หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 3724

“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงได้สั่งให้เจ้าตำหนักมาพบ? ถ้าเจ้าตำหนักของพวกเรามาล่ะก็ เจ้าได้ตายแน่ๆ!”

หลานอิ๋งอิ๋งตวาดใส่เฉินผิงด้วยท่าทีเดือดดาล

“ในเมื่อเจ้าไม่ยอมเรียกให้นางออกมา งั้นข้าก็จะไปคิดบัญชีกับนางด้วยตัวเองก็แล้วกัน...” เฉินผิงกล่าวพลางเตรียมตัวมุ่งหน้าไปที่ประตูชั้นใน

เฉินผิงอดรนทนไม่ไหวเพราะธิดาเทพแห่งตำหนักก่วงหานใช้ผู้หญิงของเขาเพื่อล่อให้เขาเข้ามาในอาคมลวงตา

ต่อให้ล้วนเป็นเรื่องหลอกลวง แต่เฉินผิงกลับรู้สึกราวกับถูกสวมเขาก็ไม่ปาน

“หยุดนะ!” หลานอิ๋งอิ๋งขวางทางเฉินผิงเอาไว้

เฉินผิงขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “นี่มันเรื่องอะไรกันล่ะเนี่ย? ข้าเดินเข้ามาที่นี่ด้วยตัวเองแล้ว ตอนนี้เจ้ายังคิดจะไล่ข้าออกไปอีกงั้นเหรอ? ตำหนักก่วงหานยึดมั่นในกฎระเบียบนักไม่ใช่รึไงกัน?”

เฉินผิงเจตนาขึ้นเสียงเพื่อเน้นความสำคัญของการเคร่งครัดในกฎระเบียบ อย่างไรเสีย หลานอิ๋งอิ๋งก็ขึ้นชื่อในเรื่องความเปิดเผยซื่อตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่มู่ขุยกำลังรอแถวอยู่นั้น ทว่าเมื่อมู่ขุยมองเหรียญตราของผู้อาวุโสให้ เรื่องราวก็พลิกกลับตาลปัตร ทำให้หลานอิ๋งอิ๋งไม่มีทางเลือกนอกเสียจากยอมปฏิบัติตาม

“แน่นอนว่าตำหนักก่วงหานของพวกเรายึดมั่นในกฎระเบียบ ในเมื่อเจ้าสามารถฝ่าอาคมลวงตาจนเข้ามามาที่นี่ได้ วางใจเถอะ พวกเราย่อมไม่ขับไล่เจ้าออกไปอยู่แล้วล่ะ เจ้าเลือกผู้บำเพ็ญสตรีที่ตัวเองชอบแล้วเอาชนะพวกนางด้วยการประลองฝีมือก็จะได้สร้างสายสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณ! แต่ถ้าเจ้าอยากจะเข้าสู่ประตูชั้นใน เจ้าก็ต้องทนรับการทดสอบ ไม่เพียงแต่เจ้าเท่านั้น แม้แต่เหล่าผู้บำเพ็ญเพียรที่ข้าพามาด้วย พวกนางก็ต้องผ่านการทดสอบเพื่อเข้าสู่ประตูชั้นในเหมือนกัน! เนื่องจากคราวนี้เป็นกรณีพิเศษจึงจำเป็นต้องผ่านการทดสอบ แต่ถ้าผ่านการทดสอบได้ วันหน้าก็จะมีโอกาสครั้งใหญ่รอคอยแกอยู่ ขอเพียงแค่เจ้าผ่านการทดสอบ ไม่ใช่แค่สามารถชนะใจสาวงามได้ แต่ยังเดินทางไปแดนขั้วโลกด้วยกันเพื่อสำรวจสุสานเทพเจ้า และถ้าโชคเข้าข้างก็อาจจะเจอศาสตราวุธเทพก็เป็นได้” หลานอิ๋งอิ๋งบอกเฉินผิง

ถึงแม้ว่าหลานอิ๋งอิ๋งจะโกรธเคืองที่เฉินผิงทำลายวงแหวนอาคมของตำหนักก่วงหาน แต่นางก็ไม่ได้หาเรื่องเฉินผิงให้มากเกินไปนัก

ทว่านางกลับอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับกฎของตำหนักก่วงหานให้ฟัง

ควรทราบว่าส่วนใหญ่ผู้บำเพ็ญเพียรหนุ่มสาวพวกนั้นที่มาเยือนถึงตำหนักก่วงหานตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็เพื่อตามหาคู่บำเพ็ญพรต แน่นอนว่าบางคนก็เคยได้ยินเรื่องการเดินทางไปแดนขั้วโลกของตำหนักก่วงหานก็เลยตั้งใจมาที่นี่เป็นพิเศษ

แต่เฉินผิงกลับไม่ใช่ทั้งสองอย่างนี้ เขาเพียงแค่อยากจะพบเจ้าตำหนักก่วงหานจึงบุกเข้ามาในตำหนัก แบบนั้นออกจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างผิดสามัญนัก

“ถ้าเจ้าอยากจะพบเจ้าตำหนักก่วงหานก็ต้องผ่านการทดสอบ ไม่งั้นก็ไม่มีทางที่จะเข้าสู่ประตูชั้นในได้หรอกนะ!” หลานอิ๋งอิ๋งกล่าวกับเฉินผิง

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เฉินผิงก็ได้แต่ตอบอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ก็ได้ เจ้าคิดจะทดสอบข้ายังไงล่ะ? รีบๆ หน่อยเถอะ เวลาของข้าล้ำค่ามากเชียวนะ...”

เมื่อรู้ว่าเฉินผิงไม่เห็นการทดสอบของตำหนักก่วงหานอยู่ในสายตา หลานอิ๋งอิ๋งก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมาว่า “อย่าคิดว่าตัวเองไร้เทียมทานเพียงเพราะเจ้าสามารถฝ่าอาคมลวงตาของตำหนักก่วงหานได้ ข้าจะบอกแกให้นะว่าการที่แกฝ่าอาคมลวงตามาได้ ก็น่าจะเป็นเพราะโชคช่วย ยังไงซะ อาคมลวงตามีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้จิตใจสับสนว้าวุ่น ถ้าเจ้ามีจิตอันแก่กล้าก็จะผ่านไปได้ แต่คราวนี้จะเป็นการทดสอบวัดความแข็งแกร่งที่แท้จริง ถ้าเจ้าคิดจะพึ่งพาอาศัยพลังระดับผู้ทุกข์ยากขั้นสามเพื่อที่จะผ่านพ้นการทดสอบครั้งนี้ไปให้ได้ ก็แค่ฝันเฟื่องเท่านั้นแหละ”