กว่าหยุนชางจะตื่นก็เป็นเวลาบ่ายของวันถัดมา เมื่อนางลืมตาขึ้นมาก็พบว่าลั่วชิงเหยียนก็ยังนอนลืมตาอยู่ข้างๆ เขายังไม่ลุกจากเตียงเช่นเดียวกัน เมื่อเขาเห็นหยุนชางตื่นแล้ว ก็คว้าตัวนางไปโอบกอด แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน "วันนี้เจ้าจะต้องไปเข้าร่วมงานเลี้ยงในวังพร้อมกับหวังจิ้นฮวนใช่ไหม?"
หยุนชางยังคงสะลึมสะลือเล็กน้อย นางมองหน้าลั่วชิงเหยียน "งานเลี้ยง? งานเลี้ยงอะไรเพคะ?"
เมื่อถามเช่นนั้นออกไปทำให้นางเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาทันที นางพยักหน้าแล้วตอบเขาว่า "ใช่เพคะ หม่อมฉันกับหวังจิ้นฮวนปลอมตัวเป็นคณะทูตจากแคว้นหนิง เซี่ยหวนอวี่จึงจัดงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูต หม่อมฉันต้องไปเข้าร่วมเพคะ"
ลั่วชิงเหยียนพยักหน้า "เช่นนั้นข้าจะไปกับพวกเจ้าด้วย ให้อยู่ที่นี่ก็ไม่รู้จะทำอะไร จะกลับจวนรุ่ยอ๋องในตอนนี้ก็ยังกลับไปไม่ได้"
"เพคะ?" หยุนชางฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เมื่อนางได้ฟังลั่วชิงเหยียนพูดดังนั้นแล้ว นางก็ได้ถามเขาว่า "ที่ท่านด่วนกลับมายังเมืองจิ่นเช่นนี้ ท่านไม่ได้มีธุระอะไรต้องมาจัดการหรอกหรือเพคะ? เรื่องของชาวหย่ายังสะสางไม่แล้วเสร็จเลย ฮ่องเต้ก็ยังมิได้ทรงรับสั่งเรียกตัวท่านกลับมายังเมืองจิ่น แล้วท่านกลับมาเพื่ออะไรหรือเพคะ?"
ลั่วชิงเหยียนได้ฟังก็ยิ้มออกมา เขาปล่อยมือที่โอบกอดนางเอาไว้ แล้วเอื้อมหยิบเสื้อผ้าที่วางพาดไว้บนเก้าอี้ตรงหัวนอนมาสวม แล้วจึงหันมาดูหยุนชางพูดกับเขา แต่เขากลับไม่ได้ตอบคำถามของหยุนชาง ได้แต่พูดว่า "ยังไม่ลุกอีก? นี่ก็ใกล้เวลาที่ต้องเข้าไปในวังแล้วนะ"
หยุนชางถอนหายใจ นางอยากลุก แต่ก็ลุกไม่ไหว ต้องกลับไปล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
เมื่อลั่วชิงเหยียนเห็นดังนั้นแล้ว เขาเลิกคิ้ว แล้วสอดมือเข้าไปใต้ผ้าห่ม เขาหยิกไปที่เอวของหยุนชาง น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยอารมณ์เย้าหยอก "ว่าอย่างไร? เป็นไงล่ะ? เจ็บเอวมากเลยใช่ไหมล่ะ?"
หยุนชางพยักหน้า นางทำปากจู๋ นานๆทีนางจึงจะแสดงท่าทางออดอ้อนเช่นนี้ออกมา "ก็ใช่น่ะสิเพคะ แค่ขยับนิดเดียวก็เหมือนเอวจะขาดออกเป็นสองท่อนเลยเพคะ"
ลั่วชิงเหยียนเลิกคิ้ว แล้วช่วยหยุนชางนวดอยู่ครู่หนึ่ง ในขณะนั้นเอง เขาก็ได้กระซิบที่ข้างหูของหยุนชางว่า "ยังเจ็บอยู่อีกหรือ เมื่อคืนนี้เพราะข้าเห็นว่าวันนี้เจ้ามีธุระสำคัญที่ต้องทำ ก็เลยเล่นกับเจ้าได้ไม่เต็มที่ หากวันนี้เจ้าไม่ต้องไปเข้าร่วมงานเลี้ยงในวังแล้วล่ะก็ ป่านนี้เจ้าก็คงจะยังไม่ได้นอนหรอกนะรู้ไหม"
หยุนชางได้ยินคำพูดอ้อมๆของเขาเช่นนั้นแล้วก็ถึงกับหน้าแดง นางจ้องมองลั่วชิงเหยียน ใบหน้าของนางเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อนึกไปถึงครั้งแรกของพวกเขา ลั่วชิงเหยียนเหมือนจะไม่ค่อยประสีประสาเท่าใดนัก แต่นี่ผ่านมาได้ไม่ถึงครึ่งปี เขากลับ...ร้ายกาจ...ขึ้นมาเยอะเลย
แล้วนางก็เห็นลั่วชิงเหยียนหัวเราะออกมา เขาจ้องมองหยุนชาง "แต่ก็ไม่เป็นไรนะ ข้าเคยได้ยินมาว่า เรื่องแบบนี้ ยิ่งทำบ่อยๆประเดี๋ยวก็จะค่อยๆชำนาญ สงสัยพวกเราจะทำน้อยไปหน่อย เห็นทีว่าข้าจะต้องพยายามมากขึ้นอีกนิดเสียแล้ว"
หยุนชางก้มหน้า นางไม่กล้าที่จะสบตาลั่วชิงเหยียน นางมุดหน้าลงไปใต้ผ้าห่มไม่ยอมพูดจา มีแต่ใบหูที่โผล่ออกมาให้เห็นว่าตอนนี้นางกำลังรู้สึกอย่างไร หูทั้งสองข้างแดงระเรื่อ มิหนำซ้ำยังร้อนผ่าวอีกด้วย
ลั่วชิงเหยียนเห็นอาการของนางแล้วก็อมยิ้ม แววตาของเขาดูอบอุ่น สักพักก็พูดว่า "เอาล่ะ ต้องลุกจริงๆแล้วนะ ตอนนี้เจ้าเป็นทูตจากแคว้นหนิง หากไปเข้าร่วมงานเลี้ยงในวังสายล่ะก็จะดูไม่ดีเอาได้ ได้ยินว่าวันนั้นหวังจิ้นฮวนพูดจาให้เซี่ยหวนอวี่ไม่พอใจ ถ้าถูกคนจับตัวไปล่ะก็......"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง