เสียนฮูหยินพลันเปิดปากออกมา ทว่ากลับไม่สามารถเอ่ยคำอันใดออกมาได้เลย หลังจากนั้นจึงยิ้มออกมาอย่างขมขื่นว่า "หายเพคะ. ต่างหูไข่มุกคู่นี้หายไปตั้งแต่ปีที่แล้ว มิรู้ว่าข้ารับใช้ในวังคนใดมือเท้าสกปรกถึงได้โขมยมันไป หม่อมฉันได้สั่งให้ข้ารับใช้ภายในตำหนักค้นหาแล้ว ทว่า ก็หาไม่พบ ผู้คนล้วนแต่รับรู้ ว่าหม่อมฉันชอบต่างหูไข่มุกคู่นี้มากแค่ไหน ผู้คนในวังล้วนแต่รับรู้"
เมื่อเสียนฮูหยินกำลังพูดอยู่ น้ำตาพลันไหลออกมาจากดวงตาของนาง
หยุนชางเห็นการกระทำของนางเช่นนั้น ก็รับรู้ได้ว่านี่มิใช่การเสแสร้งแกล้งทำ ภายในใจพอจะรับรู้ได้ว่า ต่างหูมุกคู่นี้ เกรงว่าจะเป็นฝีมือของฮองเฮา ครอบครัวของช่างฝีมือเฉียนพวกนั้นถูกขนย้ายออกไปหมดแล้ว ทำไมถึงยังเหลือสิ่งของที่สามารถชี้เป็นชี้ตายเสียนฮูหยินไว้ได้เช่นนี้เล่า คงมิต้องเอ่ยถึงเหตุผลของมัน
"ทว่า. เหตุใดต่างหูไข่มุกคู่นี้จึงไปปรากฏอยู่ที่บ้านของช่างฝีมือได้ ? เจ้าสามารถบอกกับเจิ้นได้หรือไม่ สิ่งของที่เจ้าทำหายไป ทำไมถึงไปปรากฏอยู่ที่บ้านของช่างฝีมือ ? " น้ำเสียงของเซี่ยหวนอวี่ยังคงความเฉยเมยไว้
เสียนฮูหยินกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า "ทำไมหรือเพคะ ? หม่อมฉันก็อยากรู้เช่นกัน ฝ่าบาทคิดว่า. หากช่างฝีมือผู้นี้ได้รับคำสั่งมาจากหม่อมฉัน แม้ว่าครอบครัวของช่างฝีมือทั้งหมดจะย้ายออกไปแล้ว. เหตุใดยังต้องทิ้งสิ่งของเช่นนี้ไว้อีก ? นี่มิใช้ว่าเป็นการยกก้อนหินทับเท้าของตนเองหรือเพคะ ? "พูดจบ สายตาพลันหยุดไปที่ร่างของหยุนชาง
หยุนชางพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย พร้อมลุกขึ้นยืนว่า "หม่อมฉันรู้สึกได้ว่า เสียนฮูหยินต้องถูกใส่ร้ายอย่างแน่นอนเลยเพคะ ทว่า ไม่ว่าผู้คนที่ใส่ร้ายจะเป็นผู้ใด หากแต่อย่างไรเสียนฮูหยินก็ยังคงเป็นฆาตกรอยู่ดี เพราะนางตั้งใจวางแผนสังหารฮุยจาวอี๋พร้อมเด็กในครรภ์ของนางด้วยเจตนาฆ่าที่แท้จริง. "พูดจบ สายตาพลันจับจ้องไปที่หัวของเสียนฮูหยิน "แต่เดิมหม่อมฉันเป็นผู้ที่ชอบสะสมเครื่องประทินโฉมรวมไปถึงชาดทาปากเป็นอย่างมากเพคะ เมื่อครู่. พลันเห็นปิ่นระย้าบนหัวของเสียนฮูหยิน ปิ่นระย้าอันนี้หม่อมฉันล้วนรู้จักเป็นอย่างดี ร้านเฉียนสุ่ยอี้เหรินเป็นผู้จัดทำ สิ่งของในร้านเฉียนสุ่ยอี้เหริน หม่อมฉันล้วนแต่ใช้มาตลอด เนื่องจากชื่นชอบเป็นอย่างมาก แม้แต่ปิ่นระย้าพวกนี้หม่อมฉันล้วนมีหมด"
หยุนชางมองไปที่เสียนฮูหยิน พร้อมค่อย ๆ เดินไปที่ข้างกายของนาง พลางพูดต่อไปว่า "ทว่า. ปิ่นระย้าบนหัวของเสียนฮุหยินจะดูผิดแปลกไปนะเพคะ"
"โอ้ ? ผิดปกติตรงไหนกัน ?" สายตาของฮองเฮาที่ถูกดึงดูดเข้ามาร่วมกระบวนการนี้ด้วย พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเบา ๆ
"เมื่อครู่หม่อมฉันกล่าวไปแล้วเพคะ. ปิ่นระย้าอันนี้ต้องมีคู่ของมัน ทว่าปิ่นที่ปักอยู่ตรงปิ่ระย้ามีสองตัว และยังถูกโค้งงออีกด้วย ก่อนหน้านั้นหม่อมฉันเคยถามถึงวิธีการทำจากที่ร้านด้วยเพคะ พวกเขากล่าวว่า เนื่องจากพู่ของปิ่นระย้ามีความหนักมาก หากมีเพียงแค่ปิ่นอันเดียวจะมีน้ำหนักเบาเกินไป ปิ่นระย้าจะแกว่งไปแกว่งมาในขณะเดินได้ ก็จะสามารถง้างออกมาก หากแต่ปิ่นระย้าของเสียนฮูหยินนั้น แม้ว่าจะมีปิ่นปักอยู่สองด้าม ทว่ากลับง้างออกมาทั้งหมด " หยุนชางพูดจบ พลันแย้มยิ้มออกมามือพลันล้วงเข้าไปหยิบปิ่นระย้าบนหัวของเสียนฮูหยินออกมา
เสียนฮูหยินผงะไปครู่หนึ่ง พร้อมลุกขึ้นยืน "พระชายารุ่ยอ๋อง ท่านวางอำนาจบาตรใหญ่ไปแล้วหรือไม่ ? หม่อมฉันแม้จะมีตำแหน่งไม่สูงมาก เป็นเพียงแค่นางสนมในวังหลัง พระชายารุ่ยอ๋องคอยจับผิดเช่นนี้ เกรงว่าจะทำเกินไปหน่อยกระมัง"
หยุนชางยิ้มออกมาเล็กน้อย. " หากไม่มีสิ่งของอันใดในปิ่นระย้าสองอันนี้. หม่อมฉันน้อมรับโทษแต่โดยดีเพคะ" เมื่อพูดจบพลันเดินออกมาต่อหน้าเซี่ยหวนอวี่ พลางสังเกตุน้ำหนักของปิ่นระย้าทั้งสองด้าม "ในยามเช้าของวันนี้. ที่ตำหนักเซียงจู๋นั้น เสียนฮูหยินพลันสวมแค่ปิ่นระย้าด้ามเดียวเพคะ หากแต่เมื่อหม่อมฉันออกมาจากตำหนักอีกครั้ง กลับสังเกตุเห็นว่า ปิ่นระย้าบนหัวของเสียนฮูหยินพลันเปลี่ยนเป็นสองด้าม ปิ่นระย้าสองอันนี้ มีน้ำหนักเบากว่าของหม่อมฉันเป็นอย่างมาก หากเป็นอย่างที่หม่อมฉันคาดการณ์จริง ๆ ภายในปิ่นระย้าทั้งสองอันนี้ถูกเจาะรูเพคะ"
หยุนชางพลันก้มหน้าลง พร้อมสังเกตุปิ่นระย้าทั้งสองอย่างละเอียด เพียงครู่หนึ่งจึงยิ้มออกมา มือพลันหมุนออกมาเบา ๆ ปิ่นทั้งสี่ด้านในถูกหยุนชางดึงออกมา ตรงกลางของปิ่นถูกเจาะรูไว้ หยุนชางพลันยิ้มออกมา ปิ่นพวกนั้นถูกหยุนชางเทออกมาวางบนโต๊ะ ก็พบกับการดาษแผ่นเล็กสองแผ่น
หยุนชางพลันคลี่กระดาษแผ่นนั้นออกมา เพียงครู่หนึ่ง จึงนำกระดาษแผ่นนั้นส่งไปให้เซี่ยหวนอวี่
เซี่ยหวนอวี่เมื่อเห็นชื่อบนกระดาษแผ่นนั้นแล้ว พลันขมวดคิ้วลง พร้อมวางกระดาษแผ่นนั้นไว้ข้างกาย แล้วจึงพูดขึ้นมาว่า "อีกสองอันที่เหลือคืออันใด ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง