ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 29

หยุนชางก้มหน้าเล็กน้อยและกล่าวว่า " เสด็จแม่เพคะ! ชางเอ๋อร์ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยนะเพคะ ตอนนี้คุยเรื่องนี้ มันจะ.....จะเร็วไปไหมเพคะ?"

ดวงตาของหยวนเจินฮองเฮานั้นฉายแววไม่แยแสออกมา แต่ใบหน้าของนางกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มพร้อมกล่าวว่า "ยังจะเขินอายอีก ตอนนี้ไม่เร็วเกินไปหรอก อีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็ถึงพิธีบรรลุนิติภาวะของเจ้าแล้ว หญิงสาวที่หมั่นก่อนบรรลุนิติภาวะนั้นก็มีเยอะแยะ เสด็จพี่ของเจ้าก็อถิเษกสมรสเมื่อบรรลุนิติภาวะได้ไม่นานเช่นกัน อีกอย่างข้าเองก็ให้เจ้าลองมองหาว่าใครถูกใจเจ้าก็เท่านั้น มิได้ให้เจ้าเลือกในทันทีทันใด เรื่องงานอภิเษกสมรสของจ้าต้องให้ฝ่าบาททรงตัดสินใจ แต่หากเจ้ามีคนที่โปรดปรานอยู่แล้ว การได้อภิเษกสมรสกับคนที่เราถูกใจนั้นย่อมดีที่สุด"

ช่างใส่ใจจริงๆ เชียวนะ ในใจของหยุนชางเต็มไปด้วยความเย็นชา ชาติที่แล้วตนก็ถูกความใส่ใจเช่นนี้ทำให้ตาบอดมองไม่เห็นความชั่วช้า ตอนนั้นก็มีงานเลี้ยงที่พระราชวังเตรียมไว้สำหรับตนเช่นกัน ตอนนั้นตนดีใจอย่างมาก ตนโปรดปรานชายผู้นั้นที่ดูสง่ามีราศีในหมู่ผู้คนในพริบตา ตอนนั้นรู้สึกเพียงว่าเขานั้นดูสง่าผ่าเผย ดูเป็นคนมีความรู้ และเป็นคนที่คารมดีเช่นกัน นางจึงตกหลุมรักโดยไม่คำนึงถึงเรื่องอื่นใด และสาบานว่าจะอภิเษกสมรสกับเขาเท่านั้น แต่ใครจะไปรู้ว่าชายผู้นั้นเป็นเพียงหมากรุกตัวหนึ่งในมือฮองเฮา

หลังจากแต่งงานเพียงสองเดือน ชายผู้นั้นก็เผยธาตุแท้ออกมา เขาเข้าออกดินแดนแห่งความเพลิดเพลินทุกวัน ชาติที่แล้วตนเป็นคนที่หยิ่งผยอง เป็นองค์หญิงอยู่ในพระตำหนักมาหลายปี ตนจะทนความคับแค้นใจเช่นนี้ได้อย่างไร ตนจึงโวยวายอยู่ทุกวัน แต่ไม่คาดคิดว่าตนอยู่เพียงลำพังในตระกูลนั้นไม่มีคนคอยสนับสนุน ตนนั้นทุกข์ลำบากมามากเหลือเกิน

"ตามใจเสด็จแม่เลยเพคะ" หยุนชางตอบเสียงเบา ๆ นางยกแขนเสื้อขึ้นปิดปากและไอออกมา "แต่ทว่าร่างกายตอนนี้ของชางเอ๋อร์ คงไม่มีใครอยากอภิเษกสมรสกับชางเอ๋อร์หรอกเพคะ"

หยวนเจินฮองเฮาทำหน้าบึ้งและพูดอย่างโกรธเคือง "ใครกล้าปฏิเสธ! ชางเอ๋อร์คือองค์หญิงฮุ่ยกั๋วที่ทุกคนเคารพนับถือ และงดงามเช่นนี้ ใครได้อภิเษกสมรสถือเป็นบุญที่ทำมา ตอนนี้เจ้าต้องพักผ่อนให้ดี เชื่อฟังข้านะตัดสื้อผ้าและสั่งเครื่องประดับมาเยอะๆ ถึงเวลานั้นแล้วต้องทำให้ทุกคนตกตะลึง"

หยุนชางก้มหน้าลง ใบหน้าของนางแดงก่ำ และเสียงเบาลงเยอะมาก "เสด็จแม่อย่าได้ล้อเลียนชางเอ๋อร์เลยนะเพคะ ชางเอ๋อร์จะทำตามที่เสด็จทรงตรัสเพคะ"

หยวนเจินฮองเฮาจึงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ นางกล่าวกับซิ่วซินกูกูที่ยืนอยู่ข้างๆ นางว่า "คนของสำนักพระภูษามารอแล้วใช่หรือไม่ ให้องค์หญิงไปวัดตัวได้เลย ให้นางกำนัลเหล่านั้นเอารูปแบบที่นิยมในตอนนี้มาเยอะๆ ให้คุณหญิงเลือก"

ซิ่วซินตอบกลับ และเดินไปถวายบังคมหยุนชาง " องค์หญิงเจ้าคะ เชิญทางนี้เจ้าค่ะ"

หยุนชางพยักหน้าเล็กน้อย " ขอรบกวนซิ่นซินกูกูด้วยนะ เสด็จแม่เพคะ ชางเอ๋อร์ขอตัวลานะเพคะ"

หยวนเจินฮองเฮาพยักหน้า และมองดูหยุนชางเดินออกจากห้องโถงใหญ่ในตำหนักไป ผ้าม่านถูกเปิดออกและหัวจิ้งก็เดินออกมา

"เสด็จแม่เพคะ เจ้าเด็กนี่ไปอยู่ที่กันดารเยี่ยงวิหารแคว้นหนิงมานานหลายปีมิใช่หรือ เหตุใดนางจึงไม่เหมือนแบบที่หม่อมฉันคิดไว้ หม่อมฉันคิดว่านางจะกลายเป็นคนหยาบๆ เยี่ยงเด็กบ้านนอกเสียอีก แต่ไม่คาดคิดว่าร่างกายอ่อนแอลง และไม่มีความก้าวร้าวแบบตอนเด็กแล้ว แต่กลับเหมือนคุณหญิงที่ได้มีชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีเสียมากกว่า" หัวจิ้งพึมพำอย่างไม่พอใจเล็กน้อย

หยวนเจินฮองเฮาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงจะตอบอย่างใจเย็นว่า "คนที่ข้าให้เจ้าเลือกไว้ให้นาง เจ้าเลือกเสร็จหรือยัง?"

เมื่อหัวจิ้งได้ยินฮองเฮาถามถึงเรื่องนี้ แววตาของนางก็เผยความภูมิใจออกมาเล็กน้อย นางยิ้มและเดินไปนั่งข้างๆ ฮองเฮา " เมื่อวานตอนที่หม่อมฉันกลับไป จึงไปเช็กดูชายหนุ่มในพระราชวังที่อายุพร้อมอภิเษกสมรส และได้เจอหลายคนที่เหมาะสมกับนางจริงๆ หลานชายของแม่ทัพฉี หน้าตาหล่อเหลา แต่เป็นง่อยตั้งแต่เกิด ลูกชายของไท่ฉางหลินชิงก็ไม่เลวเช่นกัน ... อีกเรื่องหนึ่งเพคะ หม่อมฉันสั่งให้คนบันทึกไว้แล้ว เสด็จแม่ลองดูเพคะว่ามีผู้ที่เหมาะสมหรือไม่" ขณะที่พูดนาง นางหยิบกระดาษหนังแกะออกมาหนึ่งแผ่นแล้วยื่นไปให้พระราชินี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง