หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1001

เมื่อสังเกตเห็นสายตาของเขา เฉินผิงก็เข้าใจได้ถึงสิ่งที่เขาเอ่ยทันที จึงมองไปทางซูอวี่ฉีกับกู่หลิงเอ๋อร์ที่ยังคงมีรอยยิ้มพึงพอใจเกลื่อนใบหน้า ก่อนจะรีบร้องตะโกนบอกคนผู้นั้นว่า “นี่! มันไม่ใช่แบบที่คุณคิดนะ! คุณเข้าใจผิดแล้ว!”

แต่คนผู้นั้นก็จากไปไกลแล้ว

“พวกคุณสองคนช่วยระวังคำพูดของตัวเองสักหน่อยได้ไหม?”

เฉินผิงรู้สึกปวดหัวตุบๆ เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าสิ่งที่ซูอวี่ฉีกับกู่หลิงเอ๋อร์พูดไปเมื่อสักครู่นี้ อาจจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดเอาได้ง่ายๆ ไม่แปลกเลยที่เมื่อสักครู่เขาจะพูดแบบนั้น!

“พวกเราพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ?”

หญิงสาวทั้งสองคนมองเฉินผิงด้วยสีหน้าสับสน

“ยังไงก็ช่าง อย่าพูดถึงเรื่องนั้นอีก นายพลจ้าวกำลังตามหาผมอยู่ ตอนนี้ผมคงต้องขอตัวก่อนนะ”

เฉินผิงถอนหายใจอย่างอับจนหนทาง ก่อนจะหันหลังเดินจากไป

เขาแน่ใจว่าคนจากกระทรวงยุติธรรมจะต้องนินทาเรื่องของเขาลับหลัง

“หลิงเอ๋อร์ เมื่อสักครู่นี้พวกเราพูดอะไรงั้นเหรอ?”

ซูอวี่ฉีถามขึ้นหลังจากเฉินผิงจากไปแล้ว เพราะเธอยังไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

“อืม พวกเราไม่ได้พูดอะไรจริงๆ นะ พวกเราเพียงแค่พูดว่าเมื่อคืนช่างยอดเยี่ยมไปเลย แล้วพวกเราก็ไม่ได้รู้สึกดีแบบนั้นมานานแล้ว!”

กู่หลิงเอ๋อร์ก็ค่อนข้างสับสนเช่นกัน

แต่ไม่นานพวกเธอสองคนก็โดนความจริงตีแสกหน้าพร้อมกัน แล้วพวกเธอก็พลันหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที

เมื่อคืนพวกเธออยู่ร่วมห้องกับเฉินผิง ไม่แปลกหรอกที่พวกเขาจะเข้าใจผิด อย่างไรเสีย ชายหนุ่มกับหญิงสาวสองคนน่าจะทำอะไรเมื่ออยู่ตามลำพังในห้องเดียวกันล่ะ?

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราสองคนยังพูดว่าเมื่อคืนรู้สึกยอดเยี่ยมขนาดไหนออกมาต่อหน้าคนอื่นด้วย ... ใครก็ตามที่ได้ยินเช่นนั้นก็คงคิดว่าเป็นเรื่องบนเตียง และคงไม่มีใครคิดว่าจริงๆ แล้วพวกเธอกำลังบำเพ็ญฌานกันอยู่

ซูอวี่ฉีกับกู่หลิงเอ๋อร์รู้สึกอายจนรีบวิ่งกลับห้องตัวเองไปทันที

แต่เฉินผิงดูเหมือนจะไม่กังวลสักนิด มิหนำซ้ำยังตอบพลางยิ้มอีกต่างหากว่า “อืม สมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ยังมีหน้าเอาเรื่องนี้มาพูดอีกงั้นเหรอ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าระหว่างการประลองทางสมาพันธ์ลำเอียงเข้าข้างตระกูลหลง ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังปล่อยให้สำนักอื่นๆ สร้างความยุ่งยากให้แก่ผม ย่อมเป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่ผมจะสั่งสอนพวกมัน!”

“ฮึ! เจ้าเด็กอวดดี!”

จู้จื่อซานแค่นเสียงก่อนจะทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ ชั่วอึดใจต่อมา เขาก็ระเบิดพลังเยือกเย็นดุจน้ำแข็งใส่เฉินผิง

ฟิ้ว!

ทันใดนั้นเฉินผิงก็รู้สึกราวกับมีภูเขากดทับลงบนตัวเขา และเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ก็พลันแตกเป็นเสี่ยงๆ

เขาพยายามกัดฟันทนพลังของจู้จื่อซานจนเหงื่อกาฬเริ่มผุดซึมหน้าผาก

เนื่องจากจู้จื่อซานแข็งแกร่งกว่ากั๋วเว่ย พลังของเฉินผิงในตอนนี้จึงไม่เพียงพอที่จะต้านทานคนผู้นั้นได้

“ประธานจู้ ได้โปรดใจเย็นๆ แล้วพูดคุยกันดีๆ เถอะ ถ้าหากคุณชี่รู้ว่าคุณลงมือกับคุณเฉินในกระทรวงยุติธรรมต่อหน้าผู้คน เขาก็คงจะไม่เข้าข้างคุณหรอกครับ?” เมื่อรู้ว่าเฉินผิงทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จ้าวอู๋ฉีจึงรีบข่มขู่จู้จื่อซาน