ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 813

ลั่วชิงเหยียนสั่งให้บ่าวยกเก้าอี้ด้านในห้องโถงมาสองตัว หยุนชางก็ดึงอาซิ่วไปนั่งที่เก้าอี้ นางลูบมืออาซิ่วเบาๆ ราวกับว่าอยากให้นางผ่อนคลายลง

"คำถามแรก อาซิ่ว เจ้าจำได้หรือไม่ว่าตอนที่เจ้าถูกจับตัวไปเหตุการณ์มันเป็นอย่างไร?" หยุนชางมองเข้าไปในดวงตาของอาซิ่วและถามอย่างนุ่มนวล

อาซิ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางตัวสั่นเล็กน้อยและกัดริมฝีปากจนขาวซีด ผ่านไปนานจึงกล่าวว่า "เช้าวันนั้นข้าเอาเสื้อไปซักที่ริมแม่น้ำ ตอนนั้นฟ้ายังไม่สว่าง ขณะที่ข้าถือเสื้อผ้าเดินผ่านตรอกซอยและเมื่อกำลังจะถึงคูเมือง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างหลังจากนั้นก็รู้สึกเจ็บที่ท้ายทอย จากนั้นข้าก็จำกระไรไม่ได้เลย"

หยุนชางพยักหน้า แล้วได้ยินอาซิ่วกล่าวเบาๆ ว่า "เมื่อข้าตื่นขึ้นมา ก็รู้สึกว่าตนอยู่บนรถม้า ภายในรถม้าถูกปิดมืดสนิท มือและเท้าของข้าถูกมัดเอาไว้ ถูกปิดตา และปิดปาก ข้าเอาเท้าเตะไปมาในรถ แล้วพบว่ายังมีคนอีกมากมายอยู่ในนั้น คาดว่าคงจะเป็นคนที่ถูกจับตัวมาเหมือนกัน จากนั้นรถม้าก็หยุดลง เราจึงถูกลากตัวลงจากรถ และถูกคนแบกไปราวกับถุงกระสอบไปอยู่นาน จากนั้นจึงถูกโยนเข้าภายในห้องลับนี้"

หยุนชางพยักหน้าเบา ๆ และเห็นว่าอาซิ่วดูเหมือนจะกล่าวจบแล้ว จึงได้เอ่ยปากถามอีกว่า "ในห้องลับนั้น เจ้าเคยเห็นคนที่กักตัวพวกเจ้าหรือให้อาหารพวกเจ้าหรือไม่? ได้ยินเสียงของพวกเขาหรือไม่?"

อาซิ่วพยักหน้า " ข้าเคยเห็น คนที่นำอาหารมาส่งล้วนเป็นพระภิกษุทั้งหมด" ร่างกายของอาซิ่วสั่นเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวอีกว่า "เขาว่ากันว่าสาวกชาวพุทธเป็นคนที่มีจิตใจดีที่สุด แต่พวกเขาเป็นคนเลวทั้งนั้น ในกลุ่มหญิงสาวที่ถูกจับตัวมาพร้อมเรา มีสามคนที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นมากกว่าผู้อื่น จึงถูกพระภิกษุลากไป ก่อนที่พวกเขาจะเดินจากไป เราได้ยินเขาพูดอย่างชัดเจนว่า แม้จะเป็นผู้หญิงที่ไร้ประโยชน์ แต่รสชาติของสาวงามนั้นย่อมสามารถทำให้เราหลงละลายไปกับมันได้ หลังจากนั้นนางทั้งสามก็มิได้กลับมาที่นี่อีกเลย เราต่างก็ทราบแล้วว่าพวกนางต้องเจอกับอะไรบ้าง จึงรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก กลัวว่าชะตากรรมนี้จะตกมาที่พวกเรา แต่โชคดีที่พวกท่านมาถึงก่อน"

ตามที่หยุนชางคาดไว้ สามคนนั้นอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว

"เจ้าลองคิดดูดีๆ คนพวกนั้นพูดอะไรแปลกๆ ไปบ้างหรือไม่?" หยุนชางยังคงเผยรอยยิ้มออกมา ทำให้ผู้คนรู้สึกอ่อนโยนราวกับสายลมที่พัดผ่านในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

อาซิ่วเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็รีบก้มศีรษะลงและกล่าวว่า "ข้าจะคิดดูดีๆ ข้าจะคิดดู"

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง อาซิ่วรีบพูดว่า "ข้าจำได้แล้ว ก่อนหน้านี้มีครั้งหนึ่งที่ได้ยินพวกเขาคุยกัน พระภิกษุคนหนึ่งถามอีกคนหนึ่งว่า คนอีกกลุ่มหนึ่งส่งไปถึงที่หมายหรือยัง? อีกคนก็ตอบว่า ถึงตั้งนานแล้ว ตอนนี้ก็คงไปเริ่มงานที่กำแพงเมืองแล้วกระมั้ง ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ไม่เคยได้ยินแล้ว"

หยุนชางพยักหน้าเบา ๆ ยิ้มและกล่าวว่า "ดีแล้ว ข้าจะถามเพียงเท่านี้ เจ้าอาศัยอยู่ที่ใดหรือ? ข้าจะสั่งให้คนไปส่งเจ้า"

สีหน้าของอาซิ่วเต็มไปด้วยความตื้นตันใจและความตื่นเต้น นางกล่าวขอบคุณซ้ำๆ แล้วจึงกล่าวว่า "ข้าอาศัยอยู่ในตรอกซีซาน"

ตรอกซีซาน ได้ยินมาว่าเป็นตรอกที่ยากจนที่สุดในเมืองจิ่น

หยุนชางพยักหน้าเบา ๆ และหันไปมองลั่วชิงเหยียน ลั่วชิงเหยียนยิ้มอย่างขมขื่นแล้วจึงสั่งการสายลับ ให้สายลับพาตัวหญิงสาวที่ชื่ออาซิ่วไป

หยุนชางรับแก้วน้ำชาที่ฉินยีนำมาให้ไป แล้วจิบชาจากนั้นจึงยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า "ที่กล่าวมาไม่มีความจริงเลยสักนิด"

ลั่วชิงเหยียนยิ้มและโอบไหล่ของหยุนชางเอาไว้ กระซิบเบา ๆ ว่า " ชางเอ๋อร์กล่าวผิดไปแล้ว ทุกคำพูดของนางเป็นความจริง เพียงแต่ว่ามีคนตั้งใจทำสิ่งเหล่านี้เพื่อให้นางมาบอกกับเราก็เท่านั้นเอง ไม่ว่าเราจะถามใคร ก็ได้คำตอบเพียงเท่านี้"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง