เหออวิ้นยังอยากจะพูดต่ออีกหลายสิ่งหลายอย่าง แต่หยุนชางยกมือขึ้นแล้วสะบัดมือ "เอาตัวไป"
เฉี่ยนอินจับเชือกที่มัดตัวเหออวิ้นเอาไว้แล้วลากนางออกไปข้างนอก สักครู่หนึ่ง นางก็เดินกลับเข้ามา "พระชายาทรงทราบเรื่องที่เหออวิ้นโกหกมานานแล้วหรือเพคะ? เหตุใดจึงไม่รีบจัดการนางตั้งแต่แรก นางจะได้ไม่สามารถชิงลงมือก่อเหตุร้ายเช่นนี้ขึ้นมาได้"
"ข้าความจำไม่ค่อยดีเท่าไรน่ะ ข้าลืมไปเสียสนิท เรื่องที่ท่านอ๋องเคยพูดกับข้าเรื่องสายลับที่เป็นผู้หญิง พอดีเมื่อวานนี้ข้าให้นางตามข้าเข้าวังไป ระหว่างทางกลับจวน เพื่อดึงดูดความสนใจของคนในจวนที่คอยจับตามองข้า ข้าจึงแวะไปที่หอยวี่หมั่น ข้าเกิดความสงสัยขึ้นมา จึงสั่งให้นางไปซื้อเครื่องประดับที่เฉียนสุ่ยอี้เหริน ตอนนั้นข้าได้กำชับเฉียนสุ่ยเอาไว้แล้วว่า หากข้าส่งคนไปพบนางโดยที่ไม่ใช่เจ้าหรือว่าฉินยี ก็ให้นางช่วยเป็นหูเป็นตาให้ข้าด้วย" หยุนชางกล่าว
"บ่ายวานนี้ เฉียนสุ่ยส่งคนมารายงานหม่อมฉันว่า หลังจากที่เหออวิ้นซื้อเครื่องประดับเสร็จแล้ว นางได้นัดเจอกับชายชุดเทาคนหนึ่งที่ข้างถนน พวกเขาคุยกันอยู่สักพัก ก่อนที่นางจะกลับเข้าไปในหอยวี่หมั่น ชายชุดเทาคนนั้น......เป็นคนของจวนจิ่ง"
เฉี่ยนอินได้ฟังก็สงสัย "เป็นท่านมหาเสนาบดีจิ่งงั้นหรือเพคะ? เหตุใดเขาถึงต้องให้เหออวิ้นฆ่าคนด้วยล่ะเพคะ?"
หยุนชางหรี่ตา "อาจจะไม่ใช่มหาเสนาบดีจิ่งก็ได้" นางครุ่นคิด "ข้าสงสัยมาโดยตลอดว่าหลี่จิ้งเหยียนและอ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ยยังคงอยู่ในเมืองหลวง พวกเราตามหาพวกเขามาโดยตลอด ตอนแรกข้าก็ไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน แต่ตอนนี้ข้าเริ่มมั่นใจขึ้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้พวกเขาน่าจะอยู่กันที่จวนจิ่ง"
"จิ่งขุยรู้จักพวกเขาด้วยหรือเพคะ? หรือว่าพวกเขาจะเป็นพวกเดียวกัน?" เฉี่ยนอินรู้สึกกังวล
"ข้าก็ไม่แน่ใจ ข้าเพียงแต่คิดว่า ที่ที่ปลอดภัยที่สุดในเมืองหลวงก็คือจวนจิ่ง เนื่องจากจิ่งเหวินหลานได้ทำเรื่องเช่นนั้นลงไป ทำให้จิ่งขุยถูกกักบริเวณอยู่แต่ภายในจวน มีทหารจากในวังคอยเฝ้าเขาอยู่ตลอด" หยุนชางครุ่นคิดต่อไป "ทำอย่างไรจึงจะให้พวกเขาออกมาเองได้นะ?"
เฉี่ยนอินที่ยืนอยู่ข้างๆ นางนิ่งเงียบไม่กล้าพูดอะไรมาขัดจังหวะการใช้ความคิดของหยุนชาง สักพักหนึ่ง หยุนชางก็ยิ้มออกมา "คิดออกแล้ว ก็แค่จุดไฟเผาจวนจิ่งไปเลย"
เมื่อเฉี่ยนอินได้ฟังก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ นางเกิดความสงสัย "พระชายาเพคะ แม้จิ่งขุยจะถูกกักบริเวณอยู่ในนั้น แต่เขาก็เป็นถึงขุนนางใหญ่ที่ทรงอิทธิพล ฮ่องเต้ยังมิทรงปลดเขาออกจากตำแหน่ง หากว่าจุดไฟเผาจวนจิ่งแล้ว เกิดพลาดท่าทำจิ่งขุยตายขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะเพคะ?"
หยุนชางสะบัดเสียง "เจ้าเป็นห่วงจิ่งขุยมาหรือไง? คนที่คอยจับตาดูข้าอยู่ที่จวนแห่งนี้ เกินกว่าครึ่งหนึ่งเป็นคนที่จิ่งขุยส่งมา เขาไม่เชื่อว่าจู่ๆท่านอ๋องจะหายตัวไป คงคิดว่าท่านอ๋องคงจะซ่อนตัวอยู่กับพวกเรา ลูกสาวของเขาแม้จะเป็นหมากไร้ค่า แต่ก็ยังพอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง เขาคงจะคอยจับตาดู เพื่อหาคำตอบว่าท่านอ๋องนำตัวจิ่งเหวินซีไปขังไว้ที่ใด"
เฉี่ยนอินพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ตาลุกวาว "เอาอย่างนี้ไหมล่ะเพคะ พระชายาให้ทรงสั่งหม่อมฉันไปจัดการด้วยตัวเอง ตั้งแต่ที่หม่อมฉันเข้าวังมา เรื่องฆ่าคนเรื่องลอบวางเพลิงหม่อมฉันไม่เคยทำมาก่อนจริงๆเพคะ"
เมื่อหยุนชางได้ฟังเช่นนั้นก็อดขำไม่ได้ นางเขกหัวเฉี่ยนอินเบาๆ "เจ้านี่ก็พูดไปเรื่อย ข้าเองก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำอะไร เจ้ายังจะมาพูดเรื่องฆ่าคนเรื่องลอบวางเพลิงอยู่อีก"
ตกดึก เฉี่ยนอินก็ได้เห็นสายลับคนหนึ่งแอบเข้ามาพบ เป็นสายลับที่หยุนชางส่งไปตรวจดูสถานการณ์ที่จวนจิ่ง
"เจ้ามาได้อย่างไร? เคยห้ามไปแล้วนี่ว่าอย่าเข้าออกจวนโดยพลการ ประเดี๋ยวคนที่คอยจับตาดูเราอยู่จะรู้เรื่องเอาได้" เฉี่ยนอินตำหนิสายลับ
สายลับคนนั้นรีบกล่าวรายงาน "ด้านนอกจวนตอนนี้ไม่มีผู้ใดอยู่เลย พระชายา ไฟไหม้จวนจิ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง