วันที่สอง ฮูหยินจิ่งมาขอเข้าเฝ้าอีกครั้ง หยุนชางพูดคุยกับนางอยู่ชั่วครู่ ด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดนอนอยู่บนตั่ง ร่างกายพลันห่อหุ้มไปด้วยผ้าห่มผืนหนา ๆ จิ่งฮูหยินพลางเหลือบมองหยุนชางที่นั่งอยู่ชั่วครู่ หน้าผากพลันมีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นเต็มใบหน้า พลางถอนหายใจออกมาว่า "หม่อมฉันเห็นฝีมือหวางเฟยยิงเกาทัณฑ์สิบดอกที่งานเลี้ยงครั้งนั้น ภายในใจชื่นชมเป็นอย่างมาก พลันได้ยินมาว่าหวางเฟยร่างกายมิค่อยแข็งแรง หากแต่ตอนนี้สามารถดึงคันธนูได้ จึงคิดว่าร่างกายหวางเฟยแข็งแรงขึ้นแล้ว มิคิดว่าพอพูดถึงอาการป่วยแล้วท่านจะป่วยเสียได้"
หยุนชางพลางยิ้มเล็กน้อย พร้อมพูดด้วยเสียงเบา ๆว่า "ข้าแค่อย่างให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นสักหน่อย ท่านอ๋องจึงให้ข้าเรียนศิลปะป้องกันตัวมากมาย หากแต่เป็นเพราะร่างกายข้าอ่อนแอยิ่งนัก เรียนเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น มีเพียงแค่การยิงเกาทัณฑ์ที่สามารถทำได้ดี"
ฮูหยินจิ่งพลันถอนหายใจออกมาว่า "บุตรของหม่อมฉันล้วนแต่ไม่เอาอ่าว ไม่ยอมแม้แต่ฝึกยุทธ์ วัน ๆ เอาแต่เที่ยวเล่นไปทั่ว เมื่อเห็นสิ่งใดแปลก ๆ ก็นำกลับมาขายต่อ ของหายากเช่นสมุนไพรล้ำค่าต่าง ๆ จากที่อื่นล้วนแต่เป็นบุตรของหม่อมฉันที่นำเอากลับมาเต็มบ้าน มิรู้ว่าหวางเฟยจะสามารถใช้ได้หรือไม่ หากหวางเฟยต้องการละก็ ให้คนมาบอกที่จวนเสนาบดีได้เลยนะเพคะ "
หยุนชางพลันขอบคุณด้วยเสียงเบา ๆ ฮูหยินจิ่งเมื่อเห็นเมื่อเห็นหยุนชางเหงื่อออกมากมายเช่นนี้ จึงขอตัวกลับไป หยุนชางจึงเรียกให้เฉียนหยินออกไปส่งนาง
เมื่อเฉียนหยินกลับมาแล้ว คิ้วและดวงตาของนางพลันโค้งเป็นรอยยิ้ม "ฮูหยินจิ่งถูกหวางเฟยแกล้งเล่นเสียแล้ว เมื่อครู่นางยังถามกับนู๋ปี๋ว่า ตกลงร่างกายของหวางเฟยเป็นเช่นไรกันแน่ พลางกล่าวว่า อากาศวันนี้ก็มิได้หนาวเกินไป หากแต่รู้สึกเย็นสบายเสียด้วยซ้ำ เหตุใดหวางเฟยเพียงแค่ห่มผ้าห่มกลับเหงื่อไหลไม่หยุดเสียได้"
หยุนชางหัวเราะพร้อมนำผ้าห่มออกมาให้เห็นถุงน้ำร้อนสามสี่ถุง พร้อมหัวเราะออกมาว่า "น้ำร้อนของเจ้าเกรงว่าคงจะต้มเพิ่งเดือดกระมัง เมื่อครู่ทำข้าร้อนเสียทนไม่ได้"
ทั้งสองคนพลันหัวเราะออกมา หวังจินเหยียนจึงมาพอดี หยุนชางพลันลากหวังจินเหยียนเข้ามาในวังนานถึงหนึ่งชั่วยาม จึงให้เฉียนยินออกไปส่งนางกลับวัง
ตกกลางคืน เฉียนยินจึงรายงานถึงเรื่องราวในวันนี้ให้หยุนชางฟังว่า "ฮูหยินจิ่งนั้นมิได้ถูกคนติดตามเพคะ หากแต่เมื่อพี่สาวหวังเดินออกไปแล้วกลับมีคนไม่น้อยตามนางกลับไปราวกับหาง พี่สาวหวังทำตามที่หวางเฟยบอกทุกอย่าง นางไปพบกับผู้คุมขังก่อน แล้วจึงไปหาเถ้าแก่ร้านเฉียนสุ่ยอี้เหริน แล้วจึงกลับวังเพคะ"
ฮูหยินจิ่งมิได้ถูกคนติดตามงั้นหรือ ? หยุนชางขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมถามว่า "วันนี้ด้านนอกมีข่าวคราวมาบ้างหรือไม่ ? "
เฉียนยินพลันส่ายหัวไปมา "ไม่มีเพคะ คำสั่งของหวางเฟยเพิ่งจะผ่านไปได้หนึ่งวัน. คงต้องใช้เวลาสักหน่อยในการสืบข้อมูลข่าวสารของหน่วยเงาที่อยู่ใกล้โรงเตี๊ยมนั้น บางทีพรุ่งนี้อาจะมีข่าวคราวก็ได้นะเพคะ"
หยุนชางผิดหวังลงเล็กน้อย พลางถอนหายใจออกมา แล้วจึงหยิบตำราบนโต๊ะขึ้นมาอ่าน "สามวันแล้ว"
เฉียนหยินพลันก้มหน้าลง หัวใจเต็มไปด้วยความเจ็บปวด หากแต่ไม่กล้าแสดงความเศร้าและเสียใจออกมาให้เห็น เกรงว่านายท่านจะเสียใจได้ จึงรีบร้อนบอกว่า "หวางเฟย ไม่ค่อยทานอะไรเลยในช่วงไม่กี่วันมานี้ นู๋ปี๋สั่งให้คนไปซื้อขนมกุ้ยฮวาที่หวางเฟยชอบมากจากหอยวี่หมั่นแล้ว หวางเฟยท่านอยากลองชิมดูหรือไม่เพคะ? "
ภายในใจหยุนชางมิค่อยอยากกินเท่าไหร่นัก หากแต่มิอยากขัดต่อความหวังดีของเฉียนยิน จึงพยักหน้าลง เฉียนยินจึงรีบร้อนไปหยิบขนมกุ้ยฮวาเข้ามา หากแต่หยุนชางชิมไปได้แค่สองคำ ก็สั่งให้เฉียนยินนำออกไปเก็บ
เช้าวันใหม่มีข่าวคราวส่งมาจริง ๆ หากแต่มิใช่ข่าวคราวของจิ้งอ๋องในวันนั้น หากแต่คนของจิ้งอ๋องที่ส่งข้อมูลมาให้นั้น เกี่ยวกับฉินเมิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง