หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1979

“อย่างที่คาดไว้ สายเลือดมังกรไม่เคยก้มหัวให้ใคร แม้จะผ่านมาแล้วหลายพันปี ถึงกระนั้น บุตรแห่งมังกรกลับอ่อนแอลงมาก” ซย่ามัวกล่าวขณะที่เขามองเฉินผิงด้วยท่าทีสงสัยใคร่รู้

“คุณจะบอกว่าผมเป็นสายเลือดมังกรงั้นเหรอ?” เฉินผิงถามเพื่อตอบกลับความเห็นนั้น

เขารู้สึกตื่นเต้นที่มีโอกาสได้รู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดของเขาจากซย่ามัว และอาจได้รู้ว่าพ่อของเขาเป็นใคร

ซย่ามัวกลับส่ายหัว “แกยังไม่ใช่สายเลือดมังกร ไม่มีทางที่จะมีพวกเขาคนไหนอ่อนแอเหมือนแกเรื่องมันก็เท่านั้น แกใช้หมัดเซิ่งกวงแสดงพลังที่เข้าท่าไม่เบา มันเป็นวิชาที่ทรงพลังที่สุดของมารเฒ่า แกทำยังไงถึงได้เรียนวิชานั้น?” ซย่ามัวถาม

“มารเฒ่า?” เฉินผิงไม่รู้จักมารเฒ่าที่ไหนเลย เขาเรียนหมัดเซิ่งกวงในหอสะกดมารจากวิญญาณของชายชราที่ต่อมาก็จากเขาไป

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวตนของชายชราคนนั้นเป็นใคร นับประสาอะไรกับมารเฒ่า

หลังจากเฉินผิงอธิบายวิธีที่เขาเรียนรู้หมัดเซิ่งกวง เขาก็ต้องแปลกใจที่ได้ยินเสียงซย่ามัวหัวเราะออกมาอย่างรื่นรมย์

“ฮ่าๆๆ วิญญาณของตาแก่นั่นถูกสะกดไว้ภายในหอคอย ชะตากรรมของมันเลวร้ายยิ่งกว่าของฉันมาก”

แม้ซย่ามัวจะหัวเราะ แต่ใครๆ ก็สามารถบอกได้ว่าเขาและชายชราน่าจะเป็นเพื่อนกัน

“การที่แกช่วยมารเฒ่าและได้รับหมัดเซิ่งกวงมาจากมัน เป็นการพิสูจน์ว่าแกเป็นศิษย์ของมัน ตอนนี้ฉันฟื้นคืนชีพแล้ว ฉันจะมอบพรให้แก นี่คือวิธีที่ฉันจะใช้ตอบแทนแกในส่วนของมารเฒ่า” ซย่ามัวเสนอ

จากนั้นซย่ามัวก็ระงับรัศมีของเขา ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นสามารถลุกขึ้นยืนได้

เมื่อจู่ๆ เขาก็ยื่นข้อเสนอ เฉินผิงที่ยังไม่พร้อมก็ไม่รู้จะขออะไร

ในขณะเดียวกัน ทูตมารตกตะลึงกับสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยิน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเฉินผิงขอให้ฆ่าเรา? แบบนั้นไม่เท่ากับว่าเราจะจบเห่กันหมดเหรอ?

“ท่านซย่ามัว ท่านทำแบบนี้ไม่ได้ ชายผู้นี้เป็นศัตรูตัวฉกาจของวิญญาณปีศาจ!”

ทูตมารพยายามห้ามซย่ามัวอย่างร้อนรน

"แกคือใคร?" ซย่ามัวถาม

“ผมเป็นสมาชิกของสำนักใจทมิฬ” ทูตมารตอบอย่างรวดเร็ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร