีที่แล้วเมืองหยุนหลางได้เกิดน้ำหลาก ทำลายที่อยู่อาศัย หลายครัวเรือนจึงต้องอพยพ โดยมีหมู่บ้านเถาซีเป็นจุดหมายของพวกเขา จึงกลายมาเป็นหมู่บ้านที่มีผู้คนปักหลักพักอาศัยดังเช่นทุกวันนี้พ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางขมวดคิ้ว เรื่องราวดูจะซับซ้อนมากขึ้นไปทุกที
แต่เมื่อจิ้งอ๋องได้ยินเรื่องแร่เหล็ก นัยน์ตาก็ครุ่นคิดไปมา สายตาของเขาจดจ้องไปที่เขากิเลนที่สูงตระหง่าน
หยุนชางสั่งให้ชายชุดดำหลบไปก่อน จิ้งอ๋องจึงหันมาพูดกับนาง "ข้านึกว่าผู้ติดตามของเจ้าจะมีแต่พวกผู้หญิงเสียอีก"
หยุนชางยิ้ม "หม่อมฉันชอบเรียกใช้ผู้หญิงเพราะว่าหม่อมฉันเป็นผู้หญิง แล้วอีกอย่าง บางครั้งผู้หญิงสามารถลดความหวาดระแวงของผู้อื่นได้ แต่ก็มีบางเรื่องที่ให้ผู้ชายไปจัดการจะดีกว่าเพคะ จะให้ผู้หญิงที่อรชรบอบบางไปตกระกําลําบาก หม่อมฉันเองคงยอมให้เป็นเช่นนั้นมิได้เพคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง