"ท่านอ๋องขอรับ องค์หญิงฮุ่ยกั๋วคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนที่ไม่ธรรมดา หากว่าวันหนึ่งเราเป็นศัตรูกันขึ้นมา ถ้าอย่างนั้นคง ... หรือว่าเราถือโอกาสลงมือตอนนี้ก่อน ตอนนี้เธอยังไม่แข็งแกร่งมาก" หวังซุ่นยืนอยู่หลังจิ้งอ๋องและก้มหน้าลงด้วยความเคารพ
จิ้งอ๋องหันหน้าไป มองไปที่เงาร่างที่ปรากฏอยู่บนยอดหอจายซิน แต่เขาไม่ได้ตอบตรงคำถาม
"ข้าจำได้แล้วว่าข้าเจอเธอครั้งที่แล้วคือเมื่อไหร่ เมื่อเจ็ดปีก่อน แคว้นหนิงไม่มีฝนตกมาครึ่งปี วันนั้นพวกเรากำลังในระหว่างการสนทนา ตอนนั้นเธออายุเพียงแปดขวบก็บุกเข้ามา และบอกว่าเธอจะไปที่วิหารแคว้นหนิง เพื่ออธิษฐานขอฝน ต่อมาไม่กี่วันข้าก็ไปที่ชายแดน แต่ได้ยินข่าวว่าองค์หญิงสองของแคว้นหนิงนั้นขอฝนให้ประชาชนได้สำเร็จ จึงได้รับแต่งตั้งเป็นองค์หญิงฮุ่ยกั๋ว"
"จิ้งอ๋อง ท่านหมายความว่า..... " หวังซุ่นรู้สึกเหมือนว่าตนจะรู้ความหมายของจิ้งอ๋อง แต่เขาก็ไม่แน่ใจเล็กน้อย
จิ้งอ๋องยิ้มออกมาเล็กน้อย "ก่อนหน้าข้าคิดว่ามีคนคอยอยู่เบื้องหลังเสียอีก ที่แต่การเจอกันหลายครั้งนี้ทำให้ข้าเชื่ออย่างสนิทใจว่า องค์หญิงฮุ่ยกั๋วคนนี้ เป็นคนที่ฉลาด ในเมื่อเธอเป็นคนฉลาด เธอจึงควรรู้ว่าทำอย่างไรคือสิ่งที่ดีที่สุด ดังนั้นข้ากับเธอไม่มีทางเป็นศัตรูกันได้"
หวังซุ่นไม่รู้ว่าเหตุใดจิ้งอ๋องจึงมั่นใจเช่นนี้ แต่เขาก็รู้ว่า ไม่ว่าเมื่อไหร่ การตัดสินใจของท่านอ๋องนั้นถูกต้องที่สุดเสมอ เชื่อจิ้งอ๋องโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ นั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
หลังจากที่หวังซุ่นคิดได้เช่นนี้ ความลังเลในใจของเขาก็หายไปชั่วคราว เขาก็ตอบรับด้วยความเคารพและเดินตามจิ้งอ๋องออกไปจากหอจายซิน
เมื่อหยุนชางกลับไปที่ตำหนักชิงซิน ตอนนี้ก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว ฉินยียังคงเดินไปมาที่ลานในตำหนัก เมื่อเธอเห็นหยุนชางเธอก็รีบวิ่งเข้าไปหาหยุนชางและพูดว่า "องค์หญิง ในที่สุดท่านก็กลับมา จิ้งอ๋องนั้นไม่ได้ทำอะไรกับองค์หญิงใช่หรือไม่? บ่าวเป็นห่วงแทบแย่ "
หยุนชางส่ายหน้า "ไม่มีเรื่องอะไร " หลังจากพูดจบ เธอก็เงยหน้าขึ้นและมองไปรอบ ๆ "มีแค่เจ้าคนเดียวหรือ?"
ฉินยีโน้มตัวเข้าไปข้างหูของหยุนชางและกล่าวว่า "บ่าวบอกกับพวกเธอว่า จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ออกจากตำหนักไปโดยไม่ได้พาบ่าวรับใช้ไปด้วย องค์หญิงเป็นห่วงจึงไปตามหาฮ่องเต้ บ่าวบอกว่าองค์หญิงกลับมาที่ตำหนักก็ต้องทรงน้ำ ฉะนั้นจึงให้พวกเขาไปเตรียมน้ำใช้อาบกันหมดแล้ว "
หยุนชางพยักหน้า แล้วเดินเข้าตำหนักไป
หลังจากนั่งลงได้ไม่นาน ฉินเมิ่งก็เปิดม่านและเดินเข้ามา เมื่อเห็นหยุนชางเธอรีบพูดด้วยความเป็นห่วงว่า "องค์หญิงกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ? พบฮ่องเต้หรือไม่เจ้าคะ?"
หยุนชางส่ายหน้าและยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ "ข้าไม่ได้กลับวังมาหลายปีแล้ว และรูปลักษณ์ของวังนี้ก็เปลี่ยนไปมาก ไม่เพียงแต่ไม่พบเสด็จพ่อ ข้าเองก็เกือบจะหลงทาง"
ฉินเมิ่งได้ยินเช่นนนี้ก็หัวเราะออกมา " องค์หญิงไม่ต้องรีบร้อนเกินไปเจ้าค่ะ ในวังชั้นในนี้มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ฮ่องเต้ก็คุ้นเคยกับวังนี้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าไม่มีเรื่องอะไรเจ้าค่ะ องค์หญิงยุ่งมาทั้งวันแล้ว รีบทรงน้ำแล้วนอนพักผ่อนเสียดีกว่า"
หยุนชางพยักหน้า "ยกน้ำเข้ามาเถิด"
ฉินเมิ่งก็ไปเตรียมการ หลังจากที่หยุนชางล้างทำความสะอาดเสร็จ เธอก็ขึ้นไปนอนบนเตียง แต่หัวใจของเธอกลับสับสนเล็กน้อย จิ้งอ๋อง ชายคนนี้ที่ไม่เคยทิ้งร่องรอยความทรงจำไว้ในชาติที่แล้วของเธอเลย แล้วจู่ๆ ปรากฏตัวขึ้นในชาตินี้ มันทำให้เธอรับมือไม่ค่อยได้ จนสับสนอยู่พักหนึ่ง แต่ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน แล้วตนจะจัดการกับมันอย่างไรดี? เธอสับสนในใจ และก็หลับไปอย่างมึนงง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง