หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1139

แสงสีดำค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปร่างอยู่เหนือหัวหนิงจื้อ ไม่นานนักก็เผยให้เห็นเป็นวงกลมแสงสีดำ มันมืดจนมองข้างในไม่เห็นเลย

นอกจากนี้ ช่องว่างภายในแสงนั้นยังเหมือนกระเพื่อมราวกับผิวน้ำของทะเลสาบอันสงบนิ่งที่ถูกลมพัดแรง

เฉินผิงขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นอย่างนั้น “เฮ้ คราวนี้เป็นสัตว์ประหลาดอะไรอีกล่ะเนี่ย?”

หนิงจื้อกับกู่ไค่หยวนเคยเรียกสัตว์ประหลาดในเกาะสะกดมังกรมาแล้วครั้งหนึ่ง และเฉินผิงก็เดาว่าหนิงจื้อคงจะใช้เล่ห์กลแบบเดิมอีกครั้ง

แต่ถึงจะรออยู่นานก็ไม่มีอะไรออกมาจากวงแหวนแสงสีดำนั้นเลย

จากนั้นก็กลับมีเสียงหึ่งๆ ดังขึ้นมา ตามมาด้วยพลังอันท่วมท้นเล็ดลอดออกมาจากวงแหวนแสงนั้น คลื่นเสียงนั้นกระแทกเข้ากับร่างเฉินผิงราวกับคลื่นมหาสมุทรซัดเข้าใส่

“จะบอกอะไรให้นะ เฉินผิง นี่คือวงแหวนจู้เซียน มันเป็นวิชาของนักเวทย์ที่กล่าวไว้ในคัมภีร์โบราณอายุหลายศตวรรษ แกหนีออกไปไม่รอดทั้งยังเป็นๆ อยู่หรอกนะ”

หนิงจื้อจ้องเฉินผิงขณะที่ใบหน้าเขาบิดเบี้ยว

ในการเสกคาถาดังกล่าวนั้น ทำให้หนิงจื้อเหนื่อยและมันท้าทายความสามารถเขามาก

แต่หนิงจื้อก็ยินดีทุ่มสุดตัวเพื่อให้ได้โอกาสสังหารเฉินผิง

แสงสีดำยังคงแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ และแรงกดดันก็ยังโจมตีไม่หยุดยั้ง ทุกอย่างที่ถูกคลื่นกระแทกเข้าสัมผัสต่างก็สลายกลายเป็นฝุ่นผง

ขณะที่พลังนั้นแผ่ไปทั่วบริเวณ แม้แต่เศษหินหรือก้อนอิฐในที่ดินแห่งนั้นก็ยังกลายเป็นฝุ่นผง ไม่มีอะไรที่อยู่ภายในรัศมีหลายร้อยเมตรรอดพ้นไปได้ แม้แต่ซากศพของคนที่ถูกสังหารด้วยพลังลมปราณของหนิงจื้อก็สลายไปจนกลายเป็นเลือดและเศษเนื้อบดละเอียด

หอคอยสะกดมารที่อยู่ใกล้ๆ นั้นส่งเสียงดังก้องราวกับกำลังต่อต้านแรงกดดันมหาศาลจากพลังนั้น

นอกจากเฉินผิงและหนิงจื้อที่อยู่บนผืนดินอันแห้งแล้งเป็นพันตารางเมตรนี้แล้ว ก็มีแค่หอคอยสะกดมารเท่านั้นที่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่เช่นเดิม

เฉินผิงรู้สึกถึงแรงกดดันบดขยี้กระดูกเขาและมันส่งเสียงลั่นกรอบแกรบไม่หยุดหย่อน

แรงดันเข้ามาเป็นระลอกโดยไม่เว้นช่องว่างให้เฉินผิงได้หายใจเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร