ฉินยีรับคำ แล้วโยนกระดาษลงไปในเตา
"เมื่อครู่นี้ผู้ส่งข่าวจากในวังได้เล่าว่า หลังจากเสร็จจากพระราชพิธีภาคเช้าแล้ว ฮุ่ยไฉเหรินก็ได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นเป็นจาวอี๋เพคะ" เฉี่ยนจั๋วเอ่ย
หยุนชางพยักหน้า "เกรงว่าฮองเฮาจะทรงพระพิโรธเพราะไม่อาจขัดขวางการเลื่อนขั้นของฮุ่ยไฉเหรินได้ ก็เลยทรงเรียกหาคนทั้งห้านั่น"
"ไปบอกให้ชิวมามาให้เข้าไปดูในห้องเก็บสมบัติ หาของที่เหมาะสมมาสักชิ้น ส่งเข้าไปในวัง มอบให้กับฮุ่ยไฉเหริน บอกนางว่าข้าขอแสดงความยินดีที่นางได้เลื่อนขั้น" หยุนชางลุกขึ้นยืน นางรู้สึกปวดเมื่อยบริเวณเอวเล็กน้อย "ออกไปเดินข้างนอกดีกว่า นอนมากไปก็เริ่มเมื่อยเสียแล้ว"
ฉินยีพยุงหยุนชางเดินออกไปข้างนอก แล้วพูดขึ้นมาเบาๆว่า "ทำแบบนี้จะเหมาะสมหรือเพคะ เมื่อสนมและนางในชั้นสูงคนอื่นๆได้เลื่อนขั้นหรือว่าถึงวันเกิดของพวกนาง พวกเราก็ไม่ค่อยได้มอบของกำนัลไปให้ แต่นี่เป็นเพียงไฉเหรินเล็กๆ แม้จะได้เลื่อนขั้น ก็เป็นแค่เพียงจาวอี๋เท่านั้น"
หยุนชางเดินเท้าสะเอวออกไปด้านนอก นางยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "ก็เพราะเหตุนี้เราจึงต้องส่งของกำนัลไปให้ ฮองเฮาทรงทราบว่าหลินโยวหรานเป็นคนของข้า ข้าไม่จำเป็นจะต้องปิดบัง ส่วนคนอื่นๆที่ยังไม่รู้ ก็ให้พวกนางได้รู้กันตอนนี้ไปเลย"
"ฮุ่ยไฉเหรินกำลังตั้งครรภ์ให้กับฮ่องเต้ เพียงเท่านี้ก็ตกเป็นเป้าสายตาใครต่อใครแล้ว หากพระชายาทรงไปข้องเกี่ยวกับนางในเวลานี้ เกรงว่า......" ฉินยีรู้สึกเป็นกังวล
"การที่หลินโยวหรานได้ตั้งครรภ์ให้กับฮ่องเต้ ก็เท่ากับว่านางได้กลายเป็นศัตรูของสตรีวังหลัง แม้คนบางคนจะทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกนางรู้สึกยินดี การที่ข้าออกตัวเช่นนี้ ก็เพื่อทำให้พวกผู้หญิงที่ไร้หัวคิดพวกนั้นได้เห็นว่า ผู้ที่คอยหนุนหลังหลินโยวหรานอยู่นั้นคือผู้ใด" หยุนชางเดินไปที่ใต้ต้นเหมย นางเด็ดดอกเหมยขึ้นมาดม แล้วยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
หยุนชางเดินเล่นอยู่ในเขตจวนสักพัก แล้วนางก็เดินไปทางลานรับแขก ในขณะที่เดินผ่านลานรับแขก นางก็ได้เห็นคนเฝ้าประตูกำลังดุใครบางคน "ออกไปเดี๋ยวนี้ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ป้าจะมาเดินเพ่นพ่านได้ ถ้ายังไม่ออกไป ข้าจะไปเอาไม้มาไล่ตี......"
หยุนชางหยุดชะงัก แล้วเดินไปที่ประตูจวนด้วยความสงสัย "มีอะไรหรือ? เจ้าพูดอยู่กับใครน่ะ?"
เมื่อคนเฝ้าประตูได้ยินเสียง เขาก็หันมาแล้วได้พบกับหยุนชาง เขารีบทำการคารวะ "หญิงขอทานแก่ๆพ่ะย่ะค่ะ ช่วงนี้มักจะมาขอทานแถวนี้เป็นประจำ เมื่อท่านอ๋องและพระชายาเสด็จเข้าออกประตูจวน นางก็จะไปซ่อนตัว ช่วงเวลานอกเหนือจากนี้นางจะคอยถือชามแตกๆนั่งอยู่ข้างกำแพง หม่อมฉันเห็นว่าชาวบ้านมาเห็นจะดูไม่ดี จึงขับไล่นางไปพ่ะย่ะค่ะ แต่นางก็ไม่ยอมไป พอไล่ไปแล้ว อีกสักพักก็จะหวนกลับมาอีกพ่ะย่ะค่ะ"
"งั้นหรือ?" หยุนชางฟังที่เขาพูด แล้วเดินไปที่หน้าประตูจวน นางได้พบกับขอทานนั่งกอดเข่าอยู่ที่ข้างกำแพง เป็นหญิงผมขาว ร่างกายง่อนแง่น อายุราวๆ 50-60 ปี เสื้อผ้าของนางขาดรุ่งริ่ง ผมเผ้าดูเหมือนไม่ได้สระมานาน แม้จะเป็นฤดูหนาว แต่นางก็มิได้สวมใส่รองเท้าแต่อย่างใด
เหมือนนางจะรู้สึกตัวได้ว่ากำลังถูกมอง นางหันหน้ามามองหยุนชาง แล้วนั่งขดตัวต่อที่ข้างกำแพง
หยุนชางครุ่นคิด แล้วจึงเอ่ยปากขึ้นว่า "ปีใหม่แล้ว ไปนำอาหารดีๆมาให้นาง พร้อมกับที่นอนและผ้าห่มหนาๆ แล้วไม่ต้องขับไล่นางอีก ปล่อยให้นางอยู่ของนางไปเถอะ"
คนเฝ้าประตูรับคำ หยุนชางกลับหลังหันเพื่อจะเดินเข้าข้างในจวน นางได้ยินเสียงเบาๆแว่วมาจากด้านหลังว่า "วันนี้ถือว่าป้าโชคดีไป ได้มาพบกับพระชายาที่แสนดีของพวกเรา"
"ปล่อยให้ขอทานเฝ้าวุ่นวายอยู่หน้าจวนดูไม่ดีเลยนะเพคะ ถ้าคนอื่นๆมาเห็นเข้า ก็จะพากันพูดว่าท่านอ๋องและพระชายาทรงไร้ซึ่งความเมตตา แม้แต่ขอทานคนเดียวก็ไม่ยอมให้ความช่วยเหลือ" ฉินยีพูดเบาๆพลางหันหลังไปมองประตูจวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง