หยุนชางได้ยินเช่นนี้ แสงประกายก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง นางหันไปและพูดเบา ๆ กับจักรพรรดิหนิงว่า " เสด็จพ่ออย่าได้พรากชีวิตคนผิดไปเพราะเรื่องแค่นี้เลยนะเพคะ"
เมื่อจักรพรรดิหนิงได้ยินหยุนชางพูดเช่นนี้ ความพิโรธของเขาก็ลดลงเล็กน้อย เขาคิดอยู่พักหนึ่ง "ใครเป็นคนจัดยานี้ให้เจ้า? ไปตรวจสอบที่สำนักหมอหลวงเดี๋ยวนี้"
นางกำนัลผู้นั้นก็รีบกราบพร้อมกล่าวว่า " ท่านขันทีชางของสำนักหมอหลวงเป็นคนจัดยาให้หม่อมฉันเพคะ ขอบพระคุณที่องค์หญิงเมตตาเจ้าค่ะ "
เมื่อได้ยินว่า ชิงซินกำลังจะหลุดพ้นจากผู้ต้องสงสัย เยียนเอ๋อร์ซึ่งเป็นผู้จัดเบาะให้องค์หญิงก็รีบกล่าวพร้อมร้องไห้ว่า " หม่อมฉันมิได้ทำเพคะ หม่อมฉันไม่ทราบว่ายานั้นมาจากที่ใด หากว่าวันนี้พี่ฉินยีไม่เรียกให้หม่อมฉันไปจัดเบาะรองนั่งให้องค์หญิง หม่อมฉันคงไม่มีโอกาสได้เข้าไปในตำหนักรรทมเลยเพค่ะ ......ขอฝ่าบาททรงตรวจสอบอย่างชัดเจนนะเพคะ ขอองค์หญิงทรงตรวจสอบอย่างชัดเจนนะเพคะ"
"เจ้ารับผิดชอบทำความสะอาดตำหนักบรรทมขององค์หญิง แม้ว่าเจ้าจะวางยาไม่สำเร็จ แต่เจ้าก็คงจะหาโอกาสได้อย่างแน่นอน" ขันทีชุยกล่าวอย่างเสียงเข้มอยู่ข้างๆ "อีกอย่างยานี้ได้ส่งมอบให้กับหมอหลวงแล้ว มีพิษหรือไม่นั้น เดี๋ยวก็ทราบกัน"
"หม่อมฉันมิได้ทำจริงๆ เพค่ะ หม่อมฉันมิทราบจริงๆ เพคะว่ายานั้นมาอยู่ใต้หมอนของบ่าวได้เช่นไร" เยียนเอ๋อร์ชะงักไปชั่วคราว แล้วก็มีความคับแค้นใจปรากฏขึ้นในสายตาของนาง "มันต้องเป็นจิ้งหรงแน่ๆ เลยเพคะ นางอาศัยอยู่ห้องเดียวกับหม่อมฉัน และเราสองคนไม่ค่อยถูกกัน ต้องเป็นนางที่เอายานี้มาวางใต้หมอนของหม่อมฉันแน่ๆ เพคะ"
ฉินเมิ่งขมวดคิ้วและถวายบังคมหยุนชางและจักรพรรดิหนิง "แต่เดิมจิ้งหรงเป็นนางกำนัลตัวน้อยในห้องครัว แต่วันนี้นางป่วยจึงได้พักผ่อนอยู่ในห้องตลอดเวลา นางมิได้ออกไปด้านนอกเลยเพค่ะ แล้วนางจะมีโอกาสวางยาองค์หญิงได้เยี่ยงไร?"
เมื่อเยียนเอ๋อร์ได้ยินเช่นนี้ นางก็ตัวอ่อนและทรุดลงกับพื้น " หม่อมฉันถูกใส่ร้ายเพคะ ถูกใส่ร้ายอย่างแน่นอนเพคะ ... "
ในขณะนี้ มีทหารหนึ่งนายรีบเดินเข้ามา " ทูลฝ่าบาทพะยะค่ะ หลังจากการตรวจสอบของหมอหลวงแล้ว ถุงยาของชิงซินนั้นเป็นผงชะเอมจริงๆพะยะค่ะ ส่วนถุงยาของเยียนเอ๋อร์นั้นเป็นยาพิษที่อันตรายถึงแก่ชีวิตได้พะยะค่ะ......"
" ลากมันออกไป ประหารชีวิตเสีย" จักรพรรดิหนิงขมวดคิ้วและกล่าวอย่างดุดัน
ทันทีที่พูดจบ ก็มีทหารสองนายเดินเข้ามา ลากเยียนเอ๋อร์ที่ยังคงดิ้นรนอยู่นั้นออกไป ผ่านไปอยู่นาน ก็ยังได้ยินเสียงที่น่าสงสารของเยียนเอ๋อร์ หยุนชางหลับตาลงเบาๆ และพึมพำว่า "อมิตาพุทธ"
"เสด็จพ่อเพคะ ชางเอ๋อร์เหนื่อยนิดหน่อย ขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อนนะเพคะ" หยุนชางถอนหายใจ แล้วยืนขึ้นถวายบังคมจักรพรรดิหนิง แล้วฉินยีก็พยุงนางเข้าไปด้านในตำหนัก
เสียงของผู้คนที่อยู่ด้านนอกนั้นค่อยๆ เงียบลงเรื่อยๆ และเสียงค่อยๆ หายไป ฉินยีเดินไปตรงประตู แล้วเปิดม่านมองดู "ไปกันหมดแล้ว"
หยุนชางยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างเยาะเย้ย "ช่างวิเศษจริงๆ ข้าวางยาพิษให้ตัวเอง แต่ไม่คาดคิดว่าจะจับผู้ลอบสังหารได้จริงๆ"
ฉินยีขมวดคิ้วและคิดอยู่ครู่หนึ่ง " ไม่ทราบว่าใครเป็นคนส่งเยียนเอ๋อร์มาอยู่รอบๆ ตัวองค์หญิงกันแน่ แต่คงไม่ใช่คนของฮองเฮาอย่างแน่นอนเพคะ มิเช่นนั้นเมื่อสักครู่นี้ฉินเมิ่งก็คงไม่แทงข้างหลังนางแบบนั้นหรอก"
หยุนชางส่ายหน้า "เจ้าน่ะ เห็นเพียงแต่ภาพตรงหน้า เท่าที่ข้าเห็น ยาถุงนี้มิใช่ของเยียนเอ๋อร์หรอก ไม่ว่านางเป็นคนของใคร แต่คงไม่โง่เขลาที่คิดเอายาพิษมาวางในที่ที่โจ่งแจ้งเช่นนี้ แต่จิ้งหรงที่ป่วยนั่นสิ ดูแปลก รวมถึงชิงซินด้วย... "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง