เมื่อเดินออกมานอกประตู หยุนชางพลันถูกขวางเอาไว้ เป็นลั่วชิงเหยียนที่จัดองครักษ์เงาให้มาอยู่ข้างกายของนาง "หวางเฟย ก่อนท่านอ๋องจะออกไปมีรับสั่งไว้ว่า หากหวางเฟยกลับมาที่จวนเมื่อใดทางที่ดีหวางเฟยอย่าได้ออกไปไหน ตอนนี้สถานการณ์ภายในเมืองหลวงมิสู้ดีนัก ท่านอ๋องเกรงว่า หวางเฟยจะมีอันตรายได้พะยะค่ะ. ขอความร่วมมือหวางเฟยกลับเข้าไปในจวน"
หยุนชางพลันตกตะลึงไปชั่วครู่ เมื่อครุ่นคิดอยู่นาง จึงจำได้ว่าลั่วชิงเหยียนเคยส่งองครักษ์เงามาติดตามนางอยู่เช่นกัน มิคิดว่าในตอนนี้นางจะถูกขวางไว้ได้อีกแล้ว หยุนชางพลันถอนหายใจออกมา ภายใจรู้สึกร้อนรนเป็นอย่างมาก ทว่า ตนเองกลับไม่สามารถทำอันใดได้ พลางขมวดคิ้วลงและเดินกลับเข้าไปในจวน
เมื่อกลับเข้ามานั่งอยู่ภายในห้องแล้ว จิตใจก็รู้สึกไม่สงบขึ้นมา หากองค์หญิงใหญ่ลักพาตัวเซี่ยหวนอวี่ไปจริง ๆ นั้นหมายความว่านางจะไม่สามารถถอยกลับได้อีก ตอนนี้มีเพียงสองทางเลือก หนึ่งคือการควบคุมโอรสสวรรค์บัญชาการเจ้าผู้ครองแคว้น หากแต่แผนการนี้มีควมเสี่ยงสูงมาก นางจักต้องคอยควบคุมผู้คนในราชสำนักไม่ให้ทำตัวทะเยอยาน พร้อมทั้งประกาศบอกว่าเซี่ยหวนอวี่สิ้นพระชนม์แล้วแต่งตั้งตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดินีแทน แม้ว่าองค์หญิงใหญ่จะเป็นสตรี ขัดกับขนบธรรมเนียมประเพณีการแต่งตั้งจักรพรรดิในแคว้น หากว่าถูกผู้คนจับได้เมื่อไร เกรงว่าเหตุการณ์จะแย่ลงเป็นแน่
สอง คือหาองค์ชายท่านหนึ่งขึ้นมาเป็นจักรพรรดิแล้วคอยควบคุมเขาให้อยู่ในกำมือ หรือ ฆ่าพวกเขาให้หมดเสีย แล้วจึงสถาปณาตัวเองขึ้นเป็นจักรพรรดินี แผนการนี้ แม้ว่าจะยากไปบ้าง ทว่า กลับปลอดภัยเป็นอย่างมาก ตอนนี้เซี่ยหวนอวี่อยู่ในกำมือขององค์หญิงใหญ่แล้ว ฉีอ๋องก็อยู่ที่ฉีโจวดินแดนที่ห่างไกลจึงไม่ได้รับอันตรายมากนัก เป้าหมายต่อไปขององค์หญิงใหญ่เกรงว่าจะเป็น อ๋องเจ็ดหรือลั่วชิงเหยียนกระมัง
หยุนชางพลันเดินไปเดินมาภายในห้อง เมื่อหันกลับมา จึงเห็นเฉี่ยนจั๋วกับเฉี่ยวหลิ่วยืนอยู่ภายในห้องเสียแล้ว นางจึงสั่งว่า "พวกเจ้ามิต้องอยู่คอยอารักข้าหรอก ไปช่วยท่านอ๋องเสีย"
เฉี่ยนหลิ่วและเฉี่ยนจั๋วมองหน้ากัน เป็นเฉี่ยนหลิ่วที่ก้มหัวลงกล่าวว่า "ทว่า ตอนนี้ท่านอ๋องอยู่ในวัง ตอนนี้พวกหม่อมฉันมิสามารถเข้าไปได้เพคะ"
หยุนชางพลันชะงักไปชั่วครู่ พร้อมถอนหายใจออกมา ภายในใจจึงค่อย ๆ สงบลง นางเป็นอะไรไปกันแน่. เมื่อพบเจอเรื่องที่เกี่ยวข้องกับลั่วชิงเหยียนนางรู้สึกร้อนรนเสียไปหมด หยุนชางจึงค่อย ๆ เดินไปนั่งลงบนตั่งนิ่ม ๆ พร้อมครุ่นคิดกับตนเองอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมพูดออกมานิ่ง ๆว่า "ไปรินชามาให้ข้าหน่อยเถิด"
เฉี่ยนหลิ่วลอบมองใบหน้าของหยุนชาง พร้อมทั้งรับคำสั่งด้วยน้ำเสียงเบา ๆ แล้วจึงถอยออกไป
หยุนชางนั่งพึงบนตั่ง พลางคิดทบทวนทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง เกรงว่า วันที่เข้าวังในวันนั้น องค์หญิงใหญ่คงทำการวางแผนอย่างเงียบ ๆแล้ว. แม้ว่าเซี่ยหวนอวี่จะหายตัวภายในพระราชวัง อีกทั้งยังเป็นตำหนักหยุนชีอีก อาจเป็นไปได้ว่าองค์หญิงจักต้องซ่อนตัวอยู่ในตำหนักหยุนชีเป็นแน่
"เฉี่ยนจั๋ว เจ้าให้คนที่มีลักษณะเฉียบแหลมสักสองสามคน แฝงตัวเข้าไปส่งข่าวให้หนิงเฉี่ยนที ให้นางจัดหน่วยเงาที่อยู่ในวังไปลอบสังเกตุการณ์ว่า ช่วงนี้ในตำหนักหยุนชีมีคนแปลกหน้าเข้าออกบ้างหรือไม่ หากว่ามี ช่วงนี้นางได้กระทำอันใดบ้าง เมื่อสืบหาข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ค่อยส่งข่าวกลับมาหาข้า " หยุนชางกระซิบออกคำสั่ง
เฉี่ยนจั๋วรับคำพร้อมถอยกายออกไป
เฉี่ยนหลิ่วนำกาน้ำชาเดินเข้ามาในห้อง หยุนชางจึงให้นางนำถ้วยชาวางไปบนโต๊ะ พร้อมเรียกให้นางเข้าไปในห้องตำราด้วยกัน หยุนชางหยิบแผนที่ของเมืองจิ่นออกมาจากชั้นตำรา พลางขมวดคิ้วลงเล็กน้อย พร้อมทั้งมองดูแผนที่อย่างระเอียด ภายในใจครุ่นคิดว่า หากนางเป็นองค์หญิงใหญ่ นางจะลักพาตัวเซี่ยหวนอวี่และหลิวเหวินอันไปซ่อนไว้ที่ใดกัน ?
หยุนชางวาดวงกลมลงบนแผนที่ไปสองสามจุด ที่แรกเป็นวังขององค์หญิงใหญ่ องค์หญิงใหญ่นางมีใจที่ต้องการจะครอบครองบัลลังค์ อีกทั้งเรื่องนี้มิได้เตรียมการได้เพียงข้าวัน หากแต่เป็นเรื่องของหนึ่งปีหรือสองปี เกรงว่าในวังขององค์หญิงใหญ่นั้น คงจะมีห้องลับมากมาย หากจะทำการซ่อนตัวก็คงไม่ยากเกินความสามรถ
ที่สอง ในพระราชวัง มีคำกล่าวไว้ว่า ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด หลังจากที่เซี่ยหวนอวี่หายตัวไปแล้ว ปฏิกิริยาอย่างแรกของฮองเฮาคือทำการค้นหาภายในพระราชวัง ด้วยเหตุนี้ เมื่อครั้งแรกที่ฮองเฮาสั่งให้คนค้นหาภายในวังอย่างละเอียด ถึงจะรู้ว่าเซี่ยหวนอวี่มิได้อยู่ในพระราชวังแล้ว
ที่สาม หยุนชางพลันหยุดมือลงไปที่จวนตระกูลหลิ่ว พร้อมหยดน้ำหมึกลงไป มิรู้ว่าทำไม นางถึงรู้สึกว่า วันที่ฮูหยินหลิ่วกระทำตัวใส่องค์หญิงใหญ่นั้น ราวกับเป็นการแสดงฉากหนึ่งเสียมากกว่า เนื่องจากวันนั้นฮูหยินหลิ่วได้ทำการแสดงทั้งการขับร้องเขียนกลอนได้อย่างยอดเยี่ยม จึงทำให้ผู้คนคิดว่าตระกูลหลิ่วได้ทำการฉีกหน้าองค์หญิงใหญ่เสียแล้ว
หยุนชางพลันจรดพู่กันลงไป พร้อมทั้งค่อย ๆ วาดวงกลมล้อมรอบจวนตระกูลหลิ่ว
"หวางเฟย "เฉี่ยนจั๋วรีบร้อนวิ่งเข้ามา เมื่อเดินมาถึงข้างกายของหยุนชาง พร้อมเล่าว่า "ซูไท่เว่ย หลิ่วซือถู และฮวากั๋วกงถูกเรียกให้เข้าวังแล้วเพคะ"
หยุนชางที่มือถือพู่กันอยู่นั้น พลันชะงักลง พลางวางพู่กันลงที่แท่นวาง พร้อมจ้องมองไปยังแผนที่ที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยความเงียบงัน พลางพึมพำออกมาว่า "ซูฉี หลิ่วจิ้น ฮวากั๋วกง "
พวกเขาทั้งสาม เป็นถึงหัวหน้านายพลกุมกองทัพองครักษ์ทั้งหลาย การถูกเรียกตัวเข้าวังมิได้แปลกอันใด ทว่า บางทีอาจจะเป็นเพราะกองกำลังที่พวกเขามีอยู่ในมือก็เป็นได้ แม้ว่าลั่วชิงเหยียนจะมีป้ายประจำตัวอยู่ในมือ ทว่าสถานการณ์เช่นนี้ยังไม่สามารถนำมันออกมาได้ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเซี่ยหวนอวี่จริง จึงจำเป็นต้องใช้กองกำลังองครักษ์ในการค้นหาถึงจะถูก
หากทำการเคลื่อนย้ายกองกำลังองครักษ์แล้ว เกรงว่าข่าวคราวเรื่องเซี่ยวหวนอวี่เกิดอุบัติเหตุจะหยุดไว้ไม่ได้ เมื่อข่าวหลุดออกไปแล้วละก็ ทั่วแคว้นคงจะเกิดการระส่ำระส่ายเป็แน่
หยุนชางพลันลุกขึ้นยืน พร้อมทั้งหันกายมาสั่งเฉี่ยนหลิ่วว่า "เจ้าหาพื้นที่ใกล้เคียงของสำนักเชียนโฝในแผนที่จากชั้นตำรามาให้ข้า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง