ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 621

หยุนชางพลันเลิกคิ้วขึ้น. พลางหันไปมองชายหนุ่มที่ยืนขมวดคิ้วอยู่ข้างกาย พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "เป็นคำพูดที่ใหญ่โตเสียจริง. ท่านอ๋อง คิดเห็นเช่นไรเพคะ ?"

ลั่วชิงเหยียนพลันหันหน้าไปมองหยุนชาง เพียงครู่หนึ่งจึงหันหลับมา พร้อมส่งยิ้มไปให้เฉี่ยนจั๋วว่า "เฉี่ยนจั๋ว เจ้าไประบายอารมณ์แทนนายของเจ้าเสีย จะจัดการทุบตีสตรีวาจาสามหาวเช่นไรก็ได้ วันนี้เปิ่นหวางสนับสนุนเจ้าเต็มที่"

เฉี่ยนจั๋วได้ยินเช่นนั้น แววตาพลันฉายแววประกายวิบวับ พร้อมหัวเราคิกคักออกมาว่า "ท่าอ๋องต้องรักษาคำพูดนะเพคะ อย่าได้เพียงส่งนู๋ปี๋ออกไปผีเป็นตัวตายตัวแทน" เมื่อพูดจบพลันเหลือบมองหยุนชางเล็กน้อย "นู๋ปี๋เป็นสาวใช้ของหวางเฟย หวางเฟยจักต้องเป็นผู้สนับสนุนนู๋ปี๋ถึงจะถูก. หากว่าท่านอ๋องกลับคำเมื่อใด นู๋ปี๋ไม่สามารถรับภาระไว้ได้นะเพคะ "

หยุนชางยิ้มพร้อมหันกลับไปมองลั่วชิงเหยียน "กล่าวอะไรไร้สาระจริงเชียว แม้ในป่าเช่นนี้ก็ยังมีคนกล่าววาจาไร้มารยาทเช่นนี้อยู่อีก"

"ผู้ใดกัน ? ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดเปิ่นหวางก็หากลัวไม่. หากกล้าพูดคำพูดที่รุนแรงเช่นนี้ออกมาแล้ว ย่อมต้องยอมรับผลที่ตามมาได้ เฉี่ยนจั๋ว เจ้าไปเสีย วันนี้เปิ่นหวางจะเป็นผู้สนับสนุมพร้อมทั้งรับผิดชอบต่อการกระทำของเจ้าเอง" ลั่วชิงเหยียนพลันโอบรั้งเอวของหยุนชางไว้ แม้ว่าใบหน้าจะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม. หากแต่รอยยิ้มนั้นไม่ได้ปรากฏอยู่บนนัยน์ตาของเขา

เฉี่ยนจั๋วรับคำสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เพียงวิ่งไปสองก้าวก็เข้าไปในป่าไผ่แล้ว

เฉี่ยนจั๋วมีนิสัยหุนหันพลันแล่น. ยิ่งตอนนี้มีผู้สนับสนุนด้วยแล้ว เกรงว่านางจะทำอะไรตามอำเภอใจได้ หยุนชางกังวลว่า เฉี่ยนจั๋วจะไปแตะต้องผู้ที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งวุ่นวายด้วยได้ จึงรีบร้อนตามนางเข้าไป

หากแต่หยุนชางมีอีกร่างหนึ่งภายในท้อง จึงไม่กล้ารีบร้อนจนเกินเหตุ ยังมิทันจะได้เดินเข้าไปป่าไผ่นั้น พลันได้ยินเสียงของเฉี่ยนจั๋วดังออกมาด้วยน้ำเสียงดูถูกว่า "เป็นผู้ใดกัน ที่ไม่รู้จักดีชั่ว ถึงคิดว่าตนเองสวยสง่าราวกับเทพธิดาหรือเก่งกล้าสามารถมาจากที่ใด ถึงได้หน้าไม่อายเช่นนี้ อะไรนะ พระชายารุ๋ยอ่องไม่สามารถเทียบเท่าข้าได้ ยามเจ้าปวดเบาไม่รู้จักตั้งใจส่องมองตนเองหน่อยหรือ ลองส่องดูตนเองเสียบ้างว่ามีคุณธรรมในใจบ้างหรือไม่ ถึงได้กล้าพูดวาจาสามหาวออกมาเช่นนี้ได้ "

ฝีเท้าของหยุนชางพลันหยุดชะงักไป หน้าพลันเกือบล้มคะมำ โชคดีที่ข้างกายของนางยังมีลั่วชิงเหยียนอยู่ เขาจึงสามารถพยุงนางไว้ได้ทัน จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

ใบหน้าของหยุนชางพลันเปื้อนไปด้วยรอยแดงพาดผ่าน เพียงชั่วครู่จึงเอ่ยออกมาว่า "หม่อมฉันไม่เคยสอนนางให้ด่าใครด้วยประโยคเช่นนี้นะเพคะ"

ฉินยีและเฉี่ยนหลิ่วใบหน้าราวกลับกำลังอดกลั้นอะไรบางอย่าง

ลั่วชิงเหยียนพลันพยักหน้าเบา ๆ "อื้ม ข้าเชื่อว่าเจ้ามิได้สอนนาง เกรงว่าหากเรียกให้เจ้ามาด่าเองเช่นนี้ ก็คงด่าไม่ได้ประโยคที่สร้างสรรค์เช่นนาง"

นางที่ยังประหลาดใจกับคำด่าของเฉี่ยนจั๋วนั้น พลันได้ยินเสียงของสตรีพูดขึ้นมาว่า ราวกับว่านางกรุ่นโกรธในคำด่าของเฉี่ยนจั๋ว เสียงของสตรีนางนั้นพลันสั่นเครือเล็กน้อย "นางบ้า เจ้าวิ่งมาจากที่ใดกัน ถึงกล้ามาพูดจาไร้สาระต่อหน้าข้าได้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าคือผู้ใด ? "

เมื่อหยุนชางได้ยินสตรีนางนั้นพูดขึ้นจึงตั้งใจฟังอยู่ครู่หนึ่ง นางเริ่มอยากรู้เสียแล้ว ว่าสตรีนางนี้แท้จริงแล้วคือผู้ใดถึงได้กล้าเอ่ยวาจาเช่นนั้นออกมาได้

"โอ้ ? " เฉี่ยนจั๋วพลันถอนหายใจอย่างเย็นชาออกมา "เช่นนั้น เจ้าลองป่าวประกาศออกมาเสีย ว่าจะสามารถทำให้ข้าตกใจได้ถึงเพียงใด"

สตรีนางนั้นพลันพูดออกมาอย่างโกธรเคืองว่า "ข้าผู้นี้ เป็นบุตรสาวของจวนมหาเศรษฐีที่รำ่รวยมี่สุดในเมืองจิ่น พี่สาวของข้าเป็นถึงสนมนางในของฝ่าบาท สาวบ้านป่าเช่นเจ้า กล้ามาชี้นิ้วต่อหน้าข้าเช่นนี้ ดูเสียว่าข้าจะกล้าตบปากเจ้าหรือไม่"

หยุนชางพลันเลิกคิ้วขึ้น เศรษฐีในเมืองจิ่น หวังฉงเหวิน ? ที่แท้เป็นบุตรีของหวังฉงเหวินหรือนี่

วรยุทธ์ของเฉี่ยนจั๋วมิได้ด้อย หยุนชางจึงมิได้กังวลว่าเฉี่ยนจั๋วจะพ่ายแพ้ หลังจากนั้นไม่นานพลันได้ยินน้ำเสียงที่หนักแน่นพร้อมทั้งเสียงอุทานของกลุ่มสตรีด้านหลัง

"เจ้าอยากตบปากข้าหรือ ? เจ้าเข้ามาสิ ? ยืนขึ้นมา เจ้าจะหมอบอยู่ที่พื้นไปไย ?" น้ำเสียงของเฉี่ยนจั๋วเจือไปด้วยความเยาะเย้ย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง