หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1971

สรุปบท ตอนที่ 1971 คืนชีพ: หัตถ์เทวะราชันมังกร

ตอนที่ 1971 คืนชีพ – ตอนที่ต้องอ่านของ หัตถ์เทวะราชันมังกร

ตอนนี้ของ หัตถ์เทวะราชันมังกร โดย อาร์ม ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย ประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1971 คืนชีพ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

หนิงจื้อเดินไปที่แท่นบูชาช้าๆ โดยไม่สนใจใคร พวกเสื้อคลุมสีทองรมดำทั้งสี่ยืนอยู่ทางซ้ายและขวาของเขา และทุกคนทำได้เพียงเฝ้าดูเงียบๆ

แม้แต่หลิวฉางก็ยังขมวดคิ้ว เขาคงจะนำนักสู้มามากกว่านี้ ถ้าเขารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

เมื่อพลังวิญญาณถูกฟื้นฟูแล้ว มันก็ไม่ถูกจำกัดโดยกฎธรรมชาติอีกต่อไป และความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณก็ได้รับการฟื้นฟู

เฉินผิงมองไปที่หนิงจื้อซึ่งเข้าใกล้แท่นบูชามากขึ้นเรื่อยๆ เขากำหมัดแน่น แต่หูหม่าซือรั้งเฉินผิงเอาไว้เบาๆ พร้อมส่ายหัว

พวกเสื้อคลุมสีทองรมดำทั้งสี่เป็นปราชญ์ยุทธ์ เฉินผิงไม่มีโอกาสชนะได้เลยถ้าเขาจะสู้ในตอนนี้

นอกจากนี้ คนที่อยู่รอบตัวเขาล้วนมีเป้าหมายของใครของมัน ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีใครยื่นมือเข้าช่วย

หนิงจื้อไปถึงแท่นบูชา เขายืนอาบรัศมีที่แผ่ออกมาจากร่างของเขา ในขณะที่เขาดูเหมือนจะกำลังปลาบปลื้มกับตัวเอง

ไม่ช้าร่างของหนิงจื้อก็เริ่มสั่นอย่างรุนแรง จากนั้นเงาสีดำก็ค่อยๆ แยกออกจากร่างของหนิงจื้อ

รัศมีอันน่าเกรงขามที่แผ่ออกมาจากร่างของหนิงจื้ออ่อนแรงลงอย่างมาก หลังจากที่เงานั้นแยกตัวออกมา

เงายืนอยู่หน้าแท่นบูชาและวางมือลงบนแท่นนั้นอย่างแผ่วเบา

จากนั้นลำแสงก็เข้าสู่ร่างของเงา และเงานั้นก็ค่อยๆ ก่อเป็นรูปเป็นร่าง ในที่สุดก็กลายเป็นคนตัวเป็นๆ

มันคือทูตมารที่เคยอยู่ในร่างของหนิงจื้อ

ทูตมารมองไปที่ร่างของเขาแล้วหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งในทันใด “ฮ่าๆๆ! พลังวิญญาณได้ฟื้นฟูกลับมาแล้ว และฉันก็ไม่ต้องใช้ชีวิตในความมืดอีกต่อไป...”

แม้ว่าพลังของหนิงจื้อจะอ่อนลงอย่างมากจากการที่ทูตมารแยกออกจากร่างของเขา แต่เขาก็ไม่กล้าปริปากบ่นและรีบคุกเข่าลงกับพื้น

“ยินดีต้อนรับกลับสู่โลกคนเป็น ท่านทูตมาร!” หนิงจื้อป่าวประกาศสุดเสียง

พวกเสื้อคลุมทองรมดำทั้งสี่คุกเข่าลงและตะโกนพร้อมๆ กัน

ผู้คนจำนวนมากจากสำนักต่างๆ และตระกูลทรงอิทธิพลที่เห็นทุกอย่างต่อหน้าต่อตาก็อดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึกๆ

รัศมีที่เปล่งออกมาจากเขานั้นมาจากระดับปราชญ์ยุทธ์ไม่ผิดแน่

แม้แต่พวกลูกน้องของเขาก็ยังบรรลุถึงระดับขุนพลยุทธ์ขั้นสูงสุด

ความแข็งแกร่งระดับนี้ทำเอาทุกคนประหลาดใจ พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าในหมู่คนกลุ่มนี้จะมีคนที่บรรลุถึงขั้นปราชญ์ยุทธ์ด้วย

หนิงจื้อสัมผัสได้ว่าคนๆ นั้นคือหลิวฉาง เขาขมวดคิ้วเพราะเขาไม่นึกมาก่อนว่าจะมีปราชญ์ยุทธ์ปะปนอยู่กับคนพวกนี้

อย่างไรก็ตาม หนิงจื้อไม่ก็เกรงกลัวเพราะมีแค่หลิวฉางเท่านั้นที่เป็นปราชญ์ยุทธ์

หนิงจื้อรู้สึกประหลาดใจ เนื่องจากมีปราชญ์ยุทธ์เพียงไม่กี่คนในทั่วทั้งยุทธภพ หากไม่ได้รับการอุปถัมภ์จากสำนักใจทมิฬ พวกระดับเสื้อคลุมทองรมดำเหล่านี้จะไม่มีทางไปถึงระดับปราชญ์ยุทธ์ได้

แล้วปราชญ์ยุทธ์วัยหนุ่มที่ยืนอยู่ต่อหน้าฉันเป็นใครกัน? เขามาจากตระกูลไหน เขาสามารถบรรลุถึงขั้นปราชญ์ยุทธ์ตั้งแต่อายุยังน้อยได้ยังไง?

ขณะที่หนิงจื้อกำลังงุนงง ทูตมารก็เย้ยหยันอย่างเย็นชา “เหตุใดเจ้าหนูปลายแถวจากปราสาทจันทร์เสี้ยวอันเล็กกะจ้อยร่อยและต่ำต้อยถึงกล้าพูดจาใหญ่โตเพียงนี้? ต่อให้หลิวปู้เหว่ยพ่อของแกอยู่ที่นี่ เขาก็คงไม่กล้าเอ่ยวาจาเช่นนั้น...”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร