"ไม่เคยเห็นคนที่คุยโอ้อวดตัวเองเยี่ยงนี้มาก่อน" เซียวหย่วนซานแขวนไส้เดือนชิ้นเล็กๆไว้บนตะขออีกครั้ง จ้องไปที่น้ำด้วยตาที่นิ่งสงบ เตรียมที่จะปล่อยสาย
"ข้ากำลังชมเฉินซี แต่ข้าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ข้าจะเจอเขา และเขาหน้าตาเป็นอย่างไรแล้ว" หยุนชางถอนหายใจเบาๆ
เซียวหย่วนซานเลิกคิ้วและหันไปมองลุงจิ่ว "ตอนที่ข้าจากมา เฉินซีมิใช่ให้ผ้าเช็ดหน้าแก่ข้าผืนหนึ่งหรือ โดยบอกว่าเป็นจดหมายที่เขาเขียนถึงพี่หญิงของเขา?"
หยุนชางได้ยินก็ลุกขึ้นทันที "จดหมายที่เฉินซีเขียนถึงข้าหรือ มันอยู่ที่ไหน"
ลุงจิ่วดูเหมือนจะกลั้นหัวเราะ ไอเบาๆ แล้วพูดกับหยุนชางว่า "องค์หญิงน้อย โปรดรอสักครู่ ข้าน้อยจะไปนำมาให้องค์หญิงน้อยขอรับ"
หยุนชางตอบรับอย่างรวดเร็ว และเซียวหย่วนซานเพียงแต่จ้องที่ทะเลสาบ หลังจากเงียบไปนาน เขาก็พูดเบาๆว่า "ข้าเห็นว่าลั่วชิงเหยียนก็ดีต่อเจ้ามาก ถ้าเป็นเช่นนี้ ข้าและเสด็จพ่อเสด็จแม่ของเจ้าก็โล่งใจ เจ้าและลั่วชิงเหยียนว่าอายุต่างกันไม่น้อย เรามักจะคิดว่าพวกเจ้าคงจะเข้ากันมิได้ แต่ตอนหลังว่าข้ามาคิดๆดูแล้ว ตอนที่เจ้ายังเด็กเคยอ่านตำราที่จวนของข้ามาก็ไม่น้อย เรียนรู้ทุกอย่าง เมื่อวานข้าได้ให้ฉินยีเอาหนังสือของเจ้ามา และพบว่าสิ่งที่เจ้าอ่านคือยุทธวิธีค่ายกลต่างๆ และคิดว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไร ลั่วชิงเหยียนเป็นคนมาก แต่ข้ากับเสด็จแม่ของเจ้ากังวลเสมอว่าเจ้าจะต้องเดินตามความผิดพลาดของนาง ถึงแม้ว่าข้าเพิ่งมาถึงเมืองจิ่นในเมื่อวานนี้ แต่ข้าได้ข้อมูลมามากมายระหว่างทางด้วย ลั่วชิงเหยียนได้ขึ้นครองราชย์ เป็นเพียงเรื่องของเวลาที่ช้าหรือเร็ว คนๆหนึ่งไปถึงตำแหน่งที่สูงนั้น เป็นเรื่องยากที่จะรับประกันว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงความจริงใจในแต่เดิม"
หยุนชางยิ้มและฟัง หลังจากเงียบไปนานนางก็พยักหน้าเบาๆและกล่าวว่า "เสด็จแม่ก็เคยคุยเรื่องนี้กับข้า แต่ความจริงแล้ว ข้าไม่ได้เอามาใส่ใจ ประการที่หนึ่งข้ามั่นใจลั่วชิงเหยียน อดีตที่เขาเคยประสบมาทำให้นิสัยของเขาแตกต่างไปจากหลายๆคน สิ่งที่เขามั่นใจแล้วคือความมั่นใจที่แท้จริง ประการที่สอง ข้ามีความเชื่อมั่นในตนเอง ความมั่นใจนี้ไม่ได้แปลว่ามีเสน่ห์พอที่จะทำให้ชิงเหยียนไม่เปลี่ยนใจ แต่คือต่อให้เขาเปลี่ยนใจ ข้าก็สามารถถอนตัวได้เร็ว ใช้ชีวิตของตัวเองอย่างดีได้ บางทีสำหรับข้าตอนนี้การที่ต้องจากเขาไปคือไม่ต่างจากการตัดชิ้นเนื้อในใจ แต่ถ้าเนื้อชิ้นนี้มันเน่าจริงๆ ข้าทำได้แน่นอน"
เซียวหย่วนซานยกเปลือกตาขึ้น เงยหน้าขึ้นและเหลือบมองหยุนชางแล้วกล่าวว่า "ความแตกต่างของเจ้าและเสด็จแม่ของเจ้านั้น คือเจ้าเด็ดเดี่ยวกว่าเสด็จแม่ของเจ้า"
หยุนชางยิ้มเล็กน้อยและนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า "เสด็จแม่กับเสด็จพ่อ…"
ก่อนที่หยุนชางจะพูดจบ เซียวหย่วนซานก็พูดเบาๆว่า "อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเถอะ ช่วงชีวิตของนางตอนที่ยังเป็นหญิงสาว สูญเปล่าในตำหนักเย็น ตอนนี้นางก็ไม่ใช่จะอายุน้อยแล้ว อีกทั้งมีเฉินซี อีกทั้งเรื่องต่างๆมากมายมิควรกล่าวโทษฝ่าบาท เขาคือฮ่องเต้ ในตำแหน่งนั้นหลายๆเรื่องคือมิอาจทำตามใจ ชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสีย ถ้าการที่เพิ่มหญิงในวังหลังแล้วสามารถแก้ไขสิ่งต่างๆ แน่นอนไม่มีใครต้องการสร้างปัญหาให้ยุ่งยาก"
"ถ้าเสด็จแม่เต็มใจ รอให้เฉินซีโตอีกหน่อย ก็พาท่านออกจากวัง" หยุนชางถอนหายใจเบาๆ ครู่หนึ่งก็พูดอีกครั้ง "แต่เช่นนี้ ก็เป็นเรื่องที่โหดร้ายต่อเสด็จพ่อเช่นกัน"
เซียวหย่วนซานยิ้ม ไม่อยากคุยเรื่องนี้กับหยุนชางอีก พอดีกับลุงจิ่วนำของเดินกลับมา เซียวหย่วนซานพูดกับหยุนชาง "ไปดูจดหมายที่น้องชายของเจ้าเขียนถึงเจ้าเถอะ"
หยุนชางได้ยิน แววตาเผยด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย ยืนขึ้นและเดินไปหาลุงจิ่วแล้วพูดว่า "แล้วจดหมายล่ะ"
ลุงจิ่วหยิบผ้าเช็ดหน้าที่พับอย่างเรียบร้อยจากแขนเสื้อของเขา แล้วยื่นให้หยุนชางหยุนชางเห็นดอกเหมยปักอยู่บนผ้า ยิ้มแล้วกล่าวว่า "นี่คือผ้าเช็ดหน้าของเสด็จแม่"
ลุงจิ่วยิ้มและตอบว่า "เป็นของกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงจริงๆ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง