เมื่อได้ยินเช่นนั้นฮวาอวี้ถงก็มีท่าทีราวกับตกใจเล็กน้อยและรีบคว้ามือหยุนชางไว้แล้วกล่าวว่า "ข้าไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ ข้าจะทำอย่างไรดี? ท่านอ๋องทำอย่างนี้กับข้าได้อย่างไร?"
หยุนชางจับมือนางและรีบบอกว่า "อย่ากังวลไปเลย เรื่องต่างๆ ยังไม่เลวร้ายถึงขั้นนั้น ตอนนี้เสียนฮูหยินถูกขับสู่ตำหนักเย็นแล้ว ตราบใดที่ท่านอ๋องเจ็ดไม่พูดเรื่องของเจ้าออกมาก็จะไม่มีใครรู้ อีกทั้งเรื่องนี้เป็นท่านอ๋องเจ็ดเองที่เป็นผู้บงการไม่เกี่ยวกับเจ้า" หลังจากหยุดไปชั่วครู่ นางก็พูดขึ้นอีกครั้ง "เพียงแต่เจ้าต้องจำไว้ว่าคราวหน้าต้องระวังท่านอ๋องเจ็ดให้ดี หากเขาให้เจ้าไปทำอะไรอีกต้องพิจารณาให้รอบคอบและอย่าได้ไปด้วยตนเอง จะทำให้เป็นจุดอ่อนได้"
ฮวาอวี้ถงพยักหน้าติดกัน สีหน้าของนางแย่ลงเล็กน้อย "เจ้าก็รู้ว่าข้าและท่านอ๋องเจ็ดแม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่สามีภรรยาคู่อื่นๆ นั้นต่างก็เคารพให้เกียรติกัน แต่พวกเรากลับเย็นชาต่อกันนัก นานๆ ทีเข้าจะขอให้ข้าช่วยเขา ข้าไม่ได้คิดอะไรมากก็ตกปากรับคำ ที่ไหนได้..." หลังจากชะงักไปครู่หนึ่งฮวาอวี้ถงก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ "ข้าจะจำไว้ ขอบใจเจ้านักชางเอ๋อร์ หากท่านอ๋องเจ็ดขอร้องอะไรข้าอีก ข้าจะมาปรึกษากับเจ้าก่อน ต้องรบกวนให้เจ้าช่วยข้าไตร่ตรองแล้ว"
"พูดอะไรเกรงใจเช่นนั้น ข้าเห็นเจ้าเป็นเพื่อนด้วยใจจริง อย่าได้กล่าวเหมือนเป็นคนนอกเช่นนี้เลย" หยุนชางหัวเราะ "อีกครูหากเจ้ากลับจวนไปแล้วเขาถามว่าข้าให้เจ้าทำอะไร เจ้าก็บอกว่าท่านตาของข้ามาจากแคว้นหนิง ทั้งยังนำของอร่อยและของเล่นสนุกๆ มามากมายจึงได้เชิญเจ้ามาร่วมชิมร่วมเล่น"
หยุนชางกล่าวพลางสั่งให้ฉินยีเลือกของบางอย่างที่ฮวากั๋วกงนำมาให้แก่ฮวาอวี้ถงนำกลับไปที่จวนอ๋องเจ็ด
ฮวาอวี้ถงรับของแล้วจึงย่อกายให้หยุนชาง หันหลังกลับและเดินออกจากห้องไป
ฉินยีส่งฮวาอวี้ถงออกจากห้องก่อนที่จะกลับมาจัดเบาะนุ่มให้กับหยุนชางพลางกล่าวว่า "พระชายาอ๋องเจ็ดช่างน่าสงสารนัก แม้แต่สามีของนางก็คิดร้ายต่อนางเช่นนี้" ๆ
หยุนชางถอนหายใจเบาๆ คิ้วของนางขมวดคิ้วเล็กน้อยและพึมพำว่า "หากปิ่นนั้นท่านอ๋องเจ็ดสั่งให้คนนำเข้าวัง เช่นนี้ผู้ที่ทำร้ายเด็กในครรภ์ของหลินโยวหรานเป็นเสียนฮูหยินหรือว่าท่านอ๋องเจ็ดกันแน่? หรือว่าเสียนฮูหยินถูกท่านอ๋องเจ็ดใส่ร้าย? แต่เขาจะปรักปรำเสียนฮูหยินไปเพื่ออะไร?"
ฉินยีได้ยินเช่นนั้นก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรจึงเพียงแต่เอ่ยว่า "เรื่องในวังหลังนั้นเต็มไปด้วยกับดักและหลุมพราง เมื่อตอนนี้เรื่องกลับกลายเป็นเช่นนี้ หากพระชายาไปบอกฝ่าบาทและฮองเฮาอีกว่าเสียนฮูหยินถูกปรักปรำ ถูกท่านอ๋องเจ็ดใส่ร้าย เกรงว่าจะได้สูญเสียความน่าเกรงขามไป พระชายาพักสักหน่อยเถอะเพคะ อย่าได้ต้องกังวลกับเรื่องเหล่านี้เกินไปนักเลย"
หยุนชางเพียงรับคำและนอนลงบนเบาะ แต่คิ้วของนางก็ยังไม่คลายออก
หลังจากงีบหลับไปประมาณหนึ่งชั่วยามหยุนชางก็ตื่นขึ้น นางลืมตาขึ้นและเห็นเฉี่ยนหลิ่วยืนข้างเบาะ หยุนชางตกใจเล็กน้อย ครู่หนึ่งจึงพูดว่า "เฉี่ยนหลิ่วกลับมาแล้วหรือ?"
เฉี่ยนหลิ่วยิ้มและพยักหน้าพร้อมช่วยพยุงหยุนชางให้ลุกขึ้นนั่ง
หยุนชางหาวและพูดกับเฉี่ยนหลิ่วว่า "เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสักหน่อยเถอะ"
เฉี่ยนหลิ่วรับคำเดินไปที่หน้าต่างและผลักหน้าต่างเปิดออก อากาศข้างนอกหนาวเย็นเล็กน้อย ลมหนาวพัดเข้ามาทางหน้าต่าง เฉี่ยนหลิ่วจึงรีบหยิบเสื้อคลุมมาสวมให้หยุนชาง
หลังจากถูกลมหนาวพัดมากระทบ หยุนชางก็ตื่นขึ้นเต็มตา นางให้เฉี่ยนหลิ่วช่วยจัดทรงผมแล้วจึงถามเบาๆ "เรื่องที่จวนหวังฉงเหวินเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง