วันที่สอง หยุนชางตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ ยังไม่ทันรับประทานอาหารเช้าเสร็จก็ได้ยินสัญญาณของสายลับ นางจึงไม่สนใจอาหารอีกและรีบเรียกสายลับเข้ามาพบ "เป็นอย่างไรบ้าง? ตอนนี้สถานการณ์ที่หลิงซีเป็นอย่างไร?"
สายลับรีบตอบว่า "ที่คุกในศาลาว่าการมีทหารมากมายคอยเฝ้าอยู่ รอบด้านข้าน้อยยังพบกับสายลับของท่านอ๋องด้วย มีจำนวนประมาณเจ็ดสิบกว่าคนล้อมรอบคุกอยู่อย่างหนาแน่น ข้าน้อยหาคนที่รู้จักเพื่อสอบถามข่าวคราว สายลับของท่านอ๋องบอกว่าท่านอ๋องเจ็ดถูกขังอยู่ด้านในและยังมีแม่ทัพนายกองของท่านอ๋องเจ็ดไม่น้อยก็ถูกขังอยู่เช่นกัน นอกจากพวกเขาแล้ว ทหารกว่าครึ่งก็ถูกแม่ทัพซูนำไปตีโม่ฮว๋าย"
ในเมื่อสายลับของลั่วชิงเหยียนเฝ้าอยู่ที่ด้านนอกคุกก็เป็นการยืนยันการคาดคะเนของหยุนชาง เรื่องนี้เป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นฝีมือของลั่วชิงเหยียน
หยุนชางพลันนึกขึ้นมาได้ ตอนที่อยู่ที่ชางหนานลั่วชิงเหยียนเคยกล่าวไว้ว่ากลศึกครั้งนี้คือกลยุทธ์ปั้นน้ำเป็นตัว จักจั่นลอกคราบ ปิดฟ้าทะเล ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม ล่อเสือออกจากถ้ำ จากนั้นจึงค่อยยืมดาบฆ่าคน
ก่อนหน้านี้ที่กานอิ๋งก็เป็นกลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม ล่อชางเจียชิงซูไปที่กานอิ๋งนั้นเป็นการล่อเสือออกจากถ้ำ
เช่นนั้นกลยุทธ์ยืมดาบฆ่าคนอันสุดท้าย... หรือว่าเขาต้องการยืมดาบในมือของซูหรูไห่? เพียงแต่คนที่เขาต้องการฆ่านั้นเป็นองค์ชายเจ็ดหรือว่าชางเจียชิงซูกันแน่?
ด้านนอกจู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น หยุนชางชะงักไป ลั่วชิงเหยียนจากไปแล้ว ผู้ที่มาคือใคร? หยุนชางส่งสัญญาณให้สายลับ สายลับผู้นั้นจึงออกจากตำหนักไปเมื่อกระโดดข้ามกำแพงไปแล้วจึงกลับมารายงานหยุนชางว่า "พระชายา เป็นกุนซือหลิ่ว"
หลิ่วหยินเฟิง? หยุนชางขมวดคิ้ว ในเมื่อเขาเป็นกุนซือของลั่วชิงเหยียน เหตุใดลั่วชิงเหยียนออกรบจึงไม่พาเขาไปด้วย? และเขาก็ยังรู้ข่าวคราวว่าลั่วชิงเหยียนนำทัพออกไปแล้วแล้วทำไมจึงยังมาที่จวนอีก หรือว่า...มาหานาง?
"เปิดประตูเถอะ" หยุนชางเอ่ยเบาๆ
ข้ารับใช้จึงเปิดประตูออก หยุนชางเห็นหลิ่วหยินเฟิงในชุดสีน้ำเงินก้าวเข้ามาและมองตรงมายังนาง เมื่อเห็นนางแล้วดวงตาของเขาก็ปรากฏแววยินดีขึ้นมาแวบหนึ่ง ฝีเท้าก็เร็วขึ้น
"คารวะพระชายา" หลิ่วหยินเฟิงกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
หยุนชางพยักหน้าช้าแล้วจึงมองเขาพร้อมเอ่ยเบาๆ "กุนซือไม่ได้ออกรบกับท่านอ๋องหรือ?"
หลิ่วหยินเฟิงพยักหน้าเบาๆ "ที่นี่ยังมีเรื่องให้ต้องจัดการ"
"เช่นนั้นที่วันนี้กุนซือมามีธุระอะไรหรือ?" หยุนชางให้ฉินยีรินชาให้หลิ่วหยินเฟิงแล้วจึงถามเบาๆ
บางทีอาจเป็นเพราะคำพูดของหยุนชางแข็งกระด้างไปเล็กน้อย รอยยิ้มของหลิ่วหยินเฟิงจึงค่อยๆ ฝืดเฝื่อนลง "ไม่มีเรื่องอะไร เพียงแต่หลังจากที่ท่านอ๋องจากไปแล้ว ท่านคงรู้สึกกังวลมา หม่อมฉันจึงแวะมาเยี่ยมเยียน"
หยุนชางหยิบน้ำชาขึ้นมาจิบแต่ไม่ได้ตอบอะไร ครู่ใหญ่จึงได้เงยหน้าขึ้นมองหลิ่วหยินเฟิงและเอ่ยว่า "กุนซือหลิ่วมาได้เวลาเหมาะเจาะพอดีเลย ข้ามีคำถามอยากจะถามท่านพอดี..."
หลิ่วหยินเฟิงได้ยินหยุนชางกล่าวเช่นนี้ นัยน์ตาก็เปล่งประกาย "พระชายาเชิญถามพ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางพยักหน้าน้อยๆ ดวงตาฉายแววข้องใจ "ข้าอยากถามท่านว่าเรื่องจลาจลที่เมืองหลิงซีเป็นเรื่องที่พวกท่านจัดฉากไว้แล้วหรือ? เพียงยืมมือของซูหรูไห่ควบคุมท่านอ๋องเจ็ด?"
หลิ่วหยินเฟิงได้ยินเช่นนั้นก็ค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา "เป็นเช่นนี้จริงๆ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง