หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1092

สรุปบท ตอนที่ 1092 ชะตาลิขิต: หัตถ์เทวะราชันมังกร

ตอนที่ 1092 ชะตาลิขิต – ตอนที่ต้องอ่านของ หัตถ์เทวะราชันมังกร

ตอนนี้ของ หัตถ์เทวะราชันมังกร โดย อาร์ม ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย ประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1092 ชะตาลิขิต จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เฉินผิงรู้สึกได้ว่าอวัยวะภายในของเขากระแทกเข้าหากัน ในขณะที่มุมปากของเขามีเลือดไหลออกมา

กู่หลิงเอ๋อร์รีบวิ่งไปหาเขาและช่วยเช็ดเลือดออกจากปากให้ทันที

หลังจ้องมองประตูโลหะอยู่หลายนาที ก็มีบางอย่างแวบเข้ามาหัวของเฉินผิงและเขานึกขึ้นได้ในทันใด

"ผมเข้าใจแล้ว! ประตูโลหะนี่จะสะท้อนแรงทุกอย่างที่กระทำกับมัน! ยิ่งผมกระแทกมันแรงเท่าไหร่ มันก็ยิ่งสะท้อนกลับหนักขึ้นเท่านั้น! ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพังประตูออกไปโดยใช้กำลัง...” เขาอุทานพร้อมขมวดคิ้ว

“งั้นเราจะทำยังไงดี? เราจะติดอยู่ที่นี่ตลอดไปเหรอ?” กู่หลิงเอ๋อร์ถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

สำหรับเฉินผิงคงไม่มีปัญหาอะไรต่อให้ไม่มีทั้งอาหารและน้ำก็ตาม เพราะเขาบรรลุถึงขั้นจิตวิญญาณอมตะแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับกู่หลิงเอ๋อร์คงไม่ใช่อย่างนั้น เธอไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ธรรมดาหลังจากสูญเสียพลังของเธอไป

เนื่องจากแถวนั้นไม่มีอาหารอยู่เลย เธอคงอยู่รอดได้แค่สองสามวันเว้นแต่พวกเขาจะออกไปจากที่นั่นได้

“ผมไม่คิดว่าเราจะผ่านประตูนี้ไปได้ ลองไปดูข้างบนกันเถอะ”

เฉินผิงใช้เวลาสักพักเพื่อปรับรัศมีของเขา ก่อนที่จะขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับกู่หลิงเอ๋อร์

พอทั้งสองคนมาถึงบันไดก็มีกำแพงแสงปรากฏขึ้นต่อหน้า ปิดกั้นทางขึ้นบันไดเอาไว้

"อะไรกัน? ขึ้นไปก็ไม่ได้งั้นเหรอ?” กู่หลิงเอ๋อร์อุทานด้วยความตกใจ

“ถอยไปก่อนหลิงเอ๋อร์ ผมจะลองตรวจสอบดู”

เฉินผิงบอกให้เธอถอยห่างจากกำแพง เพราะเขาไม่แน่ใจว่ามันจะทำอะไรได้บ้าง

จากนั้นเขาก็ค่อยๆ เอื้อมมือไปแตะกำแพงแสง เขารู้สึกเหมือนโดนไฟฟ้าดูดเมื่อนิ้วของเขาสัมผัสกับกำแพง

ต่อจากนั้นพวกเขาก็เห็นรูปภาพจำนวนหนึ่งปรากฏขึ้นบนกำแพง ก่อนที่จะหายไปในวินาทีต่อมา

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แต่เฉินผิงสามารถมองเห็นภาพเหล่านั้นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และเห็นว่าเป็นภาพคนที่กำลังตั้งท่าจู่โจม

เพราะไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อ เขาจึงพยายามเลียนแบบการเคลื่อนไหวของคนๆ นั้นอย่างสุดความสามารถ ครู่ต่อมากำแพงแสงก็หายไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา

อะไรนะ? มีแต่ฉันที่เห็นภาพเหล่านั้นงั้นเหรอ? ช่างมันเถอะ... ตอนนี้ฉันไม่มีเวลามากังวลกับเรื่องนี้ เราต้องหาทางออกจากหอสะกดมารก่อนเป็นอย่างแรก!

หลังจากที่ได้เห็นมาจากกำแพงแสงอันก่อนหน้า เฉินผิงจึงเลียนแบบกระบวนท่าที่ปรากฏบนภาพจนกำแพงแสงหายไป

เฉินผิงและกู่หลิงเอ๋อร์เจอกำแพงแบบเดียวกันในทุกชั้น ขณะที่พวกเขาเดินขึ้นหอคอยต่อไป

เมื่อมาถึงชั้นบนสุด เฉินผิงก็นึกถึงกระบวนท่าที่เขาเห็นก่อนหน้านี้และร่ายรำออกมาในทันใด

ไม่กี่วินาทีหลังจากที่เขารำกระบวนท่าจบ ชั้นบนสุดของหอสะกดมารก็เริ่มงอและเอนไปมาราวกับกำลังถูกบิด

สุดท้ายก็มีลำแสงส่องเข้ามาในห้อง และร่างมนุษย์ก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา

เฉินผิงหยีตามองร่างนั้นเพื่อมองดูให้ชัดๆ จนเขาเห็นว่าเป็นร่างชายชราที่ดูเป็นมิตรและสวมชุดคลุมสีขาว

การที่ร่างชายชราก่อขึ้นตัวต่อหน้าต่อตาพวกเขาช่างเป็นภาพที่น่าตกตะลึง แม้แต่เฉินผิงยังรู้สึกระแวงเล็กน้อยขณะจ้องมองชายชรา

ชายชราเดินมาหาเฉินผิงช้าๆ กวาดสายตามองเขาจากหัวจรดเท้า เขาลูบเครายาวสีขาวแล้วพูดขึ้น “หลังจากที่รอมาหลายร้อยปี ในที่สุดบุตรแห่งมังกรก็ปรากฏตัว บางทีนี่อาจเป็นฟ้าชะตาลิขิต..”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร