หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 2941

“ฉันอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย?” เฉินผิงรู้สึกมึนงงอยู่บ้าง

ไม่นานเกาฉี่เฉียงก็ปรากฎตัวพลางปลอบใจเฉินผิง “คุณเฉิน ไม่ต้องกลัวนะครับ นี่คือจุติภูมิของผมเอง”

บริเวณที่แต่เดิมมืดสลัวเริ่มเกิดการสั่นสะเทือนและแสงช่วงโชติกลุ่มหนึ่งก็ค่อยๆ ปรากฎขึ้นมา

เฉินผิงสังเกตเห็นว่าห้องหับภายในพระราชวังบ้างก็เต็มไปด้วยแสงหลากสีสัน บ้างก็มีแต่สีทึมเทา

“สิ่งที่ผมสัมผัสได้ก็คือจุติน้ำแข็ง แสงหลากสีสันพวกนั้นคือจุติรัศมี ขณะที่ห้องสีทึมเทาพวกนั้นยังขาดจุติรัศมีอยู่” เกาฉี่เฉียงอธิบายกับเฉินผิง

“ประมุขเกา คุณฝ่าทะลวงระดับวิบัติจนเลื่อนขึ้นสู่ระดับมหายานแล้วเหรอ?” เฉินผิงเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

เกาฉี่เฉียงส่ายหน้า “ผมยังฝ่าทะลวงระดับวิบัติไม่ได้หรอก แต่ผมสัมผัสได้ว่าจุติน้ำแข็งเกิดความก้าวหน้า แม้กระนั้นหลังจากบากบั่นมาหลายปีขนาดนั้น ผมก็เพิ่งจะหล่อหลอมจุติรัศมีได้เพียงน้อยนิด ผมหวังว่าเมื่อฝ่าทะลวงระดับวิบัติได้แล้วก็จะสามารถเติมเต็มจุติภูมิของตัวเองได้ ผมอยากจะขยายจุติภูมิของตนเองให้กว้างใหญ่ไพศาลพอๆ กับเมืองหนึ่ง แค่นั้นก็พอใจแล้วล่ะ”

“ประมุขเกา หรือว่าจุติภูมิของทุกคนยึดเอารูปแบบของพระราชวัง?” เฉินผิงนึกสงสัยขึ้นมาว่าจุติภูมิของผู้บำเพ็ญเพียรจะเหมือนกับชีพจรตันเถียนที่ทุกคนต่างก็มีหรือไม่

“แน่นอนว่าไม่อยู่แล้ว บริเวณที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากจุติสัญชานที่แตกต่างกัน บ้างก็ถือกำเนิดขึ้นมาจากมหาสมุทร บ้างก็ถือกำเนิดขึ้นมาจากสระน้ำและบ้างก็อาจจะเป็นแค่บ้านหลังเล็กๆ ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญเพียรทุกคนที่จะสัมผัสได้ถึงจุติภูมิอันน่าเกรงขาม อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับขนาดของจุติภูมิ ยิ่งจุติภูมิมีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ ขีดความสามารถและผลสำเร็จในภายภาคหน้าก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น” เกาฉี่เฉียงสาธยายให้ฟัง

“ในเมื่อเป็นแบบนั้น จุติสัญชานของทุกคนก็ไม่เหมือนกันใช่ไหม?” เฉินผิงถามต่อไปด้วยความสงสัย

เฉินผิงชักจะรู้สึกสนใจขึ้นมาเสียแล้ว จุติรัศมีที่แผ่ออกมาจากต้าหลัวจินเตี้ยนเป็นแบบไหนกันแน่?

เกาฉี่เฉียงขมวดคิ้ว “ผมรู้แค่มันคือจุติรัศมี แต่ผมไม่แน่ใจว่าเป็นแบบไหน คุณก็รู้จักจุติรัศมีภายในร่างกายของตัวเองไม่ใช่หรือไง?” เกาฉี่เฉียงรู้สึกฉงนสนเท่ห์ เขาจะไม่รู้จักจุติรัศมีของตัวเองได้ยังไง?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร