หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1963

ถึงกระนั้น พวกเขาก็ไม่อาจต่อกรกับฝ่ายตรงข้ามได้ เมื่อดูจากเหตุการณ์ที่พลิกผัน ชายสี่คนที่สวมเสื้อคลุมสีทองรมดำคือปราชญ์ยุทธ์อย่างไม่ต้องสงสัย

หงเชียนจิ่วที่นอนอยู่บนพื้นและคนอื่นๆ จ้องมองชายสี่ด้วยความหวาดกลัว พลังของปราชญ์ยุทธ์ทั้งสี่นั้นเกินกว่าที่เราจะจัดการได้!

เมื่อได้เห็นภาพนั้น คนของตระกูลอื่นๆ ต่างรีบวิ่งไปที่ด้านหนิงจื้อ พวกเขาสร้างพันธมิตรฝ่ายใหม่ขึ้นโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้ว่าการแทรกแซงของหนิงจื้อนั้นไม่ใช่เพื่อปกป้องหรือช่วยเหลือพวกเขา แต่เพื่อเอาชีวิตของพวกเขาต่างหาก

หนิงจื้อมองไปที่หงเชียนจิ่วและถามพร้อมยิ้มเย้ย“ ทีนี้ให้ทุกคนเข้าไปได้หรือยัง?”

หงเชียนจิ่วไม่ตอบ แต่เขาก้มหัวลง เมื่อเผชิญกับพลังอันเป็นที่สุด เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมจำนน

ต่อจากนั้น หนิงจื้อก็ตะโกนว่า “เอาล่ะ ตอนนี้ทุกคนสามารถเข้าไปได้อย่างเป็นระเบียบแล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฝูงชนก็กรูกันเข้าไปในซากปรักหักพังโบราณ ทั้งตะเกียกตะกายและแม้แต่เหยียบย่ำกันเอง

หนิงจื้อขยับมุมปากเป็นรอยยิ้มขณะเฝ้าดูเหตุการณ์ตรงหน้า

“คนเหล่านี้ไม่ได้มาจากตระกูลผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไป พวกเขาเป็นผู้ใช้วิชามาร…” โจวเจี๋ยพูดด้วยใบหน้าซีดเซียวขณะจ้องมองชายทั้งสี่ในชุดคลุมสีทองรมดำ

แม้ว่าพวกเขาจะเปลี่ยนชุดแล้ว แต่โจวเจี๋ยก็พอจะมองออกตอนที่พวกเขาแสดงฝีมือก่อนหน้านี้

ท้ายที่สุดแล้ว สำนักมารและสำนักใจทมิฬต่างก็มีสายเลือดเดียวกัน ดังนั้นเธอจึงสามารถสัมผัสได้ถึงรัศมีของชายทั้งสี่คนนั้น

หูหม่าซือ เก๋อฝูไห่ และคนอื่นๆ ตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของโจวเจี๋ย

ตรงกันข้าม เฉินผิงตอบอย่างใจเย็นว่า “ผมรู้ พวกเขาคือนักรบระดับเสื้อคลุมทองรมดำของสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งจิงตู และชายที่สวมชุดสีดำและทองก็คือหนิงจื้อ”

“พวกเขาเป็นคนจากสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้?”

หูหม่าซือ เก๋อฝูไห่ และคนที่เหลือในกลุ่มต่างประหลาดใจ

พวกเขาไม่คาดคิดว่าคนจากสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้จะปรากฏตัว แถมยังเป็นปราชญ์ยุทธ์ถึงสี่คน

“ทำไมสมาชิกของสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ถึงช่วยคนที่มาจากตระกูลทรงอิทธิพลเหล่านี้? ไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องการผูกขาดซากปรักหักพังโบราณและครอบครองเกาะเผิงไหลหรอกเหรอ?” หูหม่าซือถาม เขาดูงุนงง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร