หัวหน้าเจิ้งเพิ่งจะเดินออกไป ฉินยีก็ก้าวเข้ามา สีหน้าของเธอแอบแฝงรอยยิ้มไว้ "เป็นยังไงบ้างคะ องค์หญิงเพคะ บ่าวทำได้ดีไหมเพคะ ฮ่าๆ คราวนี้ดูสิว่าใครมันจะกล้านินทาพูดจาไร้สาระอีก"
หยุนชางยิ้มและมองไปที่ฉินยีพร้อมพูด "ข้าให้เจ้าแสร้งทำเป็นหลุดให้ขันทีรอบตัวเสด็จพ่อรับทราบมิใช่หรือ? เหตุใดเจ้าจึงไปถึงหูหัวหน้าเจิ้งล่ะ?"
ฉินยีเดินไปนั่งที่ขอบเตียงของหยุนชางและกระซิบว่า "เดิมทีบ่าวเอาไปบอกกับเสี่ยวลู่จื่อ แต่หัวหน้าเจิ้งบังเอิญได้ยินเข้า หัวหน้าเจิ้งกล่าวว่าฮ่องเต้มีของจะมอบให้องค์หญิงจึงถือโอกาสนี้มาเยี่ยมดูเพคะ ใครจะไปรู้ว่าบ่าวรับใช้พวกนั้นกำลังพูดนินทาองค์หญิงอยู่พอดี ทำตัวเองกันทั้งนั้นเลยค่ะ"
"ข้าคาดไว้อยู่แล้ว ข้าเพิ่งกลับเข้าวังมา พวกนั้นเห็นข้าแล้วแน่นอนว่าต้องพูดถึงอย่างลับหลังอยู่แล้ว อีกเรื่องหนึ่ง พวกเราเพิ่งจะกลับเข้าพระราชวัง คงมีดวงตาหลายคู่ที่จ้องมองเราอยู่ สองสามวันนี้เจ้าอย่าเพิ่งไปหาเสด็จแม่นะ รอผ่านไปสักพักค่อยว่ากัน" หยุนชางนึกถึงหญิงสาวที่สงบนิ่งราวกับน้ำนิ่ง ในใจเธอก็เริ่มมีแผนขึ้นมา หญิงสาวหากได้ก้าวเข้ามาในวังแห่งนี้แล้ว หากมิได้ความโปรดปรานของฮ่องเต้ ก็คงอยู่อย่างอนาถไปตลอดชีวิต ชาตินี้เธอได้มีโอกาสเกิดใหม่ และเธอก็มีอำนาจของตนแล้ว และแน่นอนว่าเธอต้องช่วยแย่งชิงความสุขที่ควรเป็นของเสด็จแม่ของตนนั้นมาให้ได้
" องค์หญิง องค์หญิงเพคะ ยามาแล้วค่ะ " เสียงของม่านที่เปิดออกดังขึ้นพร้อมเสียงของฉินเมิ่ง
"บ่าวได้สั่งให้คนเอาไปต้มแล้วเพคะ อีกไม่นานก็ต้องเสร็จเรียบร้อย องค์หญิงลองดูว่าในตำหนักนี้ต้องเพิ่มสิ่งของอันใดบ้าง หากว่ามีองค์หญิงก็สั่งบ่าวได้เลยเพคะ"
หยุนชางเก็บรอยยิ้มกลับไป และเอนตัวลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง เธอไอออกมาสองครั้งและจึงพูดว่า " ก็ตามเดิมนั่นแหละ อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อสักครู่หัวหน้าเจิ้งเข้ามา ข้าไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น ท่านดุนางกำนัลที่อยู่ด้านนอกนั้นไป ฉินยีไปช่วยข้าหยิบของที่ข้านำกลับมาจากวิหารแคว้นหนิงแล้ว ข้าเองก็ไม่มีแรงที่จะออกไปดูด้วยตัวเอง เจ้าไปถามให้หน่อยว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น"
ฉินเมิ่งขมวดคิ้ว "เกิดเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ? ทราบเจ้าค่ะ บ่าวจะไปถามเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ" ขณะที่พูดเธอก็ออกจากห้องบรรทมไปอย่างเร่งรีบ
สายตาของฉินยีมองไปที่ฉินเมิ่ง เธอยิ้มมุมปากขึ้นมา "องค์หญิงเพคะ เมื่อสักครู่นี้บ่าวเดินรอบๆ ตำหนักนี้แล้ว และก็ได้พบเรื่องที่น่าสนใจเพคะ" ฉินยีกล่าวพร้อมดึงสายตากลับมา แล้วก้มลงพูดกับหยุนชาง
"หื้ม? " หยุนชางได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้มออกมา " พระราชวังนี้ช่างสนุกมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วสิ "
ทั้งสองคนก็คุยกันต่ออีกสักพัก ฉินเมิ่งเข้ามาพร้อมนำยาสทุนไพรร้อนๆเข้ามาด้วย เธอวางยาลงบนเก้าอี้ข้างเตียง " เมื่อสักครู่นี้บ่าวไปถามมาแล้วเจ้าคะ เหล่านางกำนัลกล่าวว่า มีนางกำนัลคนหนึ่งทำให้หัวหน้าเจิ้งโกรธเคือง เธอจึงถูกหัวหน้าเจิ้งลงโทษให้ตีห้าสิบทีเจ้าค่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใดเจ้าค่ะยาขององค์หญิงทำเสร็จเรียบร้อยแล้วเพคะ องค์หญิงรีบกินตอนที่กำลังร้อนๆ ดีกว่านะเพคะ"
เมื่อหยุนชางได้ยินเช่นนี้ เธอก็ยื่นมือออกไปลองแตะที่ชาม จากนั้นจึงกล่าวพร้อมขมวดคิ้ว "มันร้อนเกินไปหน่อย"
"ถ้าอย่างนั้นก็วางไว้ให้เย็นลงแล้วค่อยดื่มก็ได้เจ้าค่ะ" ฉินเมิ่งตอบกลับอย่างรวดเร็วพร้อมด้วยรอยยิ้ม
หยุนชางพยักหน้าและยื่นมือออกไปให้ฉินยีพร้อมกล่าวว่า "ห้องนี้อบอ้าวไปนิดหน่อย เจ้าพาข้าไปเดินเล่นข้างนอกหน่อย ให้ข้าได้หายใจคล่องแคล่วสักหน่อย วันนี้ข้านั่งเกวียนม้ามาเกือบทั้งวัน พอกลับมาก็นอน ช่างน่าเบื่อเหลือเกิน"
ฉินยีส่งยิ้ม แล้วเธอก็ไปหยิบเสื้อคลุมออกจากกล่องที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นจึงไปพยุงหยุนชางขึ้นมา
"อากาศเริ่มจะหนาวเย็นลงเรื่อย ๆ แล้วเพคะ แม้ว่าทิวทัศน์ภายนอกนั้นจะสวยงาม แต่องค์หญิงออกไปข้างนอกบ่อยๆ ก็ไม่ได้นะเพคะ หากเป็นหวัดขึ้นมา องค์หญิงจะทรมานเอานะเพคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง