หยุนชางฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ท้องฟ้าก็มืดสลัวลงเสียแล้ว หยุนชางหันมองซ้ายขวา มิรู้ว่าตอนนี้เป็นยามใดแล้ว หากแต่ได้กลิ่นยาจาง ๆ ลอยมาตามลม เกรงว่ากลิ่นคงลอยมาจากหม้อต้มยากระมัง
พลันได้ยินเสียงประตูถูกผลักเข้ามา "เอี๊ยด" หยุนชางพลันเอื้มมือเข้าไปใต้หมอนคลำหากริชโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นตึกตัก พลางได้ยินน้ำเสียงดีใจของหลิ่วหยินเฟิงดังเข้ามา "เจ้าตื่นแล้ว ?"
หยุนชางพลันตกตะลึง พร้อมหันไปมองเขา ที่เดินถือถ้วยยาเข้ามา มีรอยดำแต้มเป็นจุด ๆ อยู่บนเสื้อผ้าอาภรณ์ของเขา เกรงว่าคงจะเปื้อนตอนต้มยากระมัง
"ท่านต้มยาหรือ ? ผู้ติดตามของท่านเล่า ? "หยุนชางเมื่อเปิดปากพูด กลับรู้สึกเจ็บคอเป็นอย่างมาก น้ำเสียงแหบแห้งฟังไม่เป็นประโยค พร้อมถามว่า "เกิดอะไรขึ้นกับหม่อมฉัน ?"
หลิ่วหยินเฟิงพลางยื่นถ้วยยาส่งมาให้หยุนชาง พร้อมกระซิบเบา ๆ ว่า "ข้าถูกส่งขึ้นไปบนภูเขาเพื่อตามหาคน เจ้าต้องเย็นเข้าจึงมีอาการตัวร้อน เกรงว่าเจ้าคงหกล้มกระมัง ซี่โครงหักไปหนึ่งซี่ กินยาในตอนที่ยังร้อนอยู่เสีย"
หยุนชางรับยามา พร้อมตอบรับเสียงเบา หาคนงั้นหรือ เกรงว่ายังไม่มีข่าวคราวจากพวกเฉียนยินมากระมัง พร้อมเงยหน้ายกถ้วยชาดื่มจนหมด พร้อมถามว่า "ยังหาไม่เจองั้นหรือ ? "
หลิ่วหยินเฟิงหันมามองหยุนชางเพียงชั่วครู่ จึงตอบกลับว่า "ข้าพบศพสิบสามศพ เจ้าพกคนติดตามเจ้ามากี่คน ? ข้าได้ยินมาว่า ผู้ติดตามของท่านอ๋องล้วนแต่เป็นยอดคน บุคคลที่ต้องการฆ่าเจ้าเป็นผู้ใดกัน ที่เก่งกาจขนาดนี้ ?"
"เก่งกาจหรือ ?"หยุนชางพลันยิ้มออกมาอย่างเย็นชา เกือบจะทุบถ้วยชาที่อยู่ในมือทิ้งเสีย "เป็นเพียงแค่กลยุทธิ์ที่ชั่วช้าเท่านั้น หม่อมฉันไม่คิดว่า พวกเขาจะกล้าวางยาใส่ลำธารบนภูเขา เป็นหม่อมฉันที่ประมาทเลินเล่อไปเอง"
เป็นผู้ใดที่ลงมือนั้น ภายในใจของนางกำลังครุ่นคิด เกรงว่าเป็นผู้คนเหล่านั้นแน่ ทว่ามิรู้ว่าเป็นอ๋องเจ็ด หรือว่าฮองเฮา หรือว่าเสิ่นซู่เฟย
ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม นางจักมิปล่อยไว้แน่ จะต้องให้พวกเขาได้ชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป
"เจ้ามิได้ไปวิหารหานอวิ๋นหรอกหรือ ? " หลิ่วหยินเฟิงลอบมองสีหน้าของหยุนชาง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน หยุนชางชะงักไปเล็กน้อย พลางขมวดคิ้วขึ้นมา พร้อมจ้องมองหลิวหยินเฟิงราวกับตรวจสอบอะไรบางอย่าง
หลิ่วหยินเฟิงนิ่งเงียบไปชั่วครู่ พร้อมพูดขึ้นมาว่า "ข้ารับใช้ที่ทำการค้นหาบนภูเขานั้นนำสัมภาระกลับมา ข้าตรวจสอบดูแล้วข้างในล้วนแต่เต็มไปด้วยยาถอนพิษและยาล้างพิษต่าง ๆ หากไปวิหารหานอวิ๋นจริง จำเป็นจะต้องใช้ของเช่นนี้หรือ เจ้าจะเดินทางไปเผ่าหย่าใช่หรือไม่ ?"
หยุนชางพลางขมวดคิ้วมิได้เอ่ยพูดอันใดออกมา หลิ่วหยินเฟิงที่เดาทางออก พลางถอนหายใจออกมา "เมื่อวานนี้ ข้าฉุกคิดได้แล้ว. หากไปวิหารหานอวิ๋นจริง ๆ เหตุใดเจ้าจักแต่งตัวเช่นนี้กัน อีกทั้งยังรีบร้อนขี่ม้าออกไปอีก " เมื่อเงียบไปชั่วครู่ จึงพูดขึ้นมาอีกว่า "เจ้ามิควรไปที่นั่น ผู้คนทั้งหมดล้วนแต่กำลังจับจ้องมายังวังรุ่ยอ๋อง เจ้าและรุ่ยอ๋องมาถึงแคว้นเซี่ยได้ไม่นาน รุ่ยอ๋องแสดงออกกับชัดเจนถึงเพียงนั้น พวกเขาล้วนรู้หมดว่าเจ้าคือจุดอ่อนของรุ่ยอ๋อง ล้วนแต่อยากจะลงมือกับเจ้า เพื่อที่ต้องการจะควบคุมรุ่ยอ๋อง หากเจ้าจริงใจต่อรุ่ยอ๋องจริง ๆ เจ้ายิ่งต้องดูแลตนเองให้ดี"
หยุนชางก้มหัวลง แพขนตาสั่นระริกเล็กน้อย นางจักไม่รู้ข้อเท็จจริงเหล่านี้ได้อย่างไร หากแต่นางก็มิอยากทำตัวเป็นสตรีที่อ่อนแอหลบอยู่แต่หลังลั่วชิงเหยียน นางอยากจะเป็นสตรีที่ยืนอยู่ข้างเขา เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับเขา และคอยสนับสนุนเขาอยู่ข้าง ๆ เช่นนี้ แต่ดูเหมือนว่า นางกลับทำให้เขาต้องเหนื่อยเพราะนาง
หลิ่วหยินเฟิงเมื่อเห็นนางเป็นเช่นนี้ ภายในใจรู้สึกขมขื่นเป็นอย่างมาก เมื่อกำลังจะพูดปลอบใจนางนั้น พลันได้ยินน้ำเสียงรีบร้อนจากภายนอกดังเข้ามา ประตูพลันถูกเปิดออก หยุนชางเงยหน้าขึ้น พบกับผู้ติดตามของหลิ่วหยินเฟิงที่ยืนอยู่หน้าประตู ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ "นายท่าน. เจอแล้วขอรับ พบแม่นางเฉียนยินแล้ว"
หยุนชางพลันตกตะลึง ร่างกายแข็งทื่อ เพียงชั่วครู่ จึงพลิกตัวลงจากเตียง พร้อมวิ่งออกไปด้านนอก "เฉียนยินอยู่ที่ใด ? "เพียงก้าวขาได้เพียงสองก้าว พลันล้มลงกับพื้น ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาทันที พร้อมคิดถึงคำพูดของหลิ่วหยินเฟิงเมื่อครู่ เหมือนว่านางจะซี่โครงหัก ?
หลิ่วหยินเฟิงรีบร้อนมาพยุงหยุนชางลุกขึ้นมา "เจ้ามิต้องรีบร้อน " เมื่อพูดจบพลางหันไปหาผู้ติดตามว่า "แม่นางเฉียนยินเป็นเช่นไร ? ตอนนี้อยู่ที่ใดแล้ว ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง