สีหน้าของเฉี่ยนจั๋วแย่ลงเล็กน้อยและส่ายหัว " ทหารมิได้ผิดกระไรเพคะ หลิ่วฉู่ฉู่ฆ่าตัวตายเพคะ หม่อมฉันมิเคยสังเกตด้วยซ้ำ ว่ามีเศษทองอยู่ในกระเป๋าเงินที่ของหลิ่วฉู่ฉู่ หลิ่วฉู่ฉู่เสียชีวิตจากการกลืนทองเข้าไปเพคะ เมื่อวานตอนที่ทหารไปส่งอาหารให้หลิ่วฉู่ฉู่ นางยังสบายดี แต่เมื่อสักครู่ตอนที่หม่อมฉันสั่งให้คนไปส่งอาหารเช้าให้นาง ก็พบว่านางเสียชีวิตแล้วเพคะ"
"เหตุใดนางจึงฆ่าตัวตายหรือ?" หยุนชางขมวดคิ้วไม่เข้าใจ เมื่อวานตอนที่คุยกับหลิ่วฉู่ฉู่ หลิ่วฉู่ฉู่ ยังขอร้องให้พวกเขาส่งข่าวออกไปว่านางยังมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อคืนกลับกลืนทองฆ่าตัวตาย เพราะเหตุใดกันนะ?
"พระชายาเพคะ ตอนนี้เราควรทำอย่างไรเพคะ? เราจะจัดการกับศพของหลิ่วฉู่ฉู่อย่างไรดีเพคะ?" เฉี่ยนจั๋วถามด้วยเสียงเบาๆ
หยุนชางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและกำลังจะเอ่ยปาก แต่เห็นพ่อบ้านเดินเข้ามา " พระชายาขอรับ อ๋องเจ็ดและพระชายา นายท่านรองหลิ่วและฮูหยิน คุณชายหลิ่ว ใต้เท้าหลี่รองเจ้ากรมอาญา ใต้เท้าเฉี่ยนรองเจ้ากรมมหาดไทย มาอวยพรปีใหม่ให้กับท่านอ๋องและพระชายาขอรับ"
ลั่วชิงเหยียนหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินเช่นนี้ "คนเหล่านี้มาพร้อมกัน ทำให้รู้สึกเหมือนว่ามิได้มาอวยพรปีใหม่ แต่มาหาเรื่องเสียมากกว่า" ขณะที่พูด ก็สั่งกับเฉี่ยนจั๋วว่า "หาวิธีจัดการศพหลิ่วฉู่ฉู่เสีย จะต้องเร็วและเรียบร้อยหมดจด"
เฉี่ยนจั๋วตอบรับและกำลังจะออกไป แต่หยุนชางกลับหยุดนางเอาไว้ ให้นางเอาหูแนบเข้ามาที่ตน หยุนชางจึงกล่าวเบาๆ ว่า "เจ้ากลับไปที่ลานบ้านก่อน แล้วนำของที่อยู่ในกล่องที่เราเอามาจากแคว้นหนิง............."
เมื่อเฉี่ยนจั๋วฟังถึงข้างหลัง ดวงตานางก็เป็นประกาย จารีบพยักหน้าและยืนตรง จากนั้นก็เดินไปที่ห้องโถงใหญ่อย่างเร่งรับ
หยุนชางนึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงรีบตะโกนว่า "ระวังหน่อย อย่าให้ใครพบเห็น"
เฉี่ยนจั๋วตอบอย่างรวดเร็ว หยุนชางจึงจะหันไปสั่งให้พ่อบ้านพาคนที่มาอวยพรปีใหม่ไปที่ห้องรับรอง และให้สาวใช้เก็บอาหารเช้ากลับไป เตรียมชาให้เรียบร้อย
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงของพ่อบ้านก็ดังขึ้นที่หน้าประตู "อ๋องเจ็ด พระชายาอ๋องเจ็ด นายท่านรองหลิ่ว พระชายานายท่านรองหลิ่ว ใต้เท้าหลี่ ใต้เท้าเฉียน คุณชายหลิ่ว เชิญด้านในขอรับทุกท่าน"
จากนั้นก็เห็นอ๋องเจ็ดและฮวาอวี้ถงและคนมากมายเดินตามหลังเข้ามา ทุกคนเดินตรงไปที่ห้องรับรองพร้อมกัน จากนั้นก็คารวะต่อลั่วชิงเหยียนและหยุนชาง "ท่านรุ่ยอ๋อง พระชายารุ่ยอ๋อง สวัสดีวันปีใหม่"
"สวัสดีปีใหม่" ลั่วชิงเหยียนและหยุนชางตอบกลับด้วยรอยยิ้ม และให้พวกเขานั่งลงตามสบาย
ลั่วชิงเหยียนหันไปมองอ๋องเจ็ด และถามด้วยความกังวลว่า " ร่างกายของเจ้าดีขึ้นบ้างหรือยัง? ดูสีหน้าของเจ้ายังคงขาวซีดอยู่เล็กน้อยนะ............." จากนั้นก็หันไปหาหยุนชางและกล่าวว่า " ว่าแต่ คราวที่แล้วเมื่อตอนอยู่ที่จวนอ๋องเจ็ด พระราชินีให้เจ้าจับชีพจรให้เจ้าชี เจ้าพบหรือไม่ว่าเจ้าชีเป็นโรคกระไร?"
ลั่วชิงเหยียนกล่าวจบก็หันไปมองอ๋องเจ็ดอีกครั้ง "ทักษะทางการรักษาของพี่สะใภ้เจ้าฝึกมาจากท่านเจ้าอาวาสอู๋น่า ทักษะการรักษาของแคว้นเซี่ยและแคว้นหนิงนั้นต่างกัน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะได้ยินมาว่าเหล่าหมอที่มีชื่อเสียงได้ตรวจให้เจ้าแล้วต่างก็บอกว่าไม่มีทางรักษาให้หายได้ ไม่แน่แคว้นหนิงอาจจะมีวิธีการรักษาก็เป็นได้"
หยุนชางยิ้มและตอบกลับ "ครั้งที่แล้วตอนอยู่จวนท่านอ๋องมิทันได้จับชีพจรให้ท่านอ๋องเจ็ด อ๋องเจ็ดก็ฟื้นขึ้นมาทันที หากว่าอ๋องเจ็ดมิรังเกียจทักษะของข้า เช่นนั้นก็ลองดูไม่เสียหายหรอก"
อ๋องเจ็ดไม่มีโอกาสได้กล่าวกระไรเลย จึงรีบกล่าวว่า "ร่างกายของข้าก็เป็นเช่นนี้แหละ คงไม่มีทางแก้แล้วล่ะ" แผนยาที่ใช้ปัจจุบันก็รู้สึกว่าเหมือนจะได้ผลอยู่บ้าง หมอหลวงกล่าวว่าปรับเปลี่ยนวิธีการรักษาไปมิได้ ฉะนั้นจึงไม่ขอรบกวนพี่สะใภ้แล้วขอรับ"
หยุนชางยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้ จากนั้นจึงพยักหน้าและกล่าวว่า "มีคำกล่าวเช่นนี้อยู่จริง ยาชุดหนึ่งหากใช้จนชินแล้วก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ช่างมันเถิด"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง