ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 399

เนื่องจากในวังแต่เดิมมีคนช่วยสืบหาข้อมูลค่อนข้างเยอะ จึงไม่ได้ยุ่งยากอะไรที่จะต้องการสืบหาข่าวต่าง ๆ หากแต่วันนี้ในวังจิ้งอ๋องนั้น ล้วนแต่เต็มไปด้วยหูตาที่จับจ้องอยู่ จึงเป็นการยากที่จะสามารถส่งข้อมูลข่าวสารเข้ามาได้ หยุนชางที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จึงสั่งให้พ่อบ้านจัดเตรียมรถม้า เพียงกล่าวว่านางป่วยมาแล้วหลายวัน เกรงว่าจิ่นกุ้ยเฟยเมื่อได้รับข่าวแล้วจะเกิดความวิตกกังวล จึงเข้าวังไปหาจิ่นกุ้ยเฟยเพื่อให้นางคลายความวิตกกังวลลง พลางเรียกให้เฉียนยินมาช่วยตกแต่งเสื้อผ้าอาภรณ์ พร้อมทั้งแต่งหน้าแต่งตา จึงให้เฉียนยินพยุ่งนางขึ้นรถม้าเพื่อเดินทางเข้าวัง

เนื่องจากร่างกายที่อ่อนแอเป็นอย่างมาก ขณะที่กำลังพูดคุยกับจิ่นกุ้ยเฟยอยู่นั้น พลันเป็นลมล้มลงไป จิ่นกุ้ยเฟยทั้งวิตกกังวลทั้งกรุ่นโกธรเป็นอย่างมาก จึงให้หยุนชางพักผ่อนอยู่ในวังเพียงคืนนึง ผู้คนภายในวังล้วนแต่ได้ยินว่า หยุนชางอยู่แต่ในวังจิ่นซิ่ว มิได้เดินไปไหนเลยสักก้าวเดียว จิ่นกุ้ยเฟยได้แต่ดูแลนางอยู่ข้าง ๆ หากแต่ให้ข้ารับใช้วิ่งวุ่นไปมาในวังเสียวุ่นวายไปหมด ผ่านไปชั่วครู่จึงให้คนไปเรียกหมอหลวงมาทำการตรวจร่างกาย อีกชั่วครู่พลางเตรียมน้ำร้อน อีกชั่วครู่ต้มยา สนมภายในวังทั้งหลายได้แต่เฝ้ามองอยู่หน้าประตู แม้แต่จักรพรรดิหนิงยังมารับสำรับที่วังจิ่นซิ่วเพียงชั่วครู่

ในช่วงบ่ายของวันที่สอง ร่างกายหยุนชางค่อย ๆ ดีขึ้นแล้ว อยากกลับวังของตนจะแย่ หากแต่จิ่นกุ้ยเฟยร้องห้าม เมื่อฟังเหตุผลของหยุนชางแล้ว จิ่นกุ้ยเฟยจึงมิอาจห้ามอันใดได้ "ชางเอ๋อร์เป็นบุตรตรีที่แต่งออกไปแล้ว หากให้มาพักในวังนาน ๆ คงจะไม่ดีแน่ อีกทั้งตอนนี้ในวังของหม่อมฉันไม่มีคนดูแลเลยแม้แต่คนเดียว ชางเอ๋อร์ไม่อาจวางใจได้เพคะ"

จิ่งกุ้ยเฟยเมื่อรู้ว่ามิอาจห้ามอะไรได้นั้น จึงร้องขอให้จักรพรรดิหนิงนำหมอหลวงไปที่วังจิ้งอ๋อง หยุนชางมิสามารถขัดต่อคำสั่งได้ นางจึงต้องพาหมอหลวงกลับมายังที่วังด้วย

"หวางเฟย หม่อมฉันได้ข่าวมาแล้วว่า ช่วงนี้คุณชายจิ่งนั้นได้เข้าวังมาหลายรอบ เมื่อครั้งที่จักรพรรดิและกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงเพิ่งกลับมาจากวังเฟิงไหลนั้น ในตอนที่ประชุมขุนนาง คุณชายจิ่งก็เข้าร่วมด้วย หลังจากงานเลี้ยงครบร้อยวันของท่านชายน้อย งานเลี้ยงปีใหม่ งานส่งท้ายปีใหม่ และงานเลี้ยงสิ้นปี คุณชายจิ่งเข้าร่วมไม่เคยขาด หากแต่พบเมิ่งเจี๋ยยวี๋เมื่อครั้งแรกตอนงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าเท่านั้น อีกทั้งท่านชายจิ่งยังเคยเล่นฉิน แล้วถูกจักรพรรดิชื่นชมอยู่หลายครั้ง " อีกด้านเฉียนยินกำลังช่วยหยุนชางคลายผมออก อีกด้านนึงพลางรายงานเหตุการณ์ให้ฟัง

"โอ้ ? ยังได้ยินอะไรมาอีก ข้ามิได้บอกเจ้าก่อนหน้านั้นแล้วหรือว่าต้องฟังให้ระเอียด อย่าได้พลาดแม้แต่เรื่องเล็กน้อยแต่เพียงเรื่องเดียว" หยุนชางพลางมองไปยังใบหน้าขาวซีดของหญิงสาวในกระจก พร้อมพูดเบา ๆ

เฉียนยินนำหวีขึ้นมาสางผมให้หยุนชางเบา ๆ พร้อมกระซิบบอกหยุนชางว่า "นู๋ปี๋จำคำพูดของท่านได้หมดทุกคำ ในงานเลี้ยงครั้งแรก เมิ่งเจี๋ยยวี๋มิถูกกับการดื่มสุราเท่าใดนัก จึงออกจากงานเลี้ยงกลางคัน หลังจากนั้นคุณชายจิ่งก็ออกจากงานในครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากนั้น ทุกครั้งที่คุณชายจิ่งเข้าวังนั้น เมิ่งเจี๋ยยวี๋จะมิเข้าไปร่วมงาน หากแต่จะเดินเล่นอยู่ในสวนอุทยานเพียงคนเดียวหากเมื่อออกจากงานแล้ว คุณชายจิ่งจึงค่อยเดินตามออกไป เวลานั้นคงเป็นฉีเอ๋อร์ที่ได้เข้ามาอยู่ข้างกาย เมิ่งเจี๋ยยวี๋กระมัง ช่วงเวลาเข้าออกของสาวใช้นั้น สาวใช้ข้างกายคนก่อนของเมิ่งเจี๋ยยวี๋ที่หายไปนั้น เป็นเพราะมาขโมยของนายท่าน ในตอนนั้นข้างกายของเมิ่งเจี๋ยยวี๋ขาดสาวใช้ เมื่อสาวใช้คนใหม่เข้ามา ฉีเอ๋อร์จึงเป็นหนึ่งในนั้น นู๋ปี๋ได้ยินมาว่า มีคนหลายคนที่เห็นความสนิทสนมระหว่างเมิ่งเจี๋ยยวี๋และคุณชายจิ่ง หากแต่เห็นไม่ค่อยชัดเจนนัก จึงไม่มีใครกล้าพูดมันออกมา"

หยุนชางยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา "ข้าได้ยินมาว่าเสด็จพ่อและจิ่งเหวินซีคงจะสนิทสนมในเวลานั้นกระมัง ช่วงที่เสนาบดีเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน ข้าได้ยินมาว่าความสัมพันธ์ระหว่างจิ่งเหวินซีและพี่ชายไม่ได้แย่ เสนาบดีจิ่งต้องการที่จะส่งบุตรีไปเชื่อมสัมพันธ์ หากแต่พี่ชายไม่ยอม หากแต่ไม่สามารถขัดคำสั่งพ่อของตนเองได้ จึงหาคนที่จะสามารถคอยช่วยเหลือน้องสาวของเขาได้นั้น หากแต่สนมในวังที่เขาเคยพบนั้น ล้วนแต่เป็นสนมขั้นสูง ตอนนี้ในวังหลวงล้วนแต่แห้งเหี่ยวไปหมด จึงตามหาสนมขั้นล่างๆ เล็งเห็นว่ามีแต่ฉินเมิ่งที่เหมาะสมกระมัง อีกคนเป็นสุภาพบุรุษ. อีกคนเป็นสนมที่จักรพรรดิมิโปรดปรานแล้ว. หากคิดที่จะคบหากัน ก็เป็นดังฟ้าแลบและฟ้าร้องที่ต้องมาคู่กัน แค่จุดไฟก็ติดเสียแล้ว"

เฉียนยินมิเคยคิดถึงเรื่องระดับนี้มาก่อน ได้ยินดังนั้น จึงพูดขึ้นมาว่า "หวางเฟยหมายถึงว่าเมิ่งเจี๋ยยวี๋และคุณชายจิ่งลอบคบชู้ ? "

หยุนชางพลางหัวเราะคิกคักออกมา "นี้ยังไม่ชัดเจนอีกหรือ? เจ้าคิดว่าฉินเมิ่งเป็นคนเช่นไร ?"

"ภายนอกดูมิใช่คนใจง่าย หรือว่านางเปลี่ยนไปแล้ว " เฉียนขบริมฝีปากไปมาด้วยความไม่แน่ใจ

หยุนชางพลางยิ้มเล็กน้อย "ฉินเมิ่งอยู่ในวังมาได้ซักพักแล้ว เจ้าก็รู้ว่านางเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ จริงๆ แล้ว นางแค่กำลังติดสินว่าสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองมากกว่า คนเช่นนี้เป็นพวกใส่ใจต่อคนรอบข้างทั้งหมด หากแต่มิใช่คนที่จะเชื่อใจกับสาวใช้ที่อยู่กับนางไม่ถึงสองเดือนได้. เกรงว่านางฉีเอ๋อร์อาจจะพานางไปพบคนที่นางสามารถเชื่อใจได้กระมัง นางจึงไว้ใจฉีเอ๋อร์ หรืออีกทางหนึ่ง ฉินเมิ่งมิเคยได้ออกจากวังเลย คุณชายจิ่งผู้นั้นก็เข้าวังน้อยมาก พวกเขาจะรู้จักกันได้อย่างไร ? อีกทั้งเจ้ายังพูดว่า ยังเคยมีสาวใช้เห็นพวกเขาสนิทสนมกัน "

เฉียนยินตกตะลึงไปสักพัก พลางพูดขึ้นมาว่า" สองใจ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง