หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1092

เฉินผิงรู้สึกได้ว่าอวัยวะภายในของเขากระแทกเข้าหากัน ในขณะที่มุมปากของเขามีเลือดไหลออกมา

กู่หลิงเอ๋อร์รีบวิ่งไปหาเขาและช่วยเช็ดเลือดออกจากปากให้ทันที

หลังจ้องมองประตูโลหะอยู่หลายนาที ก็มีบางอย่างแวบเข้ามาหัวของเฉินผิงและเขานึกขึ้นได้ในทันใด

"ผมเข้าใจแล้ว! ประตูโลหะนี่จะสะท้อนแรงทุกอย่างที่กระทำกับมัน! ยิ่งผมกระแทกมันแรงเท่าไหร่ มันก็ยิ่งสะท้อนกลับหนักขึ้นเท่านั้น! ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพังประตูออกไปโดยใช้กำลัง...” เขาอุทานพร้อมขมวดคิ้ว

“งั้นเราจะทำยังไงดี? เราจะติดอยู่ที่นี่ตลอดไปเหรอ?” กู่หลิงเอ๋อร์ถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

สำหรับเฉินผิงคงไม่มีปัญหาอะไรต่อให้ไม่มีทั้งอาหารและน้ำก็ตาม เพราะเขาบรรลุถึงขั้นจิตวิญญาณอมตะแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับกู่หลิงเอ๋อร์คงไม่ใช่อย่างนั้น เธอไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ธรรมดาหลังจากสูญเสียพลังของเธอไป

เนื่องจากแถวนั้นไม่มีอาหารอยู่เลย เธอคงอยู่รอดได้แค่สองสามวันเว้นแต่พวกเขาจะออกไปจากที่นั่นได้

“ผมไม่คิดว่าเราจะผ่านประตูนี้ไปได้ ลองไปดูข้างบนกันเถอะ”

เฉินผิงใช้เวลาสักพักเพื่อปรับรัศมีของเขา ก่อนที่จะขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับกู่หลิงเอ๋อร์

พอทั้งสองคนมาถึงบันไดก็มีกำแพงแสงปรากฏขึ้นต่อหน้า ปิดกั้นทางขึ้นบันไดเอาไว้

"อะไรกัน? ขึ้นไปก็ไม่ได้งั้นเหรอ?” กู่หลิงเอ๋อร์อุทานด้วยความตกใจ

“ถอยไปก่อนหลิงเอ๋อร์ ผมจะลองตรวจสอบดู”

เฉินผิงบอกให้เธอถอยห่างจากกำแพง เพราะเขาไม่แน่ใจว่ามันจะทำอะไรได้บ้าง

จากนั้นเขาก็ค่อยๆ เอื้อมมือไปแตะกำแพงแสง เขารู้สึกเหมือนโดนไฟฟ้าดูดเมื่อนิ้วของเขาสัมผัสกับกำแพง

ต่อจากนั้นพวกเขาก็เห็นรูปภาพจำนวนหนึ่งปรากฏขึ้นบนกำแพง ก่อนที่จะหายไปในวินาทีต่อมา

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แต่เฉินผิงสามารถมองเห็นภาพเหล่านั้นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และเห็นว่าเป็นภาพคนที่กำลังตั้งท่าจู่โจม

เพราะไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อ เขาจึงพยายามเลียนแบบการเคลื่อนไหวของคนๆ นั้นอย่างสุดความสามารถ ครู่ต่อมากำแพงแสงก็หายไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา

อะไรนะ? มีแต่ฉันที่เห็นภาพเหล่านั้นงั้นเหรอ? ช่างมันเถอะ... ตอนนี้ฉันไม่มีเวลามากังวลกับเรื่องนี้ เราต้องหาทางออกจากหอสะกดมารก่อนเป็นอย่างแรก!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร