ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 301

"อยู่เฉยๆก็เบื่อ อ่านให้มากขึ้นย่อมดีเสมอ" หยุนชางยิ้มจางๆแต่ขมวดคิ้วเล็กน้อย "ข้าไม่รู้มาก่อนว่าหลิ่วหยินเฟิง ดูเหมือนจะถนัดเรื่องการวางค่ายกล ค่ายกลรอบสนามของเขาทรงพลังยิ่งนัก จนข้าเกือบเสียชีวิต ข้าได้ยินมาว่าตอนที่ฉีหล่างพบกับหลิ่วหยินเฟิงในหุบเขาชิงเฟิง เขายังตั้งค่ายกลหนึ่ง เพื่อที่ฉีหล่างไม่สามารถเริ่มต้นสู้ได้ ถึงได้พ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช ข้ารู้แค่วิธีจัดค่ายกลแค่ผิวเผิน และเป็นเพียงเคยเห็นแค่บางส่วนในตำรา แต่ค่ายกลที่มักเห็นบ่อยที่สุด แม้แต่เป็นค่ายกลที่พบบ่อยที่สุด ข้าก็ไม่สามารถจัดออกมาได้ แม้แต่การทำลายอาจยังเป็นปัญหา ข้าเกรงว่า ตรงจุดนี้อาจจะเสียเปรียบบ้างเล็กน้อย"

จิ้งอ๋องครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า "หลิ่วหยินเฟิงถนัดในการศึกษาหาวิธีการต่อสู้ของคนอื่น แต่เขาก็กลัวว่าจะถูกคนอื่นจะเข้าใจเขาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ดังนั้น ในทุกการต่อสู้เขาไม่ค่อยใช้วิธีเดียวกัน ข้าก็ไม่เคยได้ยินว่าเขาถนัดเรื่องค่ายกลมาก่อน โทษเจ้าไม่ได้ หากพูดถึงค่ายกล ข้าก็มีคนๆหนึ่ง เขาเป็นผู้สอนค่ายกลบางอย่างของข้า แต่เขาไม่ได้อยู่ที่คังหยาง แต่ข้าได้ส่งนกพิราบไปสั่งให้เขามาช่วยเจ้าแล้ว และเขาอาจจะมาถึงที่นี่ในอีกไม่กี่วัน" หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง จิ้งอ๋องพูดอีกครั้งว่า "บุคคลนี้เชี่ยวชาญมากในการจัดค่ายกล แต่อารมณ์ของเขาค่อนข้างแปลก เจ้าต้องให้อภัยบ้างเล็กน้อย แต่ทว่าข้าก็ได้ชี้แจงกับเขาไว้ล่วงหน้า เขาคงจะไม่ทำให้เจ้าลำบากใจมากเกินไปนัก"

หยุนชางดีใจมาก และรีบเดินไปหาจิ้งอ๋องและคว้ามือของจิ้งอ๋องมาจับ " ขอบพระคุณท่านอ๋อง ถ้ามีคนนี้มาช่วยได้ ต้องเป็นเหมือนเสือติดปีก"

จิ้งอ๋องจ้องมองไปที่หยุนชางที่จับมือเขา ดวงตาของเขาอ่อนโยนลงเล็กน้อย แล้วเขาก็ยิ้มและกล่าวว่า "เหมือนเสือติดปีก เจ้าไม่อายเลยนะ เปรียบตัวเองเป็นเสือ ถ้าเจ้าเป็นเสือตัวหนึ่ง เกรงว่าจะเป็นเสือตัวเมีย(สตรีที่ห้าวดุ)"

หยุนชางได้ยิน ก็สะบัดมือจิ้งอ๋องอย่างโกรธๆ ทำเสียงเชอะ "เกรงว่าช่วงนี้ท่านอ๋องจะล้อหม่อมฉันเล่นจนสนุกมากเลยนะเพคะ"

ทั้งคู่พูดคุยสนทนากัน เฉี่ยนอินเดินเข้ามาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ท่านอ๋อง ฮูหยินฉีส่งผลไม้มาจำนวนหนึ่งมา มีสาลี่และองุ่น ซึ่งหายากมาก มันไม่น่าจะหาได้ในฤดูกาลนี้แล้ว ได้ยินมาว่าใช้วิธีการปลูกในลักษณะพิเศษ ฮูหยินฉีบอกว่าเป็นคุณหนูถังในจวนส่งมา ดังนั้นนางจึงรีบส่งบางส่วนมาหาท่านอ๋องและพระชายาทานเพคะ"

หยุนชางเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำพูด นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยความเย็นชา กล่าวว่า "โอ้ ข้ารู้ ไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้ ฮ่า..."

เฉี่ยนอินไม่รู้ว่าหยุนชางกำลังพูดถึงอะไร นางมองไปที่หยุนชางอย่างสงสัย แต่จิ้งอ๋องกลับยิ้มและกล่าวว่า "ตอนอยู่ที่เมืองเฟิ่งไหล พระชายานั้นปฏิบัติต่อจิ่งเหวินซีได้เหมาะสมมาก สำหรับคุณหนูถังที่น่ารำคาญนี้ ข้าต้องรบกวนพระชายาด้วย"

หยุนชางพึมพำ "พระชายาอย่างข้า ตอนนี้ก็ช่วยจิ้งอ๋องขับไล่นกกาเหล่านี้ไปจากจิ้งอ๋องเท่านั้น ก็นับว่า มันก็ขัดขวางความสุขของท่านอ๋องด้วย ข้าว่านะ แม้ว่าคุณหนูถังนางนี้จะเป็นไม่งามมากนักเลย แต่ก็ยังนับว่าพอใช้ได้ อีกทั้งนางมีนิสัยร่าเริง นางเป็นหญิงสาวมากกว่าเหล่าหญิงสาวที่ไร้ชีวิตในเมืองหลวง ท่านอ๋องรับไว้ดีไหมเจ้าคะ?"

จิ้งอ๋องหยิบหนังสือในมือและหาว เสียงของเขาก็ค่อยๆนุ่มนวล "มิกล้า ในจวนมีหญิงที่ร้ายกาจเพียงแค่คนหนึ่งก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องการให้มีคนที่สองอีก"

หยุนชางได้ยินเขาพูดว่านางเป็นหญิงร้ายกาจ ขมวดคิ้ว แต่ในใจกลับมีความหวานละมุน คิดในใจว่า ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน ปล่อยมันไปเถิด และหยิบหนังสือมาอ่านด้วย

เฉี่ยนอินยิ้มและก้าวถอยหลัง และได้กลิ่นธูปจางๆลอยอยู่ในห้อง และเสียงพลิกหนังสือที่ดังเป็นครั้งคราว ฟังดูมีความอบอุ่นเช่นกัน

เนื่องจากจิ้งอ๋องอาศัยอยู่ในจวนด้วย ฉีหล่างจึงรีบเตรียมงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับจิ้งอ๋อง แม้ว่าจิ้งอ๋องจะไม่ชอบงานเลี้ยงเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธ

ในตอนบ่าย เฉี่ยนอินเอ่ยถามถึงคุณหนูถังด้วยความสงสัย หยุนชางยิ้มและบอกกับนาง แต่มันกลับกระตุ้นความขุ่นเคืองให้กับเฉี่ยนอิน และในตอนกลางคืน นางเปลี่ยนวิธีการแต่งตัวหยุนชางให้สวยงาม เดิมหยุนฉางเป็นหญิงงามอยู่แล้ว เฉี่ยนอินแต่งออกโทนสีชพูส้มให้กับหยุนฉาง ที่ดูสบายตา เฉี่ยนอินดูพอใจมาก และหากระโปรงยาวลากพื้นสีขาวให้หยุนชางสวม และคิดว่ามันเริ่มหนาวแล้ว เขาจึงนำเสื้อคลุมขนจิ้งจอกที่นางนำมาจากเมืองหลวงมาคลุมให้กับหยุนชาง เสื้อคลุมขนจิ้งจอกเป็นสีขาวสะอาด กลับทำให้หยุนชางดูโดดเด่นราวกับภาพวาด

จิ้งอ๋องยังคงแต่งกายด้วยชุดสีดำ คลุมด้วยเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ กับหยุนชางคนหนึ่งขาวคนหนึ่งดำ เสริมกันและกัน เป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนที่จะละสายตาจากพวกเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง