หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1140

แสงสว่างจ้าจนแสบตาส่องออกมาจากลูกปัดเหล่านั้นขณะที่พลังอันเปี่ยมไปด้วยความสงบสุขก็ห่อหุ้มร่างของเฉินผิงไว้

“นี่คือจิตวิญญาณอมตะของฉันงั้นเหรอ?” เฉินผิงจ้องลูกปัดเหล่านั้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ พลังแห่งความสงบสุขที่เล็ดลอดออกมาทำให้เขารู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

เมื่อแสงแห่งความอบอุ่นส่องสว่าง โซ่เหล็กเย็นเฉียบและเสียงโหยหวนของวิญญาณอันเคราะห์ร้ายก็ชะงักไปทันที ก่อนจะเลื้อยกลับลงไปใต้พื้นโลก

เมื่อโซ่ตัวเรานั้นกลับไปสู่ขุมนรกแล้ว มังกรก็คำรามออกมาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหายเข้าไปในร่างของเฉินผิง

หนิงจื้อขมวดคิ้ว ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและจ้องเขม็งไปยังลูกปัดที่ส่องแสงอยู่ตรงหน้า

เพราะเขาไม่รู้ว่าจิตวิญญาณอมตะคืออะไร หนิงจื้อได้แต่คิดว่ามันเป็นของวิเศษบางอย่างที่เฉินผิงครอบครองอยู่ เพราะเขามีของวิเศษอยู่มากจนหนิงจื้อติดตามได้ไม่หมด

ของวิเศษทุกชิ้นเป็นสมบัติที่ประเมินค่ามิได้ ตั้งแต่กระบี่พิฆาตมังกรไปจนถึงแหวนเก็บของ และแก่นมังกรไปจนถึงลูกปัดที่อยู่ต่อหน้าฉัน

ดวงตาของหนิงจื้อแดงก่ำด้วยความริษยา

“เฉินผิง ถ้าแกตายไป สมบัติของแกทั้งหมดจะต้องตกเป็นของฉัน!”

ขณะหนิงจื้อพูดอยู่นั้น รัศมีสีดำเหนือหัวของเขาก็เปล่งแสงและเต็มไปด้วยเจตจำนงสังหาร

แสงสีดำนั้นทำลายทุกสิ่งที่มันเจาะเข้าไปราวกับเป็นแสงเลเซอร์

เฉินผิงยกมือขึ้นมาช้าๆ เพื่อเป็นการโต้ตอบ และจิตวัญญาณอมตะก็ค่อยๆ ไหลเข้าไปในฝ่ามือเขา

ชีพจรแห่งพลังอันอ่อนโยนที่รายล้อมเฉินผิงอยู่ และแข็งตัวขึ้นเป็นจิตวิญญาณอมตะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นการเริ่มต้นการเดินทางไปสู่การฝึกพลังของเขานั่นเอง

พลังอันอ่อนโยนนี้จะต้องเป็นพลังวิญญาณแน่นอน!

เฉินผิงโบกมือด้วยท่วงท่าสง่างามก่อนจะส่งพลังกลมๆ นั้นเข้าไปยังแสงสีดำ

การปะทะกันระหว่างสองฝ่ายที่มีความสามารถจะอุบัติวันสิ้นโลกได้นั้นน่ากลัวมาก

แต่ทว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่คาดไว้กลับไม่เกิดขึ้น ไม่มีแม้แต่เสียงใดเล็ดลอดออกมา

เมื่อสัมผัสกัน แสงสีดำก็หายไปอย่างสิ้นเชิง และหลังจากสั่นสะเทือนโดยไม่สามารถควบคุมได้อยู่เป็นเวลานาน วงแหวนสีดำเหนือศีรษะของหนิงจื้อก็สลายกลายเป็นฝุ่นผง

“อะไรกัน...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร