ฉีหล่างไม่สนใจกระไร เขาเงียบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงกล่าวว่า "ตามกฎหมายของแคว้นหนิง เจ้าควรรับโทษเฆี่ยนตีห้าสิบที และชดเชยผู้ได้รับบาดเจ็บด้วยเงินจำนวนหนึ่ง"
เมื่อหยุนชางได้ยินเช่นนี้ ก็เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย มองจ้องไปที่ฉียวี่จือที่กำลังเหม่อลอย จากนั้นก็หันไปมองที่พ่อบ้านจวนฉีที่ตัวสั่นอย่างมาก แล้วจึงก้มหน้ามองดูดอกพีชสีเงินที่ปักอยู่ที่ชายเสื้อของตน พร้อมกล่าวอย่างแผ่วเบา "เช่นนั้นหรือ? ข้าได้ยินมาว่า เที่ยงวันของวันนี้ คุณชายสามฉีมาที่ภัตตาคารเซียนเค่อไหลและได้สั่งให้คนใช้ทำร้ายคุณชายของตะกูลหลี่ทางทิศตะวันตกของเมือง เช่นนี้แม่ทัพฉีคิดว่าควรจัดการเช่นไรดีหรือ?"
ฉีหล่างสั่นสะท้านไปทั้งตัว มือของเขาก็กำหมัดแน่น และร่างกายของเขาเผยกลิ่นอายของความโกรธแค้นออกมา หยุนชางกลับทำเมินเหมือนไม่เห็น นางยังคงยิ้มแย้ม และหันไปมองปลาในบ่อน้ำ "โบราณเชาว่ากันว่า หากองค์ชายได้ทำผิดกฎบ้านเมืองก็ต้องรับโทษเทียบเท่าประชาชน ข้าได้ยินจิ้งอ๋องพูดถึงแม่ทัพอยู่บ่อยครั้ง ท่านกล่าวว่า ท่านแม่ทัพนั้นสั่งสอนลูกน้องได้ดี มีการแบ่งแยกเรื่องโทษเรื่องอวยได้อย่างชัดเจน วันนี้เมื่อมาถึงเมืองคังหยาง แล้วพบว่าประชาชนในเมืองคังหยางเคารพท่านแม่ทัพเป็นอย่างมาก ข้าคิดว่าท่านแม่ทัพคงจะไม่ทำให้ประชาชนหลายคนผิดหวังแน่นอนใช่หรือไม่?"
ผ่านไปอยู่นานไม่มีเสียงตอบรับใดๆ แต่หยุนชางก็ไม่รีบร้อนและนั่งอยู่เงียบ ๆ
"โดยธรรมชาติแล้ว หากกฎหมายไม่เข้มงวด ก็ไม่สามารถปกครองบ้านเมืองได้ หากกฎหมายไม่เข้มงวด ประชาชนก็ไม่เคารพกฎหมาย แน่นอนว่าหม่อมฉันจะจัดการตามกฎหมายบ้านเมืองขอรับ" น้ำเสียงของฉีหล่างมีความไม่พอใจเล็กน้อย
ทันทีที่กล่าวจบ หยุนชางก็ได้ยินฉียวี่จือกัดฟันไว้และตะโกนเรียก "ท่านพ่อขอรับ"
ฉีหล่างกวาดสายตาไปที่ฉียวี่จืออย่างดุเดือด จากนั้นก็คุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพ ใบหน้าของเขาขาวซีดเล็กน้อย
หยุนชางหันไปมองและเหลือบมองเส้นเลือดที่เผยอยู่บนหน้าผากเขา สีหน้าของฉียวี่จือไม่พอใจอย่างมาก จึงทำให้นางอยากหัวเราะอีกครั้ง "แม่ทัพฉีเป็นอย่างที่ท่านอ๋องกล่าวเสียจริง แบ่งเรื่องโทษเรื่องอวยได้อย่างชัดเจน หากเป็นเช่นนี้ ข้าจะไม่รบกวนแม่ทัพฉีจัดการเรื่องนี้แล้ว ดูเหมือนว่าคนของตระกูลหลี่กำลังรอแม่ทัพฉีอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้านะ" ขณะที่พูด หยุนชางก็เหลือบมองไปที่พ่อบ้านตระกูลฉีที่ทำสีหน้าตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นนางก็ยืนขึ้น และเฉี่ยนอินก็พยุงตัวนางกลับไปที่สวนชมดอกเบญจมาศ
"พระชายาเพคะ วันนี้ท่านได้สั่งให้แม่ทัพเฆี่ยนตีบุตรชายของเขาเช่นนี้ แม่ทัพฉีจะมีความคิดที่ทรยศเพราะเหตุนี้หรือไม่เพคะ? ตอนนี้เรายังคงอาศัยอยู่ในจวนฉี หากว่าเราทำให้คนของจวนฉีโกรธเคือง แล้วพวกเขาพยายามหาวิธีมาจัดการกับเราเช่นนี้จะทำอย่างไรเพคะ? โบราณเขาว่าแม้มังกรที่แข็งแกร่งก็ยากที่จะข่มงูเจ้าถิ่นได้นะเพคะ............" เฉี่ยนอินกังวลเล็กน้อย และคิดเกี่ยวกับสีหน้าเมื่อสักครู่ของแม่ทัพฉี จากนั้นก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา
สีหน้าของหยุนชางนั้นสงบอย่างมาก พร้อมทั้งยังมีด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า นางค่อย ๆ ส่ายหน้า " ในเมื่อข้าได้ขอพระราชโอกางเพื่อมาที่เมืองคังหยางนี้ เช่นนั้นก็ยิ่งไม่ควรแสร้งทำเป็นว่าอ่อนแอไม่มีทางสู้ ยิ่งข้าอ่อนแอเท่าไหร่ ฉีหล่างก็จะไม่เห็นหัวข้ามากเท่านั้น เมื่อถึงเวลานั้น หากทหารแคว้นเซี่ยมาโจมตี ไม่ว่าข้าจะออกความคิดเห็นอย่างไร ข้าก็เกรงว่าเขาก็คงไม่สนใจหรอก"
เขาถอนหายใจเบา ๆ "ข้าทำเช่นนี้ เจตนาเพื่อให้ฉีหล่างได้ทราบว่า ข้ามิได้อ่อนแอเหมือนที่เขาลือกัน แม้ว่าข้าจะอยู่ใต้การควบคุมของเขา แต่ก็ยังมีวิธีที่จะเห็นทุกอย่างในเมืองคังหยางนี้ เช่นนี้ เขาก็จะเกรงกลัวข้าอยู่บ้างเล็กน้อย อีกทั้งตำแหน่งที่ข้ามีในตอนนี้ เขาสามารถไม่แยแสที่ข้าเป็นองค์หญิง แต่เขาไม่สามารถเพิกเฉยได้ว่าข้างหลังข้ายังมีจิ้งอ๋องคอยสนับสนุนอยู่ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว แม้ว่าจะเป็นการเสแสร้ง เขาก็ต้องแสร้งทำให้เรื่องนี้จบสิ้น ด้วยความที่เขาไม่อยากให้ข้าจับผิดได้ เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะต้องให้ข้าทำหน้าที่เป็นผู้คุมกองบังบัญชาการอย่างแน่นอน แต่เขาจะหาวิธีลงมือกับข้า ข้าเพียงต้องเลี่ยงกับดักของเขา จากนั้นข้าก็จะเข้าถึงสนามรบที่แท้จริง...."
หยุนชางมองจ้องไปที่ลวดลายบนโต๊ะ แล้วเหม่อลอย ใครเขาว่ากันว่าบอกว่าพวกคนหยาบที่เอาแต่สู้รบนั้นจะไม่รู้เรื่องเล่ห์เหลี่ยม? ข้าเกรงว่าพวกเขาจะเหลี่ยมไม่แพ้กับเหล่านางสนมในพระราชวังที่เอาแต่คิดหากลวิธีทำร้ายคนอื่นตลอดเวลาน่ะสิ
หลังจากผ่านเรื่องวุ่นวายเช่นนี้มา หยุนชางก็เหนื่อยมากเช่นกัน ฉีหล่างอยู่ในสนามรบมาเป็นเวลานาน ซึ่งนั้นเป็นสถานที่ที่สู้รบด้วยดาบและหอกอย่างแท้จริง ตัวเขาเผยกลิ่นอายของความอาฆาตเล็กน้อย เมื่อเผชิญหน้ากับเขา ออร่าแห่งการสังหารนั้นแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ซึ่งทำให้คนที่สัมผัสนั้นรู้สึกเหนื่อยล้าไปทั่วร่างกายและหมดกำลังทางจิตใจ
หยุนชางนอนอยู่บนเตียงอยากจะพักผ่อนสักพัก แต่ไม่คาดคิด ว่านอนหลับครั้งนี้เมื่อตื่นมาอีกครั้งก็เป็นเช้าของวันที่สองแล้ว หลังจากที่หยุนชางตื่นขึ้นมา นางก็รู้สึกปวดหัวเล็กน้อยอาจจะเป็นเพราะเป็นหวัด
หยุนชางขมวดคิ้วอย่างห้ามไม่ได้ ตั้งแต่ฝึกศิลปะการต่อสู้มา ร่างกายของตนก็ดีขึ้นอย่างมาก น้อยครั้งมากที่จะป่วย เพียงแต่เมื่อป่วยขึ้นมาก็จะทรมานอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง